น้ำท่วมนราธิวาส ประกาศ13อำเภอ เป็นเขตภัยพิบัติ


เพิ่มเพื่อน    


    นราธิวาสประกาศเขตภัยพิบัติ 13 อำเภอหลังฝนตกหนัก น้ำท่วมเป็นวงกว้าง โรงเรียนปิดระนาว ขณะที่เหนือ อีสาน เริ่มเผชิญภัยหนาว กรมอุตุฯ เผยช่วง 7-10 ธ.ค. อุณหภูมิลดลงอีก ยอดดอยเหลือแค่ 1 องศา กรุงเทพฯ ต่ำสุด 15 องศา
    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ว่า ใน 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส น้ำไหลท่วมพื้นที่ขยายเป็นวงกว้าง โดยน้ำจากเทือกเขาเขตรอยต่อ อ.สุคิริน อ.แว้ง อ.ระแงะ และ อ.จะแนะ ไหลลงสู่พื้นราบ สมทบแม่น้ำหลายสายปริมาณมาก ทำให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกล้นตลิ่งสูงกว่า 2 เมตร น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำสูงขึ้นต่อเนื่อง หลายครอบครัวอพยพไปอาศัยตามบ้านญาติ บางส่วนย้ายไปยังศูนย์อพยพ ล่าสุดน้ำได้ไหลท่วมวัด มัสยิด และโรงเรียน ในพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมสูง โรงเรียนประกาศปิดการเรียนการสอนจนกว่าน้ำจะลด   
    นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ โดยล่าสุดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว 13 อำเภอ 63 ตำบล 322 หมู่บ้าน 56 เขตเทศบาล/ชุมชน พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมอย่างเร่งด่วน
    ส่วนที่เทศบาลนครสงขลามีการสั่งเจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกพร้อมเครื่องเลื่อยยนต์ ตัดต้นสนที่หักโค่นล้มลงบริเวณแนวชายหาดชลาทัศน์ต่อหาดสมิหลา เนื่องจากถูกคลื่นลมแรงอ่าวไทยพัดถล่มชายฝั่งต่อเนื่องกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้ต้นสน 6 ต้น ซึ่งแต่ละต้นอายุนับ 100 ปี บริเวณหาด หักโค่นล้มลง ขณะเดียวกัน ต้นสนอีกไม่น้อยก็อยู่ในสภาพเสี่ยงที่จะล้มลง เพราะถูกคลื่นซัดจนทรายที่ฝังรากหายไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ตัดกิ่งและลำต้นแล้วขนย้ายออกจากชายหาด รวมทั้งตัดแต่งกิ่งต้นที่มีความเสี่ยงและขนาดใหญ่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับประชาชน  
    พัทลุง เกิดฝนตกหนักเป็นช่วงๆ ตลอดคืน ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดในพื้นที่ อ.กงหรา อ.ตะโหมด และ อ.ศรีนครินทร์ ไหลหลากลงเติมเต็มพื้นที่ลุ่ม น้ำยังหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ราบลุ่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำพญาโฮ้ง ตรงหน้าฝายกั้นน้ำ ยังมีน้ำที่หลากลงจากเทือกเขาบรรทัดเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 6 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง ถนนเส้นทางเข้าหมู่บ้านมีน้ำไหลผ่านเป็นช่วงๆ สูง 30-40 เซนติเมตร สวนยางพารา สวนไม้ผล มีน้ำท่วมบริเวณกว้าง ส่วนระดับน้ำที่ท่วมบ้านเรือนในพื้นที่หมู่ 2, 3, 4, 8 ของ ต.นาโหนด ล่าสุดระดับน้ำลดลง แต่มวลน้ำไหลหลากลงท่วมพื้นที่ลุ่มของหมู่ 9 ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน ชาวบ้านหลายครอบครัวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน
    ด้านจังหวัดในภาคเหนือ อีสาน อุณหภูมิหลายพื้นที่ลดฮวบ ชาวบ้านบนดอยสูงเริ่มเผชิญความหนาวเย็น โดยเฉพาะที่ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เริ่มเผชิญภัยหนาว เช้าวันอังคารอุณหภูมิต่ำสุดเหลือเพียง 14 องศาเซลเซียส ชาวบ้านต้องก่อไฟผิงคลายความหนาวเย็นกันมากขึ้น บางส่วนเริ่มเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กและคนชรา โรงพยาบาลอมก๋อยต้องจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่เข้าพื้นที่ไปตรวจรักษาชาวบ้านห่างไกล เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยที่จะต้องเดินทางไปโรงพยาบาล 
    พิจิตร กลุ่มเกษตรกรที่มีอาชีพเลี้ยงโค-กระบือ ในหมู่บ้านอนุรักษ์โค-กระบือ บ้านทับเกวียนทอง ต.บึงบัว อ.วชิรบารมี ต้องนำสัตว์เลี้ยงออกไปเลี้ยงกลางทุ่งนาที่มีแสงแดดจัด เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทำให้โค-กระบือไม่กินน้ำและอาหาร
    บึงกาฬ ได้รับผลกระทบจากลมแรงและอากาศหนาวเย็นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านคำสมบูรณ์ ต.บึงโขงหลง อ.บึงโขงหลง ซึ่งติดกับภูลังกา ต้องพาลูกหลานและสัตว์เลี้ยงออกมาก่อไฟผิงคลายหนาว เช่นเดียวกับพระภิกษุสงฆ์วัดป่ามหาเรืองบุญเขต บ้านหนองสิม ต.โพธิ์หมากแข้ง ส่วนที่ จ.หนองคาย อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาเซลเซียส ชาวบ้านหนาวเหน็บจนต้องพากันก่อไฟผิง ทำข้าวจี่ ล้อมวงกันกิน ขณะที่ปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง ที่เวลานี้น้ำเย็นกว่าปกติ เริ่มกินอาหารได้น้อยลง ผู้เลี้ยงเฝ้าระวังปรับอาหารปลาให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-10 ธันวาคม 2562)" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2562 ในช่วงวันที่ 3-10 ธันวาคม 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องได้ 8-10 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยในช่วงวันที่ 7-10 ธันวาคม 2562 อุณหภูมิจะลดลงต่ำที่สุด โดยบริเวณพื้นราบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-8 องศาเซลเซียส บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย
    สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"