ประณามโจรใต้ใช้คนแก่และเด็กเป็นเหยื่อก่อเหตุไม่สงบ หลังยิงสองปู่-ย่าเสียชีวิต ส่วนหลานวัย 2 ขวบบาดเจ็บ หน่วยงานด้านความมั่นคงเตือนคนร้ายเตรียมลอบกัด ชรบ.ซ้ำในพื้นที่ยะลา ปัตตานี และสงขลา

    จากกรณีคนร้ายก่อเหตุยิงชาวบ้านเสียชีวิต 2 รายคือ นายอนุกูล ขุนแก้ว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/3 ม.3 ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ไอ สีดำ-เทา ทะเบียน 1 กฎ 4678 ยะลา กลับจากตลาดนัดเพื่อกลับบ้านพัก ถนนสายชลประทาน-แม่ลาน มีนางยุพิน ขุนแก้ว อายุ 55 ปี ภรรยาเสียชีวิต และ ด.ญ.จันทราการต์ อินทพรหม หลานสาว อายุ 2 ขวบ นั่งซ้อนท้ายบาดเจ็บ เมื่อเย็นวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
    เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ณัฐนนท์ อินทองมาก รอง สว.(สอบสวน) สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่ (จนท.) พิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังตำรวจทหาร ได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบรอบๆ ไม่พบปลอกกระสุนหรือหลักฐานใดๆ มีเพียงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ไอ สีดำ-เทา ทะเบียน 1 กฎ 4678 ยะลา ที่ล้มคว่ำอยู่ในป่าพงหญ้าข้างทาง
    จากเหตุการณ์ครั้งนี้ จนท.ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายใช้อาวุธปืน .38ในการก่อเหตุ ส่วนกลุ่มคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มที่สร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและตอบโต้ จนท.รัฐที่ติดตามไล่ล่าโดยก่อเหตุยิงผู้บริสุทธิ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จนท.กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆ เพื่อตรวจสอบคนร้ายกลุ่มนี้ว่าเป็นกลุ่มไหน
    สำหรับนายอนุกูลและนางยุพิน สามีภรรยาทั้ง 2 คนที่ถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น  ในวันที่ 16 พ ย.62 เวลา 14.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพ ณ วัดโพธาราม บ้านละโพะ หมู่ที่ 3 ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วัดโพธาราม ซึ่งศพผู้เสียชีวิตทั้งสองถูกนำมาบำเพ็ญกุศล มีบุตร 2 คน และญาติพี่น้องของครอบครัวผู้เสียชีวิตมาร่วมงานท่ามกลางความเศร้าสลด
    ส.ต.อ.สุรกานต์ ขุนแก้ว ผบ.หมู่ ปพ.ภ.จว.ยะลา ช่วยราชการ ฝอ.4 ภ.จว.ยะลา บุตรชายผู้เสียชีวิตเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นตำรวจอยู่ที่ จ.ยะลา กลับมาเยี่ยมบ้านบ่อยๆ เพราะอยู่ไม่ไกล แต่พ่อแม่ที่เสียชีวิตทำอาชีพตัดยาง อาศัยอยู่กับพี่สาวที่บ้าน เมื่อทราบข่าวพ่อแม่ถูกยิงเสียชีวิตจึงกลับมาบ้าน ส่วนเด็กที่บาดเจ็บเป็นลูกของพี่สาว มีอาการบวมที่หน้าผากเพราะช่วงเกิดเหตุรถล้มตอนนี้อยู่บ้านแล้วปลอดภัยดี
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้รู้สึกเสียใจและทำใจไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวของตน แต่ตนเอง ครอบครัวและชาวบ้านที่นี่ต้องอยู่ต่อไปให้ได้ ถึงแม้นว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นก็ตาม สำหรับตนเองก็คงทำงานเป็นตำรวจที่ยะลาเหมือนเดิม
    ส.ต.อ.สุรกานต์กล่าวอีกว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังเป็นอยู่ในขณะนี้น่าจะจบได้แล้ว ซึ่งการแก้ปัญหาทุกๆ ฝ่าย หลายๆ ด้านจะต้องระดมช่วยกันแก้ปัญหาให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจบสิ้นโดยเร็ว
    ส่วนนายประเสริฐ์ พระระไชย ชาวบ้านบ้านพะโละ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ตายเผยว่า ตนเคยถูกยิงมาแล้วระหว่างทางกลับบ้าน เกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกันเมื่อปี 2551 หลังจากนั้นเหตุการณ์เริ่มปกติ และไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่ไปไหนมาไหนต้องระมัดระวัง ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับหมู่บ้านอีก รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ต้องสูญเสีย 2 คน อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้มีการลาดตระเวนบ่อยๆ เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยของพวกเรา
    ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวว่า พฤติกรรมคนร้าย จากการสอบถามใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนร้าย 4 คน ใส่หมวกปีก 2-3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ซึ่งเป็นรถสีดำและสีน้ำเงินประกบยิง แล้วมุ่งหน้าไปทาง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
    ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับญาติ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งรัดเข้าให้การช่วยเหลือเยียวยาในขั้นต้นเป็นการเร่งด่วน และให้หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีสนธิกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดร่วมกับกำลังประจำถิ่นและภาคประชาชน ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป    เขากล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุได้เลือกกระทำต่อผู้บริสุทธิ์ซึ่งเป็นเพียงคนชราและเด็ก เป็นการกระทำที่โหดร้าย ไร้ซึ่งมนุษยธรรม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน หากรู้เบาะแสคนร้าย หรือพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้โดยตรงที่เบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ใกล้เคียง
    มีรายงานว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แจ้งเตือนหน่วยกำลังในพื้นที่ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากคนร้ายเตรียมก่อเหตุ ทั้งนี้ เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายในช่วงที่ผ่านมา และการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุโจมตีจุดตรวจ ชรบ.บ้านทางลุ่ม ม.5 ต.ลำพะยา อ.เมืองฯ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 พ.ย.62 รวมถึงการปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนสอนศาสนาในพื้นที่ ต.ลำพะยา อ.เมืองฯ จ.ยะลา อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้กลุ่มคนร้ายเตรียมก่อเหตุสร้างสถานการณ์เพื่อตอบโต้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ด้วยการก่อเหตุซุ่มยิง ยิงก่อกวนฐานปฏิบัติการ, จุดตรวจ/ด่านตรวจ และก่อเหตุลอบวางระเบิด แสวงเครื่องแบบเร่งด่วน บริเวณเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการปฏิบัติงาน 
    เน้นย้ำการโจมตีต่อกำลังภาคประชาชน เช่น ชคต., ชรบ. และ จนท.ที่เดินทางโดยลำพัง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ ต.กาตอง, ต.บาโร๊ะ, ต.บาโงยซิแน อ.ยะหา, ต.ยุโป, ต.ท่าสาป, ต.ตาเซะ อ.เมืองฯ จ.ยะลา, ต.ทุ่งพลา, ต.ทรายขาว, ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์, ต.ม่วงเตี้ย, ต.ป่าไร่, ต./อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี, ต.ธารคีรี, ต.เปียน และ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา เพ่งเล็ง ชคต.กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ชคต.บาโร๊ะ, ชคต.กาตองอ.ยะหา, ชคต.ยุโป อ.เมืองฯ จ