โปรดเกล้าฯเพิ่มริ้วขบวน เสด็จฯเลียบพระนครธ.ค.


เพิ่มเพื่อน    

 "ในหลวง” ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มริ้วขบวนราบใหญ่ ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร พระราชพิธีบรมราชาภิเษกทางชลมารค 12 ธ.ค. “นายกฯ” เชิญชวน ปชช.ใส่เสื้อสีเหลืองเฝ้าฯ รับเสด็จ "วิษณุ" เผย 12 ธ.ค.ไม่กำหนดเป็นวันหยุดราชการ

    ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 20 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 2/2562 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้แทนหน่วยงานในพระองค์ ร่วมประชุมด้วย เพื่อรับทราบการเลื่อนวันเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และการจัดริ้วขบวนรับเสด็จพระราชดำเนินจากท่าราชวรดิฐไปยังพระบรมมหาราชวัง 
    ด้วยสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือเรียนราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเลื่อนกำหนดวันที่จะเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ซึ่งกองกิจการในพระองค์ 904 ได้นำความกราบบังคมพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนการดังกล่าวเป็นวันที่ 12 ธันวาคม 2562 เวลา 15.30 น. และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เพิ่มริ้วขบวนราบเสด็จพระราชดำเนินจากท่าราชวรดิฐไปยังพระบรมมหาราชวัง  
    พล.อ.ประยุทธ์เน้นย้ำให้ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนราชประเพณี และให้อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน รวมทั้งเชิญชวนประชาชนที่ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทร่วมกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองเพื่อให้เกิดความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมเพรียงกัน 
    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีฯ ได้มีการหารือถึงกำหนดการและพิธีการเตรียมการ หลังได้มีการเลื่อนการจัดงานออกมาเป็นวันที่ 12 ธันวาคม โดยกำหนดการเดิมคือ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับขบวนพยุหยาตรายังคงใช้เรือจำนวน 52 ลำตามเดิม โดยเรือพระที่นั่งจะคงใช้ 4 ลำใหญ่เช่นเดิม ในส่วนของเรือนำคือ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เชิญพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นพระมงคลที่นำขบวนทุกครั้งในประเทศไทย, ลำที่ 2 คือเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เป็นเรือที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ลำที่ 3 คือเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เป็นของสมเด็จพระบรมวงศ์ และลำที่ 4 คือเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นเรือพระที่นั่งสำรอง นอกจากนั้นเป็นเรือดั้ง เรือแซง เรือรูปสัตว์ และเรือมีชื่อต่างๆ ทั้งหมด 52 ลำ ซึ่งเรียกว่าขบวนพยุหยาตราใหญ่
    นายวิษณุกล่าวว่า ในการจัดพระราชพิธีวันที่ 12 ธันวาคม มีเรื่องใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งไม่ได้อยู่ในกำหนดเดิมของงานพระราชพิธีฯ บัดนี้ได้ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขบวนราบใหญ่เพิ่ม โดยของเดิมเมื่อขบวนเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ ซึ่งมีพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัยอยู่ตรงริมน้ำ เดิมเมื่อมาถึงบริเวณดังกล่าวก็จะเสด็จเข้าประทับที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย แล้วขึ้นรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน แต่บัดนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม โดยเมื่อเรือมาถึงท่าราชวรดิฐ ก็จะเสด็จขึ้นที่พลับพลาก่อนเสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เจ้านายบางพระองค์ อาทิ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จะเสด็จเข้าพลับพลาเพื่อทรงเปลี่ยนฉลองพระองค์
    ต่อจากนั้นก็จะมีขบวนที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ที่เรียกกันว่าขบวนราบใหญ่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคในช่วงที่ผ่านมา คือจะเสด็จออกจากพระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย โดยประทับบนพระที่นั่งพุดตานทอง และเข้าขบวนแห่ โดยทหารกองทัพภาคที่ 1 จะนำขบวน มีคู่เคียงเหมือนริ้วขบวนพยุหยาตราเมื่อคราวที่แล้ว แต่มีขนาดย่อมเยาลงมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีและบุคคลอื่นจะไม่เข้าร่วมขบวน แต่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เข้าร่วมในขบวน
    "สำหรับสมเด็จพระราชินีนั้น ผมยังไม่ทราบชัดเจนว่าจะร่วมขบวนนี้ด้วยหรือไม่ โดยขบวนจะยาตราออกจากท่าราชวรดิฐมาตามถนนมหาราช ก่อนเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน แล้วเลี้ยวขวาเข้าพระบรมมหาราชวังที่ประตูวิเศษไชยศรี แล้วเสด็จฯ ไปสู่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ เพื่อจะเปลี่ยนฉลองพระองค์ แล้วเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยจะไม่มีการไปรับและส่งเสด็จในที่ดังกล่าว โดยทั้งหมดจะส่งแค่ที่พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัยเท่านั้น" นายวิษณุกล่าว
    รองนายกฯ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติว่าจุดที่สวยงามที่สุดคือบริเวณป้อมพระสุเมรุ ซึ่งเป็นบริเวณโค้งน้ำ จึงสามารถมองเห็นเรือ 52 ลำได้อย่างชัดเจน และในการถ่ายทอดประชาสัมพันธ์พระราชพิธีฯ ในครั้งนี้ จะอนุญาตให้ใช้โดรนกว่า 10 ตัว ซึ่งเดิมจะไม่ได้นำมาใช้สำหรับการถ่ายทอดสด
    "เมื่อเสร็จพระราชพิธีทางชลมารคเรียบร้อย เรือทั้ง 52 ลำ จะกลับสู่ที่เดิม ไม่มีการจอดเรือให้ประชาชนถ่ายรูป ทั้งนี้ ในพระราชพิธีฯ วันที่ 12 ธันวาคม จะไม่มีการประกาศเป็นวันหยุดราชการ เพราะช่วงงานพระราชพิธีฯ จะเลยเวลาราชการไปแล้ว โดยขบวนเรือเริ่มในเวลา 15.30 น. มาถึงจุดท่าราชวรดิฐ เวลาประมาณ 16.30 น. จากนั้นจึงเป็นขบวนราบใหญ่ ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 25 นาที ก็จะเลยเวลา 17.00 น.ไปแล้ว" รองนายกฯ กล่าว.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"