มุมดี..ดิจิตอล


เพิ่มเพื่อน    

 

      ทุกเรื่องทุกราวมีหลายแง่หลายมุม สุดแต่ใครจะไขว่คว้ามุมไหนมาบริหารจัดการชีวิต..จริงไหมคะ??

      เหรียญยังมี 2 ด้านเลย แล้วเราจะมองทุกเรื่องราวตามมุมของตัวเองเท่านั้น บางครั้งก็อาจจะทำให้ผิดพลาดหรือผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงได้

      ยิ่งเรามีคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นด้วยคำว่า "อาวุโส" เป็นเครื่องกำกับ ประสบการณ์ต่างๆ ที่สะสมมา น่าจะช่วยทำให้มนุษย์ลุงมนุษย์ป้าทั้งหลายสามารถมีมุมมองหลายๆ ด้านที่จะพินิจพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจชี้ถูกชี้ผิดชี้เหมาะชี้ควร..นะคะ

      555 พล่ามเสียยืดยาว ก็เพียงแค่อยากจะแชร์มุมมองใหม่ที่เกิดขึ้นกับเทคโนโลยีอันทันสมัยของยุคดิจิตอลนี่แหละ เพราะแต่ดั้งเดิมนั้น ยอมรับว่า... เป็นคนหนึ่งที่ปฏิเสธความล้ำสมัยเสียจนลืมกันไปแล้วว่าจะช่วยตัวเองอย่างไรเมื่อมือถือเกิดหายขึ้นมา???

      โลกจะแตกกันเลยทีเดียว สำหรับทุกผู้ทุกนามในวันนี้ หากมือถืออันตรธาน เพราะบางคนจำแม้กระทั่งเบอร์มือถือตัวเองยังไม่ได้เลย..จริงไหม???

      ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้สมองของเราไม่ต้องมานั่งจดจำเบอร์โทรศัพท์ สังเกตเส้นทางการเดินทางต่างๆ ถือเป็นความสะดวกสบาย แต่มันก็ยังน่าสงสัยอยู่ว่า เกิดโลกนี้ไฟฟ้าดับ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น.. มันเลยทำให้มนุษย์ป้าคนนี้ยังสองจิตสองใจ ไม่เทคะแนนเต็มร้อยให้กับมุมบวกของยุคดิจิตอลเท่าไรนัก ในทางตรงกันข้ามพยายามเพียรที่จะฝึกตัวเองให้สามารถอยู่กับชีวิตสามัญปกติย้อนหลังไปสัก 10-20 ปีให้ได้

      แต่เมื่อเร็วๆ นี้ คะแนนมุมบวกของยุคดิจิตอลในความรู้สึกของมนุษย์ป้านั้น เพิ่มขึ้นจ้า ด้วยเพราะระหว่างเดินทางไปไกลแสนไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนนั้น เห็นนักธุรกิจผู้บริหารระดับแนวหน้าของบ้านเรา ใช้เวลาที่นั่งอยู่บนรถโค้ชเปิดประชุมทางไกลกับพนักงานในบริษัทที่อยู่กรุงเทพมหานคร เหมือนตัวเองกำกับดูแลกิจการตลอดเวลานั้น สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีนั้นทำให้ชีวิตของนักบริหารนั้นง่ายขึ้น

        "เมื่อก่อนผมเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนมาไกลเกิน 2 วันไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าห่วงงาน แต่เดี๋ยวนี้ผมอยากจะไปไหน ผมก็ไปได้ ลูกน้องก็ไม่ได้รู้สึกว่าเจ้านายหายหัวไปไหน ปล่อยให้เขาทำงานหรือแก้ปัญหาอยู่ฝ่ายเดียว" นี่คือคำอธิบายของผู้บริหารคนดังที่บอกชื่อก็ต้องร้อง...อ๋อ!!

      ชีวิตไม่ได้ยากขึ้นเลย หากเรารู้จักใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ หรือเราทำตัวเป็น "นาย" ของมัน

      บางคนกลายเป็น "ทาส" เทคโนโลยีนี่มันน่าสงสารนะคะ นั่นคือ มีมือถือ 2-3 อัน เวลาจะตักข้าวเข้าปากเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าก็ต้องวางช้อน กำลังจะจิ้มทอดมันสักหน่อย อีกเครื่องก็ดัง..อันนี้มันก็ออกจะเกินไป..ไหมคะ

      ลองคิดใหม่ทำใหม่ คิดว่าเราไม่อยากพัก มือถืออาจจะอยากพักบ้างก็ได้ แค่กินข้าวสัก 10-15 นาที ..ธุระคงไม่พังพินาศหรอกนะ แต่รับรองว่าชีวิตครอบครัวจะโสภาสถาพรค่ะ.

                                                              "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"