เตือนหนาวถึงต้นปี เหนือ,อีสานสะท้าน


เพิ่มเพื่อน    


    อธิบดีกรมอุตุฯ เผย ปีนี้หนาวหนักและนานกว่าปีที่แล้ว ยาวไปจนถึงมกราคม และอาจจะต่อไปถึงกุมภาพันธ์ หลายจังหวัดอุณหภูมิลดเหลือเลขตัวเดียวแล้ว ปภ.เร่งแจกเสื้อคลายหนาว ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวเบ่งบาน ด้านสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลาย
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2562)" ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง บริเวณพื้นราบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 1-8 องศาเซลเซียส สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-22 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงระมัดระวังอัคคีภัยไว้ด้วยเนื่องจากอากาศแห้งและมีลมแรง
    สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมาทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง
    พยากรณ์อากาศในรอบสัปดาห์ ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 23-27 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็ง อุณหภูมิต่ำสุด 1-7 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค.62 มีอากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีน้ำค้างแข็ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส บริเวณพื้นราบมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-27 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-7 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค.62 มีอากาศหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค.62 มีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
    ภาคตะวันออก    ในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค. 62 มีอากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ทางตอนบนของภาคมีอากาศเย็นกับมีลมแรง ส่วนทางตอนล่างของภาคมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 15-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส จังหวัดชุมพรขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-4 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.62 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค.62 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค.62 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 11-14 ธ.ค.62 มีอากาศเย็น อุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม
    นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ภาพรวมลักษณะอากาศตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2562 อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขยับขึ้นลงไม่มาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศยังคงเป็นลักษณะเช่นนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม และหลังวันที่ 10 ธันวาคมเป็นต้นไป อุณหภูมิจะค่อยๆ อุ่นขึ้นประมาณ 2 องศาเซลเซียส ในบางพื้นที่ แสดงให้เห็นว่าแต่ละพื้นที่ยังคงมีอุณหภูมิที่หนาวเย็นอยู่ ในตอนเช้า หัวค่ำ กลางคืน โดยเฉพาะช่วงเวลา 02.00-03.00 น. อุณหภูมิจะลดลงมาก แต่จะร้อนหรืออุ่นในตอนกลางวัน ขอให้เตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวไว้ให้พร้อม เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่างกันมากในตอนกลางวันและตอนกลางคืน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ บนยอดดอยหรือที่สูง แม้แต่พื้นราบบางพื้นที่ตัวเลขติดลบและเลขตัวเดียว อาทิ จ.เลย สกลนคร นครพนม ขอนแก่น น่าน เชียงราย  ยังคงหนาวจัด ต้องรักษาอุณหภูมิร่างกายให้เหมาะสมด้วย 
    อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า คาดการณ์ว่าลักษณะอากาศหนาวเย็นจะอยู่ยาวไปจนถึงเดือนมกราคม แต่หากมวลอากาศเย็นที่แผ่มาจากจีนยังคงเป็นเช่นนี้ อาจเย็นยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ แต่อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 22-25 องศาเซลเซียส โดยปีนี้อากาศหนาวกว่าปีที่แล้ว และหนาวนานกว่า พื้นราบบางพื้นที่มีอุณหภูมิเลขตัวเดียวในหลายจังหวัด ขอเชิญชวนช่วยกันบริจาคเครื่องนุ่งห่ม เครื่องกันหนาวให้กับประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนที่มีอากาศหนาวเย็นถึงหนาวจัด เช่น ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ บนยอดภู ยอดดอย รวมถึงอยากให้ระมัดระวังดูแลสุขภาพ ดูแลร่างกาย เพราะขณะนี้อากาศหนาวเย็นในทุกพื้นที่ สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงระหว่างกลางวันและกลางคืนอุณหภูมิที่ห่างกันมากจะทำให้ร่างกายรับสภาพอากาศไม่ไหว ขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศรายวันและรายสัปดาห์จากกรมอุตุนิยมวิทยาต่อเนื่อง
    เชียงราย นางภัทรวดี ปัญญา นายอำเภอพาน แจ้งให้ทางกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ประกาศเสียงตามสายภายในหมู่บ้านต่างๆ พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เขตรอยต่อ 3 จังหวัด ระหว่างเชียงราย ลำปาง และพะเยา รับมือภัยหนาว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องงดการอาบน้ำในชวงนี้ ขณะเดียวกันก็ควรระมัดระวังเรื่องไฟลุกลามจากการจุดไฟผิง หลังอุณหภูมิลดลงต่อเนื่องจนเกิดปรากฏการณ์น้ำแข็งเกาะบนยอดหญ้า เมื่อเวลาประมาณ 07.05 น. ที่บ้านงิ้วเฒ่า ต.ป่าหุ่ง อ.พาน
    ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ที่พักสงฆ์ ตุสิตาผาโง้ม บ้านห้วยไคร้ หมู่ 8 ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า ได้โพสต์ภาพแม่คะนิ้งบนยอดหญ้าและหลังคารถ พร้อมกับข้อความว่า “ดอยผาโง้มหนาวไหม ตอบด้วยภาพละกัน"
    ที่ชายแดนแม่สาย อุณหภูมิช่วงเช้าลดเหลือประมาณ 6 องศาเซลเซียส ขณะที่ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง และ ต.ปอ อ.เวียงแก่น ชายแดนไทย-สปป.ลาว หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหน้าหนาว อุณหภูมิช่วงเช้าอยู่ที่ประมาณ 4 องศา คึกคักเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศที่พากันไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้น-ทะเลหมอกกันตั้งแต่เช้ามืด จนเต็มยอดดอยไม่ต่ำกว่า 2,000 คน ส่วนบนดอยตุง โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.แม่ฟ้าหลวง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงานเทศกาลประจำปี "สีสันแห่งดอยตุง" ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 4-10 ธ.ค. วันที่ 14-15 ธ.ค. และวันที่ 11-12 ม.ค.63 มีนักท่องเที่ยวต่างเดินทางไปชมไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาว พระตำหนักดอยตุง และเดินกาดชนเผ่า ที่มีการจัดจำหน่ายอาหารพื้นเมืองกันเป็นจำนวนมาก
    เชียงใหม่ นายไพรินทร์ ลิ่มเจริญ ปภ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากตัวเลขผู้ต้องการเครื่องกันหนาวทั้ง 25 อำเภอมีกว่า 3 แสนราย ตอนนี้ได้เร่งแจกช่วยพื้นที่เปราะบางไปกว่า 2 หมื่นชิ้น และกำลังประสานอำเภอดำเนินการระยะนี้อีก 2-3 หมื่นชิ้นในจุดที่ประสบภัย และกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ที่ยากไร้ อันดับแรก 
    ส่วนสภาพอากาศยังคงหนาวเย็นต่อเนื่องบนยอดดอยอินทนนท์ หนาวสุดเหลือ 1 องศา นักท่องเที่ยวทะลักกว่า 1.38 หมื่นคน เขตตัวเมืองบางช่วงต่ำกว่า 10 องศา โดยที่ดอยอินทนนท์ก็พบน้ำค้างแข็งอยู่ทั่วบริเวณ รวมทั้งที่โครงการเกษตรหลวงอ่างขางพบบางจุด และน้ำค้างแข็งยังเกิดขึ้นครั้งแรกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อำเภอพร้าว หลังอุณหภูมิเหลือ 3 องศาเซลเชียส ตามยอดดอยสูงลดต่ำลงโดยเฉพาะบนดอยม่อนล้าน ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีลานนา ทำให้เกิดปรากฏการณ์เหมยขาบสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวขึ้นไปพัก เนื่องจากเป็นเหมยขาบแรกของปีนี้
    น่าน อุณหภูมิลดลงต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะที่หมู่บ้านมณีพฤกษ์ หมู่ที่ 11 ต.งอบ อ.ทุ่งช้าง เช้าวันอาทิตย์วัดอุณหภูมิได้ 0 องศาเซลเซียส เกิดน้ำค้างแข็งเป็นสีขาวโพลน
    นครพนม มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้ากับมีลมแรง อุณหภูมิหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมาโดยวัดที่สถานีตรวจวัดอากาศเกษตร ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม ต่ำสุด 7.8 องศา แต่เมื่อมีแสงแดดอุณหภูมิดีดขึ้นมาอยู่ที่ 13.5 องศา มีประชาชน นักท่องเที่ยว สวมใส่ชุดกีฬาออกมาสัมผัสกับอากาศหนาวในยามเช้าที่ริมฝั่งโขง ต่างคลายหนาวด้วยการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และเต้นแอโรบิก ขณะที่ผู้สูงอายุก็รำกระบองเพื่อสร้างความอบอบอุ่นให้กับร่างกาย
    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่ผ่านมา จังหวัดนครพนมครองแชมป์เมืองหนาวที่สุดในประเทศไทย อุณหภูมิต่ำสุด 7.5 องศา และกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในเวลาอันใกล้นี้อาจมีอากาศหนาวเย็นลงไปต่ำกว่า 6 องศา สาเหตุเพราะคลื่นความหนาวจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมผ่านเข้ามาทางแขวงคำม่วน ประเทศลาว แล้วเข้าสู่นครพนมเป็นจังหวัดแรก ก่อนแผ่ต่อเนื่องเข้าสู่ภาคอีสานตอนบน 
    หนองคาย สถานที่ท่องเที่ยวที่คึกคักเป็นพิเศษยังคงเป็นสกายวอล์ก ที่วัดผาตากเสื้อ ต.ผาตั้ง อ.สังคม ซึ่งเป็นจุดชมวิวพื้นกระจกใส มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวชาวไทย ชาวลาว และชาวต่างประเทศ ได้เดินทางมาเพื่อขึ้นไปชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งโขงไทย-ลาว และสัมผัสอากาศหนาวเย็นบนสกายวอค์กกันตั้งแต่เช้าและตลอดทั้งวัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวด โดยขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวให้ขึ้นชมได้รอบละ 20-25 คน เพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบบนสกายวอล์ก
    สงขลา คลื่นลมบริเวณพื้นที่ชายฝั่งที่มีกำลังแรงได้ซัดใส่บ้านเรือนของชาวบ้านและถนนที่อยู่ติดริมทะเลในพื้นที่หมู่ 10 บ้านมาบปรือ ต.ท่าบอน อ.ระโนด อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีบ้านเรือนถูกคลื่นซัดเข้าถึงตัวบ้านจนได้รับความเสียหายแล้วอย่างน้อย 5 หลัง และมีอีกหลายหลายหลังที่ใกล้จะถูกคลื่นกัดเซาะมาถึงตัวบ้าน ชาวบ้านต้องช่วยกันสร้างแนวกั้นคลื่นทั้งนำกระสอบทรายมาวางและนำไม้มากั้นเท่าที่พอจะทำได้เพื่อลดความแรงของคลื่น ในขณะที่ถนนเลียบชายทะเลที่เป็นเส้นทางเข้า-ออกบ้านเรือนก็ถูกคลื่นซัดพักเสียหายจนขาดแล้วเช่นกัน
    นราธิวาส มีรายงานว่า ขณะนี้พื้นที่น้ำท่วมลดเหลือ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุไหงโก-ลก สุไหงปาดี และตากใบ ส่วนอำเภออื่นๆ มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตรบางพื้นที่ แนวโน้มสถานการณ์ระดับน้ำลดลง. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"