จับหนุ่มโหดยิง3ศพ พบแม่นั่งรถไปด้วย


เพิ่มเพื่อน    


    จับแล้วหนุ่มวัย 27 มือปืนฆ่ายกครัว 3 ศพ ขับรถหลบหนีไปพร้อมแม่ จนมุมที่เชียงใหม่ สารภาพหึงหวงแฟนสาวที่แฟนเก่ายังไลน์มาหา อารมณ์ชั่ววูบยิงแฟนตายคาบ้านแล้วยิงพ่อแม่เพื่อปิดปากอีก 2 ศพ ญาติผู้ตายเรียกร้องได้รับโทษตายตกตามกัน ชาวบ้านเกือบร้อยดูทำแผนฮือจะประชาทัณฑ์
    เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน บก.สส.ภาค 5 ได้ติดตามจับกุมนายนวราธร คุณะแสงคำ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 2 ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้ต้องหาฆ่า 3 ศพ พ่อแม่ลูก ขณะขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ หมายเลขทะเบียน กอ 8068 เชียงราย หลบหนีเข้าจังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่พบนายนวราธรขับรถคันดังกล่าวไปจอดอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น หน้าสนามกอล์ฟลานนา ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายในรถมีนางพัศทร คุณะแสงคำ แม่นายนวราธร นั่งไปด้วย นอกจากนี้ยังพบปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ cz 75d พร้อมซองบรรจุกระสุน 14 นัด ที่ใช้ก่อเหตุ และโทรศัพท์มือถือไอโฟน x ของผู้ต้องหา ก่อนจะนำตัวไปสอบสวน 
    คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.นี้ มีผู้พบศพนายอุดม กิมสี อายุ 57 ปี พนักงานเทศบาลตำบลบ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย, นางณัชชา กิมสี อายุ 51 ปี ภรรยา ทำงานอยู่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่ลาว และ น.ส.เสาวรส กิมสี อายุ 26 ปี เพิ่งเรียนจบชั้นปริญญาตรี ทั้ง 3 ศพเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน อยู่ในบ้านพักที่ ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย และเชื่อว่าถูกฆาตกรรม โดยพยานระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 28 พ.ย. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด แต่ไม่มีใครเอะใจ ส่วนผู้ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่มของ น.ส.เสาวรสที่เพิ่งคบหากัน เพราะปกติจะแวะเวียนมาประจำ แต่หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป สาเหตุอาจจะมีปัญหาเรื่องหึงหวง หรือไม่พอใจที่ถูกแม่ฝ่ายหญิงกีดกัน
    จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายนวราธรให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุยิงทั้ง 3 ศพ สาเหตุจากทะเลาะกับ น.ส.เสาวรส แฟนสาว เนื่องจากแฟนเก่าของ น.ส.เสาวรสไลน์มาหา จึงทะเลาะกันแล้วตนบันดาลโทสะชักปืนยิงแฟนสาวเสียชีวิต ก่อนที่จะยิงพ่อแม่แฟนอีก 2 ศพเพื่อปิดปาก
    ต่อมาวันที่ 3 ธันวาคมนี้ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พร้อมชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ได้ควบคุมตัวนายนวราธร ผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัวแฟนสาวพร้อมพ่อแม่ ไปยังห้องคุมขัง สภ.บ้านดู่ โดยได้แยกเอาตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่ชั้น 3 สภ.บ้านดู่ เพื่อให้สำนวนมีความละเอียดที่สุดก่อนที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. จะเดินทางมาประชุมชุดคลี่คลายคดีในวันเดียวกันนี้ที่ ภ.จว.เชียงราย
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกสอบปากคำบิดา มารดา และแฟนเก่าของนายนวราธร ซึ่งแต่ละคนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลผ่านสื่อมวลชน แต่จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่านายนวราธรคบหากับแฟนเก่ามาได้กว่า 8 ปีแล้ว จนเกือบจะมีการจดทะเบียนสมรสกันและยังคบหากันอยู่ด้วย ต่อมาเมื่อ น.ส.เสาวรส กิมสี ซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วกลับมาอยู่บ้านที่เกิดเหตุได้ประมาณ 2-3 เดือน ก็ได้มีโอกาสพบปะกับนายนวราธรและคบหาเป็นแฟน กระทั่งมาเกิดเหตุยิง น ส.เสาวรส และพ่อแม่ภายในบ้านจนเสียชีวิตคาบ้านดังกล่าว
    ล่าสุด พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปถึง สภ.บ้านดู่ แล้วเข้าร่วมประชุมลับกับพนักสอบสวนคดีดังกล่าว ก่อนสอบปากคำผู้ต้องหา จากนั้นเปิดเผยว่า นายนวราธรยอมรับสารภาพทั้งหมด โดยอ้างว่าทำไปเพราะหึงหวงและอารมณ์ชั่ววูบ โดยก่อนเกิดเหตุได้ออกไปเที่ยวกับ น.ส.เสาวรส ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จากนั้นกลับมาบ้านฝ่ายหญิงแล้วเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน จนเกิดอารมณ์โมโหชั่ววูบใช้อาวุธปืนยิงแฟนสาวตาย แล้วหันไปยิงพ่อกับแม่แฟนเพื่อปิดปาก สำหรับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุซื้อมาจากร้านแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย มีทะเบียนครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ค่อยได้นำออกมาใช้หรือพกพา จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน หลังจากนี้หากสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับมีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะพิจารณาว่าจะตั้งข้อหาเพิ่มหรือมีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ เพราะช่วงที่ผู้ต้องหาหลบหนีได้มีการเดินทางไปร่วมกันมากกว่า 1 คน
    ขณะเดียวกัน ที่บ้านหลังเกิดเหตุ มีญาติพี่น้องผู้ตายและชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวว่าคนร้ายถูกจับกุมตัวได้แล้ว และอาจจะนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันเดียวกัน ต่างพากันไปเฝ้ารอดูหน้าผู้ต้องหาจำนวนมาก พร้อมก่นด่าสาปแช่ง เรียกร้องให้คนร้ายได้รับโทษประหารชีวิตตายตกไปตามกัน อีกทั้งญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตก็ประกาศไม่รับการกราบขมาศพ ส่วนศพพ่อแม่ลูกจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดงหนองเป็ด อ.เมือง จ.เชียงราย  
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านเกือบร้อยคนได้ยืนรอเจ้าหน้าที่คุมผู้ต้องหาไปทำแผนเป็นเวลานาน จนคิดว่าไม่มีการทำแผน ส่วนใหญ่จึงพากันเดินทางกลับ เหลือที่จับกลุ่มคุยกันอยู่ราว 10 คน ก็ได้มีกำลังตำรวจ สภ.บ้านดู่ ประมาณ 20 นาย นำตัวนายนวราธรนั่งรถตู้สีขาวตราโล่เข้าไปในรั้วบ้าน ก่อนปิดประตูกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป ทำให้ชาวบ้านต่างกลับมารวมตัวกันที่หน้าบ้านเกิดเหตุกว่า 30 คน ก่อนจะทยอยมาสมทบจนเต็มพื้นที่เกือบ 100 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ได้นำนายนวราธรไปชี้จุดยิงผู้ตายในบ้านพัก ใช้เวลาราว 15 นาที แล้วรีบพาขึ้นรถ แต่ก็ไม่สามารถขับรถฝ่าออกไปได้ เพราะชาวบ้านล็อกประตูรั้วและยืนขวางไว้ พร้อมเรียกร้องให้นำนายนวราธรออกมาให้ชาวบ้านดูหน้า แต่ไม่เป็นผล เหตุการณ์ยิ่งตึงเครียดเกือบจะบานปลายเมื่อผู้ชุมนุมพากันปาสิ่งของใส่รถผู้ต้องหาและเจ้าหน้าที่ กระทั่งผู้นำชุมชนได้ขอร้องให้ชาวบ้านเปิดทางเจ้าหน้าที่ พร้อมอธิบายให้เข้าใจว่าตำรวจต้องทำหน้าที่ หากผู้ต้องหาเป็นอะไรขึ้นมา ตำรวจชุดคุ้มกันก็จะต้องถูกสอบสวนมีความผิดได้ ชาวบ้านจึงยินยอมให้รถของเจ้าหน้าที่ผ่านไป แต่ก็ยังมีญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตบางรายไม่พอใจ เข้าทุบรถด่าทอ กระทั่งรถตู้นำผู้ต้องหากลับไปอย่างปลอดภัย 
    พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กล่าวชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมของกองกำกับการสืบสวน จว.เชียงราย และกองบัญชาการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกภาคส่วนที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็วภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากเกิดเหตุ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"