ถ้ามองแบบห่างๆ...มองจากคนวงนอก อันที่จริงคุณหญิง เจ๊สุดาหน่อย ท่านก็ดูจะเป็นอะไรที่น่ารัก น่าใคร่ มิใช่น้อย สวยก็เคยสวย แม้หลังๆ อาจยับยู่ยี่ไปบ้าง แต่ก็ยังพอมี ลูกสาวที่สวยสุดในปฐพี คอยประดับบารมีอยู่ข้างๆ แถมยังเป็นผู้ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องที่ควรใส่ใจ อย่างเรื่องธรรมะ-ธัมโม แม้บางฉาก บางช็อต อาจหลุดกรอบ เลยกรอบ ไปถึง พระพุทธเจ้าน้อย อะไรไปโน่น แต่ก็ยังน่าจะออกไปทางใฝ่ดี รักดี ไม่น่าจะก่อให้เกิดความเปรี้ยวมือ เปรี้ยวเท้า กับใครต่อใครมากมายนัก...

                                     ----------------------------------------------

        แต่ก็นั่นแหละ...ตั้งแต่มีข่าวคราว ว่าคุณหญิง เจ๊สุดาหน่อย ท่านจะผงาดขึ้นมาเป็น เบอร์หนึ่ง ของพรรคฝ่ายค้านอันดับหนึ่งอย่างพรรคเผาไทย มรสุมรุมเร้าทั้งจากภายนอก-ภายใน ก็สาดซัดประเดประดังเข้าสู่นักการเมืองหญิงตัวน้อยๆ ไม่น้อยไปกว่านักการเมืองหญิงตัวล่ำๆ อย่างคุณน้อง เอ๋ ปารีณา อะไรทำนองนั้น คือออกไปทางใครต่อใครอยากจะ วอนทั้งโลกโขกหัวเธอ อย่างเป็นพิเศษ สำหรับ ภายนอก นั้นยังไม่ถึงกับเท่าไหร่ เพราะถือเป็นไฟต์บังคับ ที่ไม่ได้มีออฟชั่นใดๆ อยู่แล้วแน่ๆ แต่สำหรับ ภายใน นี่แหละ ออกจะเป็นปัญหายืดเยื้อ คาราคาซัง ที่ดูจะยังไม่จบ ไม่แล้วเสร็จ จนตราบเท่าทุกวันนี้...

                                   --------------------------------------------

        การเดินทางไปยังนครรัฐ ดูไบ ของคุณหญิง เจ๊สุดาหน่อย ที่มีกำหนดการสอดคล้อง ต้องกัน กับบรรดา ส.ส.ภาคอีสาน ของพรรคเผาไทย ไม่ว่าจะเป็นการไปเจอกันในแบบ จาตุรงคสันนิบาต หรือโดยมิได้นัดหมาย หรือเจอกันแบบ สันติบาตลูกนก คือไม่ว่าโดยนัดหมาย หรือมิได้นัดหมาย แต่เมื่อเจอกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างต้อง เส้นกระตุก ไปตามทางใคร-ทางมัน จึงกลายมาเป็นข่าวคราว ถึงขั้นสื่อบางฉบับต้องเอาไปพาดหัวตัวไม้ เอาเลยถึงขั้นนั้น ทำนองว่า...ต่างฝ่ายต่างตามไป เฉ่ง กันและกันอะไรประมาณนั้น ส่วนจะ จริง-ไม่จริง ก็ยังไม่รู้!!! เพราะการอ้าง แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ก็อาจหมายถึงผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม ที่มุ่งประสงค์ดี หรือประสงค์ร้าย ได้ด้วยกันทั้งสิ้น...

                                   -------------------------------------------

        แต่ไม่ว่าจะจริง-ไม่จริงก็แล้วแต่...สิ่งที่น่าสนใจมิใช่น้อย ก็คือการสะท้อนให้เห็นภาพ ข้อเท็จจริง บางอย่าง ซึ่งมิอาจปฏิเสธได้โดยเด็ดขาด นั่นก็คือ...บารมีของนายใหญ่ ที่ยังคงแผ่ซ่านปกคลุม ครอบคลุม พรรคการเมืองขนาดใหญ่ ที่อาจถือเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งของประเทศเอาเลยก็ว่าได้ ชนิดไม่ว่าเหตุการณ์บ้านเมืองจะหมุนเวียน เปลี่ยนแปร ไปในแนวไหน ต่อแนวไหน ไม่ว่า เหลือง ไม่ว่า แดง จะหมดเรี่ยว หมดแรง กันไปแล้วเป็นรายๆ ไม่ว่า เผด็จการละมุนภัณฑ์ จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้กลายมาเป็น ประชาธิปไตยกระด้างภัณฑ์ หรือ ประชาธิปไตยไฮบริด กันในรูปไหน แบบไหน “นายใหญ่” ท่านก็ยังคง สมบูรณ์นิรันดร์ไป อย่างมิอาจปฏิเสธ...

                                     --------------------------------------------

        ด้วย ข้อเท็จจริง อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องเก็บเอามาใคร่ครวญ หวนคิด กันชนิด 3 ชั้น 8 ชั้น อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะการดำรงอยู่ของ ข้อเท็จจริง ที่ว่านี้ มันคงไม่ต่างอะไรไปจากการดำรงอยู่ของสรรพสิ่งทั้งหลาย หรือจะอุปมา-อุปมัยแบบการดำรงอยู่ของสาร ไกลโฟเซต ตามแบบฉบับ ป๋าเปลว สีเงิน ก็คงพอได้ คือสามารถก่อให้เกิดประโยชน์และโทษ ตามมุมมองของใครต่อใครได้เสมอๆ ขึ้นอยู่กับว่าผู้มองนั้นเป็นใคร? เป็นผู้ที่อยากให้ใช้-ไม่ให้ใช้ หรือผู้ที่พยายามหาทางจำกัดการใช้ เพื่อทุเลาบรรเทาโทษ หรือเพื่อไม่ให้ถูกต่างชาติไล่เหยียบ ไล่กระทืบ ให้หนักเกินไปกว่านี้ อะไรทำนองนั้น...

                                     ---------------------------------------------

        ดังนั้น...ขนาดสาร ไกลโฟเซต แท้ๆ ผู้ที่อยู่ในแวดวงอำนาจ อย่างรัฐบาล ท่านยังต้องยอมรับสภาพ ข้อเท็จจริง ยอมอนุโลม ปฏิโลม ยอมลูบๆ โลมๆ ไม่ให้ถึงกับต้องยกเลิก หรือต้อง แบน เอาดื้อๆ!!! แล้วระดับที่ไม่ถึงกับส่งผลให้เกิด มะเร็งเต้านม อาจแค่ประมาณ มะเร็งรังไข่ หรือแค่ ต่อมลูกหมากอักเสบ อะไรทำนองนั้น ไม่ว่าจะเป็นสาร ดูไบโฟเซต หรือ ทักษิณโฟเซต ก็แล้วแต่ โดยมุมมองของผู้ที่อยู่ในแวดวงอำนาจ อย่างรัฐบาลแล้ว...ท่านคงไม่ถึงกับกระเหี้ยนกระหือรือ กะจะไล่ฟัด ไล่งับ กะจะเอาให้ตาย แบบพวก เอ็นจีโอ ทั้งหลายอยู่แล้วแน่ๆ...

                                    ---------------------------------------------

        แม้ว่าอาจไม่สามารถใช้ ประโยชน์ จากสารดังกล่าวได้มากมายซักเท่าไหร่ แต่การหาทางทุเลา บรรเทาโทษ หรือ จำกัดการใช้ ก็น่าจะเป็น ข้อเท็จจริง บางอย่าง ที่อาจส่งผลให้ ทิศทางการเมือง ของประเทศไทย มันอาจไม่ได้เป็นไปตามที่บรรดาพวก ตัวประกอบอดทน ไม่ว่าพวก เอาทักษิณ หรือ ไม่เอาทักษิณ ที่ยังคงไล่ฟัด ไล่งับ ชนิดไม่ไล่-ไม่เลิก หรือแม้จะไล่แล้วก็ยังไม่ยอมเลิก ไม่ต่างอะไรไปจากพวก ลิ่วล้อในหนังจีน ทั้งหลาย เคยตั้งๆ มาตรฐานเอาไว้ก่อนหน้านั้นเอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                     ------------------------------------------------

        อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องเก็บไปคิดๆ กันประมาณ 3 ชั้น 8 ชั้น เป็นอย่างน้อย เพราะสำหรับสารตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น พาราควอต, อนาคต-อนาควอต, เสรีพิสุทธิ์ฟอส หรือ คลอร์ไพริฟอส นั้น ไม่ว่าจะยกเลิก-ไม่ยกเลิก โอกาสที่จะตายไปเอง หมดเรี่ยว หมดแรง ไปเอง หรืออนาคตหมด อนาคตไหม้ไปเอง ย่อมเห็นๆ กันอยู่ แต่สำหรับ ไกลโฟเซต หรือ ดูไบโฟเซต นั้น แค่เห็นการยกโขยงไปประชุมจาตุรงคสันนิบาต ของคุณ เจ๊สุดาหน่อย และบรรดา ส.ส.อีสาน ทั้งหลายแล้ว ย่อมมิอาจ ดูเบา ได้เป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้...บรรดาพวก เอ็นโตดี ทั้งหลาย คงต้องเก็บเอามาคิดเป็นการบ้านซะแต่เนิ่นๆ เพราะ การเมืองแบบไทยๆ มันคงต้องเป็นไปในแนวนี้นั่นแหละท่านเอ๋ย...

                                 ----------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก C.S. Lewis... “What you see and hear depends a good deal on where you are standing; it also depends on what sort of people you are. – ท่านได้เห็นและได้ยินอะไร ขึ้นอยู่กับว่าท่านยืนอยู่ ณ ที่ใดเป็นส่วนใหญ่ และขึ้นอยู่กับว่าท่านเป็นคนประเภทใด...”

                                     -------------------------------------------------