เรื่อง/ภาพ:FB อัษฎางค์ ยมนาค

24 พ.ย.62- นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "อัษฎางค์ ยมนาค" เรื่อง MOU ที่ปารีณาบอกนักข่าว คืออะไร? อัษฎางค์ ยมนาค มีคำตอบ โดยระบุว่า MOU ย่อมาจาก Memorandum Of Understanding แปลเป็นไทยได้ว่า “บันทึกข้อตกลง” MOU เป็นหนังสือ ซึ่งฝ่ายหนึ่งแสดงความสมัครใจจะบันทึกความเข้าใจ หรือเป็นหนังสือ ซึ่งฝ่ายหนึ่งแสดงความสมัครใจจะปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใด และตามเงื่อนไขที่ปรากฏในหนังสือนั้นกับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่หนังสือนี้ ไม่ถือว่าเป็นสัญญาผูกมัด แต่แสดงความต้องการอันแน่วแน่ของผู้ลงนามว่าจะปฏิบัติดังที่ได้ระบุไว้ เช่น สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในประเทศไทย ทำบันทึกความเข้าใจกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ เพื่อความร่วมมือทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา 

สรุป MOU เป็นบันทึกความเข้าใจ ที่ไม่ถือว่าเป็นเป็นหนังสือสัญญาที่มีผลตามกฎหมายโดยตรง แต่จะถูกนำมาอ้างอิง เมื่อเรื่องที่สองฝ่ายที่ลงนามเกิดปัญหาจนต้องพึ่งกระบวนการทางกฎหมาย จึงจะนำบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมากล่าวอ้าง (ยกเว้นบันทึกสัญญาที่เข้าข่ายเป็นสนธิสัญญา)
............................................................................
แล้ว ปารีณาไปทำ MOU กับใคร และเป็นบันทึกข้อตกลงเรื่องอะไร?
ตอบ: ปารีณา ไปทำ MOU กับนักข่าว เพื่อจะไม่ขอให้สัมภาษณ์คดีบุกรุกป่า เพราะอยู่ในกระบวนการสืบสวน
............................................................................
ถ้าถามผมต่อว่า ทำไมไม่พูดเรื่อง ปารีณา ให้มากกว่านี้
ผมคงตอบว่า เพราะผมรู้แค่นี้ ผมจะไม่พูดถึงสิ่งที่ไม่รู้ลึกรู้จริง
และคงไม่ได้มีผมคนเดียวที่รู้แค่นี้ นักข่าวจอมเจาะข่าวทั้งหลายก็รู้เท่านี้เหมือนกัน หรือคุณผู้อ่านก็ไม่ได้รู้ไปมากกว่านี้เหมือนกัน
............................................................................
ถ้าถามว่า ตกลง ผิดจริงมั้ย
คำตอบ คือ ยังไม่ชัด แต่ในใจ ก็พอจะมีคำตอบ ตามมาความเชื่อของแต่ละคน แล้ว ถ้าถึงขั้นถามว่า แล้วในใจของผม เชื่อว่าผิดหรือไม่ ผมเป็นคนพูดตรงๆ ผิดถูกต้องว่ากันตรงๆ เราไม่ชอบการกระทำของฝ่ายหนุ่มหล่อสาวสวยแต่ใจคด เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่ทำแบบนั้น เราจะไม่เข้าข้างคนของเราหรือคนที่เราเชียร์แบบไม่ลืมหูลืมตาและก็สามารถเปิดใจพูดกันตรงๆ มีแววว่าจะผิด
............................................................................
ถ้ายังมีคนไม่ยอมเลิก ถามต่ออีก ว่า ถ้าผิด แล้วยังจะเชียร์อยู่อีกหรือเปล่า ถ้าถามแบบนี้ คงต้องตอบว่า
คุณต้องดูว่า พ่อของปารีณา คือใคร เรื่องที่ดินนี้ เป็นผลพวงมาจากสมัยพ่อ พ่อทำเอาไว้ ถ้าคุณเป็นปารีณา คุณจะทำยังไงกับพ่อของคุณ เพื่อเคลียร์ให้ตัวเองความบริสุทธิ์ มีทางเลือกมากน้อยแค่ไหน นักการเมืองไม่ว่ายุคนี้หรือยุคไหน ถ้าเอาหินก่อนเล็กๆ ป่าเข้าไปในหมู่นักการเมือง รับรองว่าป่ากี่ครั้งก็จะโดนคนโกงเกือบทุกครั้ง นั้นแปลว่า มีนักการเมืองขี้โกงเยอะมากคุณเคยได้ยินเรื่อง เชื้อโรคที่ดื้อยามั้ย มันดื้อยาเพราะ มันมีพัฒนาการ นักการเมืองขี้โกงก็มีพัฒนาการเหมือนกันนักการเมืองสมัยก่อน กินดิน กินหิน กินทราย กินป่า กินเขา แต่นักการเมืองยุคใหม่ กินชาติ กินศาสนา กินพระมหากษัตริย์ อันไหนน่ากลัวกว่ากัน เชื่อโรคร้ายในวงการเมือง พัฒนาการไปไกลสุดกู่แล้วจริงๆ
...........................................................................
ที่นี่ผมขอถามกลับ ข่าว สส. ในสภา มีข่าวเรื่องการหารือ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาราษฎร์มากน้อยแค่ไหน
หรือมีแต่ข่าว สส. หารือกัน จะแก้รัฐธรรมนูญ ทำไมนายกถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบ สส.คนนั้นว่าคนนี้ คนนี้ว่าคนนู้น มีแต่ข่าว สส.ทะเลาะกัน ถึงขั้นต้องไปตามขุดเรื่องที่ไม่ดีของแต่ละฝ่ายออกมาแฉใส่กัน แฉกันไป แฉกันมา
ธนาธรโดนตัดสินการเป็น สส.เพราะเรื่องหุ้น พรรคของธนาธรก็พยายามไปขุดหาเรื่องหุ้นเพื่อแฉฝ่ายตรงข้าม
แทนที่จะเอาเวลาไปหาทางช่วยเหลือประชาชน เสรีพิสุทธิ์ จะเอาเรื่องนายกถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบให้ได้
เหมือนจะเป็นเรื่องด่วน เรื่องสำคัญ ทั้งๆ ที่เรื่องปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ กลับไปเคยสนใจ
ปารีณา ออกมาชนกับเสรีพิสุทธิ์ ก็โดนลากไส้ เป็นการตอบแทน ว่ากันจริงๆ ในขั้วรัฐบาลจะมีใครกล้าบ้าบินเหมือนปารีณาที่บ้าชนกับคนบ้าเหมือนกันสส. ในสภายุคนี้เหมือนถูกเลือกเข้าสภา เพื่อไปทะเลาะกัน ฟ้องกันไปมา
แทนที่จะหารือ เพื่อหาทางช่วยช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือประเทศชาติ
...........................................................................
หมายเหตุ ไม่ได้บอกว่า ปารีณา ถูก แต่รอคำตัดสิน เหมือนกับที่รอคำตัดสินคดีของธนาธร