โบลิเวียระส่ำ 'โมราเลส' เผ่นลี้ภัยการเมืองที่เม็กซิโก


เพิ่มเพื่อน    

เอโบ โมราเลส อดีตประธานาธิบดีฝ่ายซ้ายโบลิเวีย ขึ้นเครื่องบินที่ทางการเม็กซิโกจัดส่งมารับเมื่อวันจันทร์เพื่อลี้ภัยการเมืองที่เม็กซิโก ขณะสถานการณ์ในโบลิเวียวุ่นวายหนัก ตำรวจขอร้องทหารช่วยควบคุมสถานการณ์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยินดีโมราเลสลาออก ชื่นชมบทบาทกองทัพโบลิเวีย

ชาวบ้านออกมารวมตัวบนถนนขณะรถตำรวจลาดตระเวนผ่าน ที่กรุงลาปาซ เมื่อวันจันทร์ /  AFP

    รายงานเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน กล่าวว่า เอโบ โมราเลส ประธานาธิบดีที่เป็นชนพื้นเมืองคนแรกของโบลิเวีย ขึ้นเครื่องบินทหารที่เม็กซิโกส่งมารับ เดินทางไปยังเม็กซิโกเพื่อลี้ภัยทางการเมืองแล้วเมื่อวันจันทร์

    โมราเลสทวีตว่า เป็นเรื่องเจ็บปวดที่เขาต้องออกจากประเทศนี้ด้วยเหตุผลทางการเมือง แต่เขาจะจับตาดูอยู่ตลอดเวลา และจะกลับมาในอีกไม่ช้าด้วยพลังงานและความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    การลาออกของอดีตผู้นำฝ่ายซ้ายวัย 60 ปี ที่ครองอำนาจนานร่วม 14 ปี ส่งผลให้โบลิเวียปราศจากผู้นำ เนื่องจากรองประธานาธิบดี, ประธานวุฒิสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนตามลำดับนั้น พากันลาออกตามไปด้วย โดย ส.ว.จีไนน์ อาเยซ รองประธานวุฒิสภา ประกาศทำหน้าที่ประธานาธิบดีรักษาการ และรับปากจะจัดการเลือกตั้งใหม่เพื่อยุติวิกฤติการเมืองของประเทศ โดยจะถ่ายโอนอำนาจให้รัฐบาลใหม่ภายในวันที่ 22 มกราคม

    สถานการณ์วุ่นวายครั้งนี้เกิดขึ้น 3 สัปดาห์หลังการเลือกตั้ง ที่โมราเลสชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 4 อย่างน่ากังขา จนทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง มีคนเสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บอีกนับพันคน

    เมื่อวันอาทิตย์ องค์การรัฐอเมริกา (โอเอเอส) ออกรายงานผลการสังเกตการณ์การเลือกตั้งของโบลิเวียว่ามีการทุจริตหลายด้านและเรียกร้องให้โบลิเวียเลือกตั้งใหม่ โมราเลสยอมทำตาม แต่เขากลับโดนผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจกดดันให้ลาออก

    หลังแถลงลาออกทางโทรทัศน์ในวันอาทิตย์ ประชาชนพากันออกมาฉลองตามท้องถนนในกรุงลาปาซ ทว่าหลังจากนั้นผู้สนับสนุนโมราเลสที่ไม่พอใจออกมาประท้วงก่อความวุ่นวาย สถานการณ์ยังคงลุกลามถึงวันจันทร์ กลุ่มม็อบออกโจมตีสถานีตำรวจหลายแห่งและทำร้ายประชาชน โจรออกปล้นสะดม ก่อความตื่นตระหนกไปทั่ว ร้านค้าและสำนักงานในกรุงลาปาซปิดทำการในวันจันทร์ ตกกลางคืนผู้สนับสนุนโมราเลสนับพันคนเดินทางจากเมืองเอลอัลโตเข้ากรุงมาชุมนุมประท้วงด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดี

    ตำรวจโบลิเวีย ซึ่งหลายหน่วยเข้าร่วมการประท้วงนับแต่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้โมราเลสชนะ พยายามควบคุมสถานการณ์ แต่ก็เกินกำลัง ทำให้ต้องร้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพ ต่อมาพลเอกวิลเลียมส์ กาลิมัน ผู้บัญชาการทหาร แถลงทางโทรทัศน์ว่า กองบัญชาการของเหล่าทัพจัดเตรียมปฏิบัติการร่วมกับตำรวจแล้ว เพื่อป้องกันการนองเลือดและการต่อสู้กันเองระหว่างชาวโบลิเวีย

    เมื่อคืนวันจันทร์ โมราเลสอ้างผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า บ้าน 2 หลังของเขาโดน "พวกทำลายทรัพย์สิน" บุกโจมตี ขณะที่คาร์ลอส เมซา ผู้นำฝ่ายค้าน ก็ทวีตเช่นกันว่า "ม็อบหัวรุนแรง" กำลังมุ่งมาถล่มบ้านของเขา

    ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวถึงการลาออกของโมราเลสว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับประชาธิปไตยในซีกโลกตะวันตก พร้อมทั้งยกย่องบทบาทของกองทัพโบลิเวีย

    "เหตุการณ์เหล่านี้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงระบอบที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในเวเนซุเอลาและนิการากัวว่า ประชาธิปไตยและเจตจำนงของประชาชนจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ" ทรัมป์กล่าวโดยพาดพิงถึงชาติลาตินอเมริกาฝ่ายซ้ายคู่ปรับของรัฐบาลเขา.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"