
"รปช." จัดงานใหญ่รับ "หมอวรงค์" สมัครสมาชิกพรรค มอบงานทำสาขาพรรคเข้มแข็ง "สุเทพ" ยัน "หม่อมเต่า" นั่งหัวหน้าพรรค-รมว.แรงงานยาวจบครบสมัย รบ. ขณะที่ "วรงค์" ระบุ รปช.เหมาะกับตัวตนมากที่สุด ลั่นปราบพวกชังชาติ เชื่อถ้าได้ทำงานจริงเพื่อนในประชาธิปัตย์จะตามมา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่อาคารทู แปซิฟิค เพลส พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดงานต้อนรับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รปช.แทน
นายสุเทพ เทือกสบุรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรค รปช. กล่าวว่า หลายคนอาจมองว่าพรรคของเราดูเงียบๆ ไป แต่ความจริงเราทำงานทุกวัน เพียงแต่ไม่ได้ออกไปเคลื่อนไหวภายนอกในพื้นที่ต่างๆ เพราะว่าเมื่อเข้าร่วมรัฐบาลได้รับมอบหมายให้ไปดูแลกระทรวงแรงงาน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค รปช. ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เราทั้งพรรคมาร่วมกันระดมความคิดเห็นปรึกษาหารือเพื่อให้กระทรวงแรงงานสามารถที่จะก่อประโยชน์ให้ประเทศชาติในระยะยาว ซึ่งใช้เวลาพอสมควร
เขากล่าวว่า แต่ละพื้นที่ พรรคต้องมีสาขาพรรคที่มีความเข้มแข็งและทำงานพรรคอย่างใกล้ชิดกับประชาชน ซึ่งยากมาก ต้องมีคนเข้าใจการเมือง เข้าใจปัญหาประชาชน ตั้งใจ ทุ่มเท เพื่อร่วมกับผู้นำชุมนุม และจัดตั้งสาขาพรรคให้แข็งแรง เราต้องแสวงหาคนดีมีอุดมการณ์เดียวกัน การบริหารพรรคทั้งสำนักงานใหญ่ สาขาพรรคต้องการคนเหล่านี้ ในส่วนของสำนักงานใหญ่ต้องการผู้บริหาร ผู้อำนวยการพรรค ซึ่งตนก็พยายามหา ก่อนเลือกตั้งไม่ได้เจอ แต่หลังเลือกตั้งเจอ ดร.ดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล เจ้าของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี มาเป็นผู้อำนวยการพรรค และเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน
"ส่วนหมอวรงค์นั้น ผมได้ข่าวว่าหมอกำลังจะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องถามว่าผมรู้ได้อย่างไร ก็เพราะผมเคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน ฉะนั้นประชาธิปัตย์หายใจอย่างไรผมได้ยิน พอได้ข่าวว่าหมอกำลังเดินทางไปพบนายชวน เพื่อลา หมอวรงค์น่ารักมาก กว่าจะประกาศตัวชัดเจนก็เดินสายไปบอกคนสำคัญในประชาธิปัตย์ว่าจะลาออกจากพรรค เมื่อผมได้ข่าวก็เรียนกรรมการบริหารพรรคของเรา จนมีมติว่าทันทีที่ลาออกเป็นทางการให้ผมเป็นตัวแทนพรรคไปเรียนเชิญ ผมเลยทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษ หมอก็ชอบๆ พรรคเราอยู่แล้ว พรหมลิขิตชักพา หมอถามถึงความตั้งใจว่าจะพาพรรคไปทำอะไรบ้าง คุยกันเสร็จก็บอกว่าเมื่อยื่นใบลาออกจะมาสมัคร รปช.ทันที”
ผู้ร่วมจัดตั้งพรรค รปช.กล่าวต่อว่า สมัยที่ทำงานเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ต้องดูแลและทำงานร่วมกับสมาชิก หมอวรงค์เรียกว่าเป็นคนที่ตนถูกใจคนเดียว ตั้งใจทำงาน มุ่งมานะ เอาจริงเอาจัง สมเป็นตัวแทนประชาชนที่ได้รับความไว้วางใจ โดยผลงานที่เข้าตากรรมการมากที่สุดคือตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีการทุจริตติดอันดับโลก ในสภาไม่มีความสนใจอะไรมากมายเพราะไม่มีข้อมูล แต่หมอวรงค์นำข้อมูลมาบอกสมาชิกพรรค
"ใหม่ๆ คนไม่ค่อยเชื่อมั่น เพราะเป็นหมอ ไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านข้าว แต่หมอวรงค์ก็ทุ่มเทให้กับข้อมูลตลอด และที่ประหลาดใจคือหมอวรงค์ได้สำเนาเช็คของเสี่ยเปรี๋ยงมาได้ ซึ่งผลจากความทุ่มเทนี้ ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้เห็นพิษภัยความร้ายกาจของพรรคการเมือง ของผู้บริหารประเทศกระทำการหาประโยชน์จากทางอำนาจทางการเมือง ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ"
นายสุเทพกล่าวว่า ความที่รู้จักใกล้ชิดกับหมอวรงค์ รู้ธรรมชาตินิสัยเป็นอย่างไร วิญญาณอุดมการณ์เป็นอย่างไร พอทราบว่าจะลาออก ก็รีบมารายงานต่อคณะกรรมการบริหาร หมอวรงค์จะมาเป็นกำลังสำคัญของเรา ตนก็รอว่าเมื่อหมอเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคโดยสมบูรณ์แล้วจะนำเสนอหัวหน้าและคณะกรรมการบริหารพรรค มอบหมายทำหน้าที่เป็นผู้ออกไปเคลื่อนไหวจัดตั้งสาขาพรรคในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ดังนั้นคิดว่าหมอจะทำงานให้พรรคได้ดี ตั้งสาขาพรรคที่ไหน ติดต่อหมอได้เป็นการพิเศษ
“อาจมีคนปั่นกระแสว่ามีการตกลงกับหมอวรงค์ให้มาเป็นหัวหน้าพรรค หรือจะให้เป็นรัฐมนตรีหลังมีการปรับ ครม. ผมว่าเขาเหล่านั้นคาดการณ์กันไปเยอะมาก เรียนยืนยันต่อหน้าทุกท่านว่าม.ร.ว.จัตุมงคลยังจะเป็นหัวหน้าพรรคต่อไปจนครบ 4 ปี และจะยังทำหน้าที่เป็น รมต.ต่อไปจนจบสมัยของรัฐบาลนี้”
เมื่อถามว่า งานที่ นพ.วรงค์ได้รับมอบหมายคืองานด้านการตั้งสาขาพรรค เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายสุเทพตอบว่า นายทวีศักดิ์ยังเป็นเลขาธิการพรรคจนครบ 4 ปี จนกว่าจะมีการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรค ดังนั้น ยากมากที่นพ.วรงค์จะได้เป็นเลขาธิการพรรค และพรรคนี้เป็นของประชาชน และไม่ใช่ของลุงกำนัน ส่วนจะตั้งเป็นประธานคณะยุทธศาสตร์หรือไม่นั้น พรรคเราไม่นิยมเลียนแบบพรรคอื่น
ด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รปช. กล่าวว่า พรรคของเราเดินทางมาได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังเห็นว่ายังไม่มีมืออาชีพทางการเมือง ตัวนายสุเทพทุกคนยอมรับ แต่มีฐานะลำบากไม่ได้ทำแบบนักการเมืองเต็มที่ วันนี้เราได้นักการเมืองมืออาชีพ มีผลงานมาเป็นสมาชิก จึงรู้สึกดีใจที่หมอวรงค์ตัดสินใจมาลงพรรคนี้ คิดว่าถ้าเขาจะไปลงพรรคไหนก็มีแต่คนเอาทั้งนั้น แต่เป็นนักการเมืองต้องมองให้ออกว่าตรงไหนเป็นโอกาสในหน้าที่การงานทางการเมือง
จากนั้น นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เลขาธิการพรรค เป็นผู้รับใบสมัครสมาชิกจาก นพ.วรงค์ และสวมเสื้อสูทประจำพรรค รปช.ให้นพ.วรงค์
เสร็จแล้ว นพ.วรงค์เผยว่า รู้สึกอบอุ่น คิดไม่ถึงว่าพรรคจะจัดต้อนรับอบอุ่นมาก ถ้ารู้ว่าอบอุ่นมากขนาดนี้อาจจะมาเร็วกว่านี้ หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น เราได้เห็นพัฒนาการปัญหาของประเทศและเวลานี้ภารกิจเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของตนก็จบบริบรูณ์ แต่ยังเห็นว่าการเมืองเวลานี้เปลี่ยนไปเยอะมาก ที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้กับระบบทักษิณ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปว่าเราต้องต่อสู้กับการทุจริตในเชิงนโยบาย ซึ่งตนรู้สึกว่ามันอันตรายมาก จะให้นั่งอยู่เฉยๆ ตนทำไม่ได้ ดังนั้นตนจึงตัดสินใจไปพบกับนายชวน หลีกภัย เล่าให้ฟังว่าวันนี้การเมืองเปลี่ยนไปโดยเกิดจากปัญหาในสภา เกิดลัทธิชังชาติ ที่กำลังปลูกฝังเยาวชนของเราให้เดินผิดทาง และเวลานี้การเมืองไม่ได้เกิดจาก 2 พรรคใหญ่ แต่มีการเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มการเมืองฝั่งเขาฝั่งเรา
"ผมยังบอกกับท่านชวนตรงๆ ว่ายังรักและผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้พรรคทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้ดีมาก แต่สไตล์ของผมไม่เหมาะกับงานแบบนี้ แต่เหมาะกับพวกชังชาติ พอดีได้รับการทาบทามจากท่านสุเทพ จึงรู้สึกว่ามาอยู่ที่นี่น่าจะช่วยประเทศชาติได้เยอะกว่า ผมจึงตอบรับและมาอยู่กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ถามถึงกระแสข่าวต่อรองตำแหน่ง นพ.วรงค์ปฏิเสธว่า ไม่มีการต่อรองตำแหน่งสักตำแหน่ง แต่ไม่มีการขัดแย้งกับพรรค ปชป. ซึ่งตนยังบอกกับพรรค ปชป.ด้วยว่าวันนี้พวกเราต้องไม่ทะเลาะกัน อาจขัดใจกันบางก็ต้องอดทนไว้ และทุกอย่างก็จะก้าวไปได้ด้วยดี
“พรรครวมพลังประชาชาติไทยเหมาะสมกับตัวตนของผมในการทำงานการเมือง แต่ยืนยันว่าลำพังผม หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค คงไม่พอเราต้องการประชาชน ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยดี ทุกคนก็ต้องมาร่วมกับผม” นพ.วรงค์กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีเพื่อน ส.ส.ประชาธิปัตย์ย้ายมาด้วยหรือไม่ นพ.วรงค์ตอบว่า เชื่อว่าเพื่อน ส.ส.จับตาดูอยู่ว่ามาแล้วทำประโยชน์ให้ส่วนรวมได้หรือไม่ ถ้าได้ก็อาจจะตามมา ในทางกลับกัน หากทำอะไรไม่ได้ก็ไม่มา
ถามย้ำว่า ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แสดงว่าจะมีเพื่อน ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์มาแน่นอนใช่หรือไม่ นพ.วรงค์ปฏิเสธว่า ไม่ๆๆ ตอบตามหลักการ ถ้าทำได้ดี เชื่อว่าเพื่อนของตนจะมาร่วม
ถามถึงโอกาสที่จะเข้าไปทำงานสภาในฐานะคนนอก เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญหรือไม่ นพ.วรงค์กล่าวว่า ไม่เคยคิดทำงานในสภา การทำสาขาพรรคต้องไปเยี่ยมภาคประชาชน ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีความคิดจะไปทำงานในสภา
เมื่อถามถึงวิธีการต่อสู้กับกลุ่มชังชาติ นพ.วรงค์ชี้แจงว่า เราจะไม่ใช้กำลังสู้กับพวกเขา แต่เราใช้สมอง ใช้ความรู้ และความจริงในการต่อสู้.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |