ทุบรถสั่งสอนแย่งที่ผู้พิการ


เพิ่มเพื่อน    


    นักธุรกิจชาวเชียงรายทนไม่ได้เห็นกระบะของคนไม่พิการเข้าไปจอดในช่องจอดรถคนพิการในห้างดัง แจ้งประชาสัมพันธ์ประกาศตามตัวไปเลื่อนแล้วไม่เป็นผล ตัดสินใจทุบรถ บอกยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ขอปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดในสังคมไทย สุดท้ายควักไป 1 หมื่น 
    เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมนี้ เฟซบุ๊ก Peerapong Amornpich ของนายพีระพงศ์ อมรพิชญ์ นักธุรกิจในจังหวัดเชียงราย ได้โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่ตนเองตัดสินใจทุบกระจกรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีขาว ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เชียงราย 2 สี่แยกท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย เนื่องจากรับไม่ได้ที่รถกระบะคันนี้จอดในช่องที่จอดรถคนพิการ โดยระบุว่า "ผมทุบรถ คนไม่พิการ มาจอดรถที่คนพิการ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ขอยินยอมปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดในสังคมไทย โดยที่ผมไม่ยอมทำอะไร"
    ทั้งนี้ นายพีระพงศ์ลำดับเหตุการณ์ว่า 1.ผมเห็นรถคู่กรณีมาจอดในที่คนพิการ ห้าง Big C แล้วเดินออกไป 2 คน มองจากด้านหลัง สูงยาว เข่าดี ไม่ได้พิการ หรือท้อง 2.ผมมากับครอบครัว อุ้มลูกอยู่ ไม่สามารถตามไปทันได้ จึงจำหมายเลขทะเบียนรถแล้วเดินไปแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประกาศตามเจ้าของรถมาเลื่อนรถ โดยรออยู่นานก็ไม่มาสักที ผมจึงฝากประชาสัมพันธ์จัดการและกลับไปหาครอบครัวที่รออยู่ที่สุกี้ MK 3.หลังจากนั่งทานไปสักพัก ผมก็เดินไปดูรถก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ไปที่ประชาสัมพันธ์อีกครั้งถามว่าเป็นอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่ายังไม่มาเลย ผมเลยแจ้งว่าให้ประกาศอีกครั้ง และทำอย่างไรก็ได้ให้เขามาเลื่อนรถภายใน 10 นาที ถ้าไม่มาผมจะทุบรถ 4.ครบกำหนด ผมเดินไปที่รถเพื่อทุบ ขณะกำลังจะทุบ ผู้จัดการ Big C ก็มาขอร้องว่า อย่าทุบเลย เดี๋ยวเธอโดนไล่ออก ผมก็เลยหยุดและบอกว่าให้อีก 10 นาที ถ้าไม่มาเลื่อนรถ คราวนี้ทุบจริง
    5.ผมกลับไปทานสุกี้กับครอบครัว ให้เวลาเขานานๆ เลย มากกว่า 10 นาทีมากๆ ทานจนเสร็จ เช็กบิล ผมก็เอาลูกให้ภรรยาอุ้ม และผมขอตัวแป๊บ 6.กลับมาที่รถคันดังกล่าวก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ทุบเลย 7.หลังจากนั้น ผมก็จะเอากุญแจรถให้ภรรยาขับกลับบ้านไปก่อน ส่วนผมรอคุยกับคู่กรณีที่เกิดเหตุ แต่ภรรยาแจ้งว่าให้พี่น้องที่โบสถ์มารับกลับบ้านแล้ว 8.คุยกับตำรวจ รออยู่สักพัก ก็ตัดสินใน live ลง facebook ว่าผมได้ตัดสินใจทุบรถ และทุบรถแล้ว โดยผมยินดีจ่ายค่าเสียหาย แต่ไม่ยินดีปล่อยให้เมืองไทยเป็นแบบนี้ โดยที่ผมไม่ยอมทำอะไร 9.ระหว่างนั้น คู่กรณีก็มาถึง ถามว่าใครเป็นคนทำ ผมได้ยินหันกลับไปแล้วก็เป็นอย่างในวิดีโอ ซึ่งผมแจ้งว่าน้องจอดรถในที่คนพิการ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหายที่ผมทุบ น้องเขาบอกว่าไม่เป็นไร อย่างไรก็ตาม ต่อมาที่โรงพักน้องเรียกร้องเงิน 70,000 บาท โดยเป็นค่าซ่อม 20,000 + ค่าเสียเวลาและเช่ารถ 50,000 บาท ถ้าไม่ให้จะฟ้องศาล และขู่ว่าถ้าผมไม่จ่ายจะต้องจ่ายมากกว่านี้อีกเยอะ
    10.จากการคุยกับน้องผู้หญิงที่โรงพัก น้องบอกว่าบ้านอยู่แถว Big C และมาใช้บริการที่นี่เป็นประจำ 11.แต่ใน live สด ตามที่ปรากฏ น้องทั้งสองอ้างว่าไม่รู้เลยว่าตรงนั้นเป็นจอดรถคนพิการ และแม้นว่าที่จอดรถคนพิการจะโล่งมาก และมีสีน้ำเงินและสัญลักษณ์ต่างๆ ให้เห็นเด่นชัดเจนว่าเป็นที่จอดรถคนพิการ หลังจากเดินลงจากรถแล้วก็มองเห็นอยู่ดี ไม่ได้เป็นตามที่กล่าวอ้าง และแก้ตัวเร็วมากจนทำให้ผมเชื่อว่าเตรียมคำแก้ตัวไว้ล่วงหน้ามาแล้ว จึงตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องนึกย้อนไปที่เหตุการณ์เลยว่าทำไมตัวเองจึงตัดสินใจทำแบบนั้น ผิดธรรมชาติที่ถ้าคนไม่ได้ตั้งใจ เขาจะงงและทบทวนเหตุการณ์สักพัก ถึงจะตอบได้ ไม่ใช่ตอบได้ทันทีแบบที่เห็นใน live สด
    12.กลับไปที่โรงพัก หลังจากน้องเรียกร้องเงิน 7 หมื่นบาท โดยเฉพาะค่าเสียเวลา + ค่าเช่ารถ 5 หมื่นบาท ร้อยเวรได้ยินก็เรียกทั้งสองไปคุยอีกครั้ง และต่อมาก็เรียกผมเข้าไปบอกว่าลดค่าเสียเวลา + เช่ารถ เหลือ 1 หมื่นบาท ซึ่งผมก็ได้โอนเงินจ่ายให้น้องเขาไป (เจ็บจี๊ดๆ แบบบอกไม่ถูกตอนโอนเงิน)
    13.ตำรวจบอกว่าผมทำไม่ถูกต้อง ควรใช้วิธีอื่นๆ ผมก็ถามกลับไปว่าผมควรทำอย่างไร ตำรวจก็ไม่ได้ให้คำตอบ 14.ผมทำในส่วนของผมแล้วให้สังคมไทยได้เริ่มที่จะหยุด “คนไม่พิการมาเบียดเบียนแย่งจอดรถในที่คนพิการ” ถ้ามีวิธีอื่นที่ผมเลี่ยงได้ ผมก็จะทำ แต่นี่มันไม่มี ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ เหตุการณ์ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม คือมีแต่คนบ่นว่าคนร่างกายดีมาจอดรถที่คนพิการ โดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย 15.ผมต้องการสังคมไทยที่ดีให้ลูกหลานผม และตัวผมเองได้อยู่อาศัย แต่ผมทำคนเดียวไม่ได้ ก็อยู่ที่คนในสังคมแล้วว่าจะเดินไปพร้อมกับผมมั้ย
    มีรายงานว่า ชาวเน็ตได้ออกมาแสดงความเห็นแตกกันเป็นสองฝ่าย ทั้งสนับสนุนและคัดค้านการกระทำของนายพีระพงศ์. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"