คล็อปป์พอใจฟอร์มเมินถูกยกว่าที่แชมป์


เพิ่มเพื่อน    


เจอร์เกน คล็อปป์ บอสลิเวอร์พูล กล่าวว่าเขารู้สึกดีใจที่ ลิเวรอ์พูล บดเอาชนะ คริสตัล พาเลซ ได้ 2-1 เมื่อคืนวันเสาร์ แต่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามถึงการที่ทีมกำลังได้รับการยกให้เป็นว่าที่แชมป์ของฤดูกาลนี้
    โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ พังประตูชัยช่วย ลิเวอร์พูล คว้าชัยได้หวุดหวิด 2-1 ที่เซลเฮิร์สปาร์ค พร้อมทั้งยืดสถิติไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีกออกไปเป็น 30 นัด ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการกลับมาทำประตูได้อีกครั้งของกองหน้าชาวบราซิเลี่ยนนับตั้งแต่เดือน กันยายน
    โดยแค่ 3 นาทีก่อนหน้านั้น วิลฟรีด ซาฮา เพิ่งทำให้กองเชียร์เจ้าบ้านคึกคักกลับมามีความหวัง ด้วยประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้ หลัง ซาดิโอ มาเน่ เปิดสกอร์แรกของเกมในนาทีที่ 49
    "ผมไม่ได้แปลกใจที่เกมนี้เป็นเกมที่ยากอีกนัดหนึ่งสำหรับเรา" คล็อปป์ กล่าว "ทุกเกมของเรานนับตั้งแต่ผมมาอังกฤษ มักจะคล้ายคลึงกัน เรารู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่นี่ง่ายในการบุกมาเอา 3 แต้ม บรรยากาศในสนามดี และพวกเขาไม่เคยยอมแพ้"
    "เรารู้ตอนพักครึ่งว่าเราต้องทำให้ดีขึ้นอีก ความท้าทายคือการที่พวกเขาเพิ่งกลับมาจากทีมชาติ และวันนี้ผมไม่มีปัญหาอะไรที่เราโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาไม่ได้"
    "ในเกมลักษณะนี้ คุณต้องแค่ต้องเอาให้ชัวร์ว่าคุณพร้อมที่จะสู้และเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการได้จากนาทีแรกของเกมแข่งขัน เราจะเล่นให้ดีขึ้นได้ไหม คำตอบคือได้ แต่เรามีผู้เล่นในสนามที่เมื่อเข้าวันพฤหัสฯยังนั่งอยู่บนเครื่องบินอยู่เลย"
    เกมนี้จบ 2-1 สกอร์เดียวกับที่เจอ แอสตัน วิลล่า เมื่อต้นเดือนซึ่ง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูชัยในช่วงก่อนหมดเวลา เก็บ 3 คะแนนเต็มในเกมนอกบ้านได้หวุดหวิด
    คล็อปป์ ยืนยันว่าเขาไม่ใส่ใจเรื่องที่ทีมมักได้ประตูท้ายเกมหรือก่อนเวลาว่าเป็นสัญญาณหรือดวงว่ายังไงก็ต้องได้แชมป์
    "ผมไม่รู้ไม่สนว่าใครจะพูดอะไร ผมรู้แค่ว่า การเก็บไปได้ 37 คะแนนจาก 13 นัด เป็นผลงานที่วิเศษมาก และคุณมาถึงจุดนี้ไม่ได้ด้วยการชนะแต่ในเกมที่เล่นด้วยฟอร์มที่สุดยอดเท่านั้น"
    ทางด้าน เชลซี ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด เมื่อคืนวันเสาร์ ไม่มีเซอร์ไพรส์ในการบุกเยือนถิ่นเอติฮัด หลังพ่ายแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ซึ่งบอสทีมสิงห์น้ำเงินคราม ยอมรับหลังเกมว่า ทีมของตน ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้ที่จะควบคุมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในเกมการแข่งขันให้ได้หากหวังที่จะก้าวสู่ระดับของทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้
    แลมพาร์ด เยือน เอติฮํด นัดนี้ด้วยผลงานสุดยอด ชนะมา 6 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก และแม้เกมนี้จะสามารถทำให้ ซิตี้ เหลือเปอร์เซนต์การครองบอลแค่ 46.7 เปอร์เซนต์ ถือว่าต่ำสุดตั้งแต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คุมทีมมา แต่ประตูของ ริยาด มาห์เรซ ในนาทีที่ 37 ตัดสินแพ้ชนะแมทช์นี้
    "การครองบอลไม่ได้ปัจจัยชี้วัดได้ว่าทีมไหนจะแพ้จะชนะ ในครึ่งแรกคุณน่าจะเห็นทุกอย่างได้ทั้งหมด ตอนที่เรานำ 1-0 เราคอนโทลเกมได้ดี แต่เราก็นำได้ไม่นาน เราเห็นสัญญาณหลายอย่างที่ดี แต่เราแพ้ในบางนัด มันแสดงให้เห็นว่าการเล่นฟุตบอลในระดับนี้ รายละเอียดเล็กๆน้อยในบริเวณกรอบเขตโทษจะเป็นตัวตัดสิน"
    "ทีมเหล่านี้ทั้ง ลิเวอร์พูล และ ซิตี้ มักเก็บผลการแข่งขันี่ต้องการได้เป็นระยะเวลานาน เพราะรายละเอียดเหล่านี้ที่พวกเขาไม่มองข้าม"
    ผลการแข่งขันนัดนี้ทำให้ เชลซี รั้งที่ 4 ขตาราง ก่อนหน้าทำศึกแชมเปี้ยนส์ลีก กับ บาเลนเซีย พุธนี้

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"