ทส. จัดงาน วันสิ่งแวดล้อมไทย และ วัน ทสม. แห่งชาติ จับมือเครือข่าย ย้ำ 1 มกรา งดถุงพลาสติกหูหิ้ว เผย ประชาชน มากกว่า 90% ปรับเปลี่ยนตัวเองบ้างแล้ว


เพิ่มเพื่อน    

 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดงานวันสิ่งแวดล้อมไทยและวันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ ประจำปี 2562 ซึ่งตรงกับวันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดูแลโลก เพื่อให้โลก...ดูแลเราตลอดไป” ณ ฮอลล์ 4 อิมแพ็คฟอรั่ม ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี  ร่วมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.         นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) และคณะผู้บริหารฯ พร้อมมอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคล ชุมชน และองค์กรต้นแบบด้านการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม 76 รางวัล ย้ำเจตนารมณ์ ร่วมกับเครือข่ายห้างร้าน วันที่ 1 ม.ค. 2563 งดแจกถุงพลาสติกหูหิ้ว (ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน) เผย ผลสำรวจของดุสิตโพล  ประชาชน 89.86% เห็นด้วยกับนโยบายงดแจกถุงฯ  91.58% ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้างแล้ว 86.71%  เห็นด้วยกับการพก    ถุงผ้า 77.46% เห็นควรมีกฎหมายควบคุม และ 61.42% เห็นด้วยกับการเก็บเงินหรือขายถุงพลาสติกหูหิ้ว ณ จุดขาย

                   

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ตลอดจนน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศ อีกทั้งให้ความสำคัญกับพลังการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน อย่างเช่น อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม. เพราะลำพังเพียง ทส. เอง ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ทั้งหมด เสมือนการตบมือข้างเดียว จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ซึ่งนับจากจุดเริ่มต้นของวันสิ่งแวดล้อมไทย เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2532 จากพระราชดำรัสของ      ในหลวง รัชกาลที่9 พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งมีใจความเกี่ยวกับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศและของโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทรงห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประชาชน      ชาวไทยกำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน และให้ถือเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 30 ปีพอดี ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อเวลาผ่านไป ประชากรเพิ่มมากขึ้น การใช้และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ย่อมมีมากขึ้นตามมา และส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ จึงถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องช่วยกันดูแลโลกใบนี้ให้ยังคงอยู่เพื่อส่งต่อให้กับลูกหลานและคนรุ่นต่อไป

 

   

เราทุกคนดูแลโลกใบนี้ได้ โดยเริ่มต้นที่ตัวเอง จากเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัว เช่น การงดใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วและพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกลไกขับเคลื่อนการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป และล่าสุดได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาเก็ต ตลอดจนร้านสะดวกซื้อ กว่า 75 บริษัททั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้ก็ได้ร่วมกันแสดงจุดยืนร่วมกันด้วยการประกาศเจตนารมณ์งดแจกถุงพลาสติกหูหิ้วพร้อมกันทั่วประเทศ ในอีก 28 วันข้างหน้า ทั้งนี้ จากการรณรงค์อย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่องที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณห้างร้าน พ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชน ตลอดจนสื่อมวลชน ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จนส่งผลให้ประเทศไทยลดอันดับประเทศที่มีขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุด จากอันดับที่ 6 เป็นอันดับที่ 10  อีกทั้ง จากผลการสำรวจ ดุสิตโพล ยังพบว่า ประชาชน ถึงร้อยละ 90 เห็นด้วยกับนโยบายงดแจกถุงฯ และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองกันบ้างแล้ว ถึงร้อยละ 91.28 จึงขอเชิญชวนให้ร่วมมือและร่วมใจกัน คนละไม้     คนละมือในการ  “ดูแลโลกเพื่อให้โลก ดูแลเราตลอดไป”

 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. กล่าวว่า  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้จัดกิจกรรมวันสิ่งแวดล้อมไทย และวัน ทสม. แห่งชาติ เป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ      ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระผู้ทรงเป็นบิดาแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรณรงค์ให้ประชาชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำความดีในเรื่องของจิตอาสา ตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 10  อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างจิตสำนึกและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจากทุกภาคส่วน รวมทั้งเพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติบุคคล ชุมชน และองค์กรต้นแบบด้านการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ดูแลโลก เพื่อให้โลก...ดูแลเราตลอดไป” กิจกรรม มีทั้งการจัดแสดงนิทรรศการ สร้างความรู้ความเข้าใจในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการจัดการขยะพลาสติก จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน การนำเสนอผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว โดย สวนดุสิตโพล การแสดงพื้นบ้านเพลงอีแซว โดย แม่ขวัญจิต           ศรีประจันต์ ศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2534

                          

นอกจากนี้ ยังมีการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคล ชุมชน และองค์กรต้นแบบด้านการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวนทั้งสิ้น 76 รางวัล ได้แก่ รางวัลถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิรา   ลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โครงการชุมชนปลอดขยะ zero waste ปี 2562 ระดับประเทศ และรองชนะเลิศ รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการโรงเรียนปลอดขยะ zero waste school ปี 2562 ระดับประเทศ และรองชนะเลิศ รางวัลชนะเลิศ สะอาดบุรี เมืองนี้ปลอดขยะ ปี 2562 ระดับประเทศ รางวัลรองชนะเลิศและ Popular Vote  รางวัลชนะเลิศนวัตกรรมการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน 1 อปท. 1 นวัตกรรมจัดการขยะชุมชน ประจำปี 2562 ภายใต้หัวข้อ “ลดใช้พลาสติก โฟม และ Single Use Plastic” และรองชนะเลิศ รางวัล ทสม. และเครือข่าย ทสม. ดีเด่น ระดับประเทศ ประจำปี 2562  รวมทั้งการประกาศรับรองและมอบตราสัญลักษณ์อุทยานธรณีประเทศไทยให้กับอุทยานธรณีผาชัน สามพันโบก จ.อุบลราชธานี และการประกาศเจตนารมณ์ของภาคีเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ในการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว          

 

ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า  กรมส่งเสริมคุณภาพ   สิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกับ สวนดุสิตโพล  สำรวจความคิดเห็นประชาชน จำนวน 2,032 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 30 ต.ค.-15 พ.ย.2562 ที่มีต่อนโยบาย การงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป พบว่า ร้อยละ 88.78 ทราบถึงนโยบายงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว โดย ร้อยละ 34.89 ทราบจากสื่อโซเชี่ยลมีเดีย ร้อยละ 89.86 เห็นด้วยกับนโยบายฯ ดังกล่าว และ ร้อยละ 91.58 มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบ้างแล้ว  โดย ไม่รับถุงพลาสติก ร้อยละ 51.49  พกแก้วน้ำ ร้อยละ 21.38   ไม่ใช้หลอดพลาสติก ร้อยละ 13.27 พกกล่องข้าว ร้อยละ 10.15 และ ร้อยละ 3.08 เตรียมถุงผ้า ตะกร้าไว้สำหรับซื้อของ รวมทั้ง       ลดการใช้ถุงพลาสติกและนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ ส่วนการเตรียมตัว กรณีวันที่ 1 ม.ค.63 จะงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว พบว่าประชาชนเกือบครึ่ง หรือร้อยละ 46.52 ได้เตรียมถุงผ้าไว้ซื้อของ ขณะที่ ร้อยละ 19.49 จะนำถุงพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำ ทั้งนี้ ร้อยละ 86.71 เห็นด้วยกับการพกถุงผ้าหรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้ 

                  

นอกจากนี้ ร้อยละ 61.42 เห็นด้วยกับการเก็บเงินหรือขายถุงพลาสติกหูหิ้ว ณ จุดชำระเงิน เพราะจะได้ปรับตัว ตื่นตัว และไม่ลืม โดย ร้อยละ 35.49 เห็นควรนำเงินที่ได้ไปจัดตั้งกองทุนด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่ ร้อยละ 32.92 เห็นควรนำไปบริจาคให้มูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อม และ ร้อยละ 30.30 เห็นควรนำไปให้ภาครัฐจัดการด้านสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง ร้อยละ 77.46 เห็นควรมีกฎหมายควบคุมการใช้ถุงพลาสติก ขณะที่ ร้อยละ 16.14 เห็นควรมีหรือไม่มีก็ได้ และ ร้อยละ 6.40 เห็นว่า ไม่ควรมีกฎหมายควบคุม สำหรับข้อเสนอแนะต่อการลดปัญหาขยะพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน สำหรับภาคประชาชน และภาครัฐ  พบว่า ร้อยละ 32.96 แนะให้ภาคประชาชน พกถุงผ้า ตะกร้าสำหรับจับจ่ายซื้อของ ร้อยละ 24.11 แนะให้ปฏิเสธการรับถุง แก้ว และหลอดพลาสติก และ ร้อยละ 9.89 แนะ ใช้ถุงพลาสติกให้น้อยลง ลดการใช้ หรือใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนในภาครัฐ ร้อยละ 32.06 แนะให้รณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติก ร้อยละ 29.77 แนะให้ออกกฎหมายบังคับ งดใช้ถุงพลาสติก และ ร้อยละ 10.73 แนะให้แจกถุงผ้า หรือมีจุดบริการถุงผ้า


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"