พบซากทารกส่วนหัว แขน ขา ถูกทิ้งในป่าละเมาะข้างทาง ลักษณะคล้ายถูกฆ่าหั่นศพหรือหมาแทะแยกชิ้นส่วน รอง ผบก.ขอนแก่นเข้าคุมคดีสั่งหาชิ้นส่วนที่เหลือ พร้อมปูพรมหาเบาะแส
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 9 ธันวาคมนี้ ร.ต.อ.สมัย จันทร์บัวลา รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ "แก่นนคร 191" สภ.เมืองขอนแก่น ว่า พบศพชิ้นส่วนทารกอยู่ในพงหญ้า จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป็กทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 และแพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ บริเวณปากทางเข้าโรงเรียนขอนแก่นวิเทศศึกษา พื้นที่บ้านสะอาด หมู่ 1 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ เป็นส่วนขาด้านขวาของเด็กในสภาพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น ลักษณะถูกตัดด้วยของมีคม ที่ริมถนนห่างประมาณ 500 เมตรจากจุดที่พบชิ้นส่วนขา พบชิ้นส่วนเด็กเพิ่มเติมเป็นส่วนศีรษะ แขนทั้ง 2 ข้าง และบริเวณช่วงอก อยู่ในห่อผ้าสีเขียว ใส่ไว้ในถุงพลาสติกอีก 1 ชั้น คาดว่าถูกทิ้งมาไม่เกิน 7 ชั่วโมง จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ทราบเพศของศพทารก
นายธนารัตน์ อนุอัน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/1 บ้านโคกสูง หมู่ 4 ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น บอกว่า ขณะเดินทางมาที่ทุ่งนาของตนเองซึ่งอยู่ห่างจากถนนในจุดที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ประมาณ 1 กม. พบเห็นสุนัขหลายตัวกำลังรุมกัดบางอย่างอยู่ จึงเข้าไปดูก็พบว่าเป็นชิ้นส่วนขาของมนุษย์ จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ขณะเดียวกันพ่อของตนได้จุดธูปขอให้พบศพและชิ้นส่วนของเด็กที่เหลือ จากนั้นตนจึงได้ขับรถไปเอาโคมไฟที่บ้านมาเพื่อจะมาติดตั้งที่เถียงนา แต่ขณะขับรถกลับมาได้กลิ่นเหม็นเน่าจึงหยุดรถจักรยานยนต์ลงมาตรวจสอบ พบเสื้อสีเขียวห่อบางอย่างที่ส่งกลิ่นอยู่จึงใช้ไม้เขี่ยดู พบส่วนศีรษะ แขน 2 ข้าง และช่วงอก จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบอีกครั้ง
พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นประมาณว่าชิ้นศพศพที่พบ น่าจะเป็นทารกอายุไม่เกิน 4-5 เดือน โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เพื่อจะได้ทราบแน่ชัดว่าชิ้นส่วนทารกที่พบนั้นถูกฆ่าหั่นศพจริงหรือไม่ และศพดังกล่าวเป็นศพของบุตรหลานใคร รวมถึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสต่างๆ เพื่อจะได้ข้อมูลว่ามีเด็กหรือลูกหลานใครหายไปบ้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุเพศได้ โดยต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์นิติเวชอีกครั้ง
ต่อมาในช่วงสาย พ.ต.อ.ภาคภูมินำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจจุดที่พบซากศพทารกอีกครั้ง พร้อมทั้งแบ่งกำลังเดินเท้าในลักษณะเป็นวงกลมในรัศมี 2 กม. เพื่อหาชิ้นส่วนที่ยังหายไปคือ ร่างกายท่อนล่างและขาข้างซ้าย
พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า จุดที่พบซากทารกเป็นป่าละเมาะข้างทางและหญ้าแห้ง ซึ่งมีไฟไหม้ป่าและไหม้ผ้าที่ห่อซากชิ้นส่วนทารก ซึ่งเป็นเสื้อยืดคอโปโลสีเขียวปักคำว่า กล็อค มีขายตามท้องตลาดทั่วไป และไฟได้ไหม้ชายเสื้อที่ห่อซากทารกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่าผู้ที่นำซากชิ้นส่วนทารกมาทิ้งน่าจะขับขี่รถมา แล้วโยนห่อผ้าเข้าไปในป่าที่มีไฟไหม้อยู่ และสุนัขจรจัดมาพบจึงลากห่อชิ้นส่วนทารกออกมาแทะ บางตัวก็คาบชิ้นส่วนท่อนขาไปที่ทุ่งนา และมีชาวบ้านมาพบ
“กำลังตำรวจชุดสืบสวน ชุดสายตรวจจะเดินเท้าหาซากศพทารกที่เหลือทั้งร่างกายท่อนล่างและขาข้างซ้าย เพื่อจะได้ทราบว่าทารกที่พบนั้นเป็นเพศชายหรือเพศหญิง อีกทั้งต้องรอผลพิสูจน์จากแพทย์นิติเวชก่อนว่าทารกที่พบถูกแยกชิ้นส่วนนั้นถูกแยกร่างเพราะสุนัขแทะ หรือถูกแยกเพราะถูกฆ่าหั่นศพ และถ้าถูกหั่นศพแยกชิ้นส่วน ก็ต้องรู้ว่าทารกเสียชีวิตก่อนถูกหั่นศพหรือหั่นหลังจากเสียชีวิตแล้ว"
พ.ต.อ.ภาคภูมิกล่าวว่า หากการตรวจพิสูจน์ของแพทย์ยืนยันว่าเป็นการแยกชิ้นส่วนที่เกิดจากการฆ่าและหั่นศพ ก็ต้องมาจากคนที่มีความโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวกับมารดาของทารก และต้องการกำจัดทารกทิ้งเพื่อแก้แค้น แต่ถ้าไม่ใช่บุคคลอื่นกระทำ แต่เป็นบิดา มารดา นำทารกมาทิ้งเองแล้วถูกสุนัขกัดแทะ จนร่างกายแยกออกจากกันเป็นชิ้นๆ ก็ต้องสอบสวนถึงสาเหตุที่นำทารกมาทิ้ง ทั้งนี้ ทุกความสงสัยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหาชิ้นส่วนที่เหลือให้พบ และรอผลตรวจชันสูตรจากแพทย์ว่าทารกเสียชีวิตก่อนถูกนำมาทิ้งหรือไม่
บ่ายวันเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.) สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป็กทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ในฐานะหัวหน้าชุดทีมสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี พบชิ้นส่วนเด็กทารกทิ้งริมถนนทางเข้าโรงเรียนขอนแก่นวิเทศศึกษา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อสรุปผลการตามหาชิ้นส่วนร่างกายท่อนล่างและขาข้างซ้าย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนทารกที่ยังหายไปและจัดทีมสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวข้องในการนำซากทารกไปทิ้ง
พ.ต.อ.สุทธิพงศ์กล่าวว่า ชิ้นส่วนที่พบทั้งสองจุดนั้นเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของทารกรายเดียวกัน แต่ยังไม่ทราบเพศและไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าชิ้นส่วนดังกล่าวนั้นถูกใครนำมาทิ้ง ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังแพทย์นิติเวช เพื่อขอความร่วมมือในการชันสูตรศพทารกรายดังกล่าว เพื่อจะได้ทราบเวลาที่เสียชีวิตที่ชัดเจน รวมถึงจะได้ทราบว่าทารกรายนี้เสียชีวิตจากการทำแท้งหรือคลอดปกติ เพราะถ้าเป็นการแท้งกับการคลอดปกติแล้วมาเสียชีวิตภายหลังนั้น บุคคลที่เกี่ยวข้องที่นำซากทารกมาทิ้งจะมีความผิดที่แตกต่างกัน แต่ในเบื้องต้นขอยืนยันว่าซากทารกที่พบไม่ได้ถูกไฟเผาแต่อย่างใด และคาดว่าถูกนำมาทิ้งมากกว่า 24 ชั่วโมง ส่วนชิ้นส่วนที่หายไปนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าสุนัขจรจัดที่มีอยู่หลายตัวในบริเวณดังกล่าวอาจจะกัดกินไปแล้ว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |