ไปไกล...จนตามไม่ทัน


เพิ่มเพื่อน    

 

               ก็พยายามอยู่นะคะ ที่จะวิ่งตามยุคตามสมัย ไม่ให้ถูกทิ้ง ถูกเท..จนตกกระแสไว้ข้างหลัง 

                แต่บอกตามตรงว่า บางครั้งมันก็ ..ใจหาย!! เกินกว่าจะรับไหว กับความคิดของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว

                ยกตัวอย่างชัดๆ จัดกันหนักมาก ก็เรื่องราวของร้านเหล้าผับบาร์แถวถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่ใช้สาวเสิร์ฟแต่งกายในชุดผ้ากันเปื้อนท่อนบนตัวเดียว ไม่มีเสื้อไม่มีบราเซีย ปล่อยเต้าโล่งโจ้งโก้งโค้ง ก้มวางอาหารที ก็ล้นหลามออกมาให้เห็นกันจะจะหลายๆ ทีนั้น มนุษย์ป้า..เห็นคลิปแล้วตื่นเต้นตกใจมากมาย แต่ลูกหลานเมื่อวานซืนนางบอกว่า ..เด็กๆ มากกว่านี้มีเยอะแยะ ไม่เป็นข่าวก็เท่านั้น

                บรรดาเด็กสมัยนี้ยังตอกย้ำซ้ำเติมให้มนุษย์แม่มนุษย์ป้าเปิดหูเปิดตาอีกว่า ..ตำรวจจับปิดผับบาร์ที่ว่า เดี๋ยวมันก็ไปเปิดที่อื่นอีก ...แล้วไง??? มันจะมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม นอกจากลูกค้าผู้บริโภค แค่หาที่ลงใหม่โดยมีสไตล์หรือรูปแบบเก่าคอยเปิดรับอยู่เยอะแยะ

                สะท้อนบอกว่า คนยุคนี้เห็นเรื่องการเปิดเผย "เครื่องใน" แบบนี้เป็นเรื่องปกติ มิได้น่ารังเกียจ น่าอับอาย แต่มันเป็นเรื่องรสนิยม ใครชอบแบบนี้ก็ไปที่แบบนั้น ใครไม่ชอบก็ไปหาที่ชื่นชอบ 

                ความคึกคักครึกครื้นของร้านขายเหล้าในรูปแบบใช้เต้าเสิร์ฟ ก็เพราะมีผู้บริโภคต้องการ สินค้ามันจึงขายดิบขายดี

                ทั้งหมดมันจึงกลับมาตั้งต้นที่คำถามว่า สังคมมันไปไกลเสียจน เราไม่อาจจะไปตั้งความหวังว่า เด็กๆ จะมีความรู้สึก ความคิดเห็นเหมือนเราในเรื่องของประเพณีวัฒนธรรมไทยนุ่งเจียมห่มเจียมอีกต่อไป

                ในฐานะครอบครัว เราก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะแต่งกายให้เป็นแบบอย่างที่เหมาะสมกับลูกหลานภายในบ้าน และคอยอบรมสั่งสอนให้รู้จักสิ่งที่เหมาะสิ่งที่ควร แต่อย่าไปคิดว่า จะบังคับชู่เข็ญ ห้ามนั่นห้ามนี่ได้ เพราะในบ้านเขาไม่ทำ ออกนอกบ้านใครจะไปรู้ว่าทำหรือเปล่า???

                ในฐานะของสมาชิกของคนในสังคมไทยแล้ว เราก็ได้แต่หวังว่าผู้มีหน้าที่กำกับดูแลกฎกติกามารยาท และมีอำนาจกฎหมายอยู่ในมือนั้น จะช่วยปฏิบัติตรวจสอบไม่ให้มีการกระทำอันละเมิดต่อศีลธรรมอันดีงามนั้น เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งนี้ การใช้กฎกมายกำกับอย่างเข้มงวดเคร่งครัด เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น หากไม่อยากให้เกิดกรณีอย่างร้านใช้เต้าเสิร์ฟแอบผุดขึ้นที่โน่นที่นี่ตามอำเภอใจ แล้วกล่าวอ้างว่ามันเป็นกลยุทธ์ทางการค้าอย่างหนึ่ง ที่มิได้ไปบีบบังคับใครเข้ามาใช้บริการ หรือกดดันให้ใครมานุ่งผ้ากันเปื้อนตัวเดียวเลย ทุกคนเต็มอกเต็มใจทั้งสิ้น

                เข้าใจอยู่หรอกว่า ตำรวจมีงานเต็มมือเยอะแยะไปหมด แต่ร้านคึกคักแบบนี้ตำหูตำตาในพื้นที่ ต่อให้งานแยะแค่ไหน ก็ต้องผ่านหูผ่านตาบ้าง..จริงไหมจ๊ะ.

   "ป้าเอง"   

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"