ซ้อมใหญ่ขบวนพยุหยาตรา เปิดจุดมาชื่นชมพระบารมี


เพิ่มเพื่อน    

    กองทัพเรือซ้อมใหญ่เสมือนจริง ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเก็บรายละเอียดทุกด้าน วันจริงบวงสรวง 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สร้างขวัญกำลังใจฝีพายก่อนเริ่มพระราชพิธี เปิด 19 จุดคัดกรอง 27 จุด จอดรถรองรับประชาชนมาชื่นชมพระบารมี 
    เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 เวลา 13.00 น. กองทัพเรือโดยคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี ได้จัดให้มีการฝึกซ้อมใหญ่ขบวนเรือพระราชพิธีในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยเป็นการซ้อมใหญ่เสมือนจริง เก็บรายละเอียดทุกด้านก่อนถึงวันพระราชพิธีจริงที่กำหนดไว้วันที่ 12 ธ.ค.  โดยใช้เรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ (รวมถึงเรือพระที่นั่ง 4 ลำ ประกอบด้วยเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์)  ขบวนเรือประดับอาภรณ์ภัณฑ์เหมือนวันจริงงดงามตระการตา ส่วนกำลังพลฝีพายประจำเรือและเจ้าหน้าที่ประจำเรือทุกริ้วขบวนเข้าร่วมซ้อมด้วยความพร้อมเพรียงจำนวน 2,399 คน โดยแต่งกายชุดฝึกซ้อม
    สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติในวันนี้ เรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำได้เริ่มตั้งขบวนเรือโดยหัวขบวนของเรือพระราชพิธีอยู่บริเวณธนาคารแห่งประเทศไทย และท้ายขบวนอยู่บริเวณโรงแรมริเวอร์ไซด์ก่อนถึงสะพานกรุงธน
    จากนั้นเริ่มซ้อมใหญ่เสมือนจริงในเวลา 13.52 น. เนื่องจากระดับน้ำในเวลาดังกล่าวจะเท่ากับเวลาจริงในวันพระราชพิธี โดยขบวนเรือได้เคลื่อนออกจากจุดตั้งขบวนมุ่งหน้าไปทางพระบรมมหาราชวัง เส้นทางท่าวาสุกรี-ท่าราชวรดิฐ ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร เคลื่อนขบวนจากจุดเริ่มต้นถึงที่หมายเวลา  14.29 น. รวมใช้เวลา 42 นาที ซึ่งการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีในครั้งนี้เป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ โดยแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ดังนี้
    ริ้วสายกลางซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์  นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอกและเรือตำรวจใน 
    ริ้วสายในขนาบข้างสายเรือพระที่นั่ง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่นเป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชลและเรือเสือคำรณสินธุ์เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาวและเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชักริ้วสายนอก ประกอบด้วยเรือดั้งและเรือแซงสายละ 14 ลำ  รวมทั้งสิ้น 52 ลำ
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้เป็นการซ้อมใหญ่กองทัพเรือเสมือนจริงเก็บรายละเอียดทุกด้าน ตัวเรือประดับตกแต่งเสมือนจริง เพื่อตรวจสอบว่าได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำและกระแสลมหรือไม่ โดยกำหนดฝึกซ้อมเวลา 13.30 น. ซึ่งเป็นเวลาที่กองทัพเรือได้รับแจ้งจากกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือทำนายกระแสน้ำจะตรงกับวันที่ 12 ธ.ค. ส่วนขั้นตอนการปฏิบัติในวันนี้เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการประทับเรือพระที่นั่งออกจากท่าวาสุกรี โดยวันนี้เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ออกจากท่าวาสุกรีเวลา 13.52 น. และเทียบท่าราชวรดิฐเวลา 14.29 น. รวมเวลา 42 นาที ถือว่าตรงตามเวลาที่คาดการณ์ไว้
    ทั้งนี้ การซ้อมใหญ่ไม่มีอุปสรรคแต่อย่างใด กำลังพลมีความพร้อมและความคล่องตัว ลำดับพิธีการต่างๆ ก็ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง อาจมีเรื่องกระแสลมเล็กน้อย แต่ได้มีการแก้ไขตามสถานการณ์ ส่วนการเทียบของเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ก็รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในวันเดียวกันยังมีการซ้อมร่วมกับทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ด้านการรับและส่งเสด็จ หลังจากนั้นมีการฝึกซ้อมการส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสู่ริ้วขบวนราบประกอบพระบรมราชอิสริยยศ
    อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือมีความพร้อมในการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคสมบูรณ์แบบทุกด้าน ทุกตำแหน่ง ทุกหน้าที่ รวมถึงรูปแบบการจัดริ้วขบวนเรือพระราชพิธี ทั้งหน้าตับ ระยะต่อ รวมถึงการรักษาตำแหน่งเรือในช่วงส่งเสด็จ และการตรึงริ้วขบวนเรืออยู่กับที่บริเวณท่าราชวรดิฐ ส่วนอาภรณ์ภัณฑ์และเครื่องประกอบเรือมีความพร้อมสมบูรณ์แล้ว
    สำหรับวันพระราชพิธีจริง ช่วงเช้าจะมีการบวงสรวงเรือพระราชพิธี โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ  ส่วนแรกคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดเตรียมขบวนเรือพระราชพิธีจัดพิธีบวงสรวง 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามจุดต่างๆ เป็นการสร้างขวัญกำลังใจและปกปักรักษาเหล่ากำลังพล จุดแรกที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินที่พระราชวังเดิม, ศาลเจ้าพ่อหนู ทหารเอกพระเจ้าตากสิน ที่ป้อมวิไชยประสิทธิ์, ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่กรมอู่ทหารเรือ, พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่กองทัพเรือ และพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 8 ใกล้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี หลังจากนั้นจะเป็นพิธีบวงสรวงเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือในส่วนที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร.เป็นประธานในพิธี เวลา 06.45 น. จากนั้นกำลังพลจะเข้าประจำจุดและพร้อมในเวลา 10.30 น. นอกจากนี้ ในวันพระราชพิธีจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยกำหนดการเข้าพื้นที่พระราชพิธีอย่างเข้มงวด 
    ส่วนบรรยากาศใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี หนึ่งในพื้นที่ชมขบวนเรือได้อย่างใกล้ชิด มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมถึงคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดจำนวนมากมาจับจองพื้นที่ชมการซ้อมใหญ่ขบวนเรือพระราชพิธี เมื่อขบวนเรือมาถึงจุดนี้ต่างนำโทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายภาพมาบันทึกกันด้วยความตื่นตาตื่นใจ
    นางศยาภรณ์ ไกรเสริม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดพระยาศิริไอยสวรรค์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ กล่าวว่า ตนนำคณาจารย์และบุคลากรของโรงเรียนรวมถึงนักเรียนชั้น ป.1-ป.6 จำนวน 80 คนเดินเท้าจากโรงเรียนซึ่งตั้งอยู่ใกล้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรีมาถึงเวลา 12.45 น. และให้นักเรียนนั่งรอชมขบวนเรือซึ่งการซ้อมเริ่มเวลา 13.30 น. อยากให้นักเรียนได้ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ชมเรือพระราชพิธีและรู้สึกภาคภูมิใจ ที่สำคัญโรงเรียนตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญในการประกอบพระราชพิธีเบื้องปลายที่จะเกิดขึ้น จะทำให้นักเรียนผูกพันกับวัฒนธรรมสายน้ำ     
    นายชวลิต คงนวม ครูกิจกรรมลูกเสือ รร.เทศบาลท่าโขง 1 จ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนได้นำครู 3 คนและนักเรียนชั้น ป.6 จำนวน 30 คนมาชมการซ้อมใหญ่ขบวนเรือพระราชพิธีก่อนวันจริง โดยคณะครูและนักเรียนมาถึงเวลา 11.00 น. ถือเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนจัดพามาชมขบวนเรือ เพราะจะเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์และเป็นพระราชประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ เด็กนักเรียนได้เห็นของจริงและมีประสบการณ์ในช่วงเวลาสำคัญนี้ ก่อนพามาได้ให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องต้น แต่การได้มาชมกับตาถือว่าสุดยอดแล้ว อีกทั้งเป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพระราชพิธีจริงจะมีการอำนวยความสะดวกประชาชนเรื่องเส้นทางการจราจร การเดินทาง จุดจอดรถ จุดคัดกรอง การให้บริการทางการแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม จุดบริการรถสุขาเคลื่อนที่ และการเตรียมตัวของประชาชนในการเฝ้าฯ รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคและขบวนราบ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ดังนี้ 
    จุดคัดกรองก่อนจะเข้าไปยังพื้นที่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ต้องผ่านจุดคัดกรองความปลอดภัยซึ่งมี 19 จุดคัดกรอง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งพระนคร, ทางเข้าพิพิธบางลำพู, สนามหลวงด้านศาลฎีกา, สนามหลวงด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ถนนพระจันทร์, แม่พระธรณีบีบมวยผม, ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร, แยกท่าเตียน, หน้าพระราชวังสราญรมย์, เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งธนบุรี, ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี, ทางเข้าท่ารถไฟ, หน้าอุทยานสถานพิมุขกองทัพเรือ, ท่าเรือวังหลัง, ทางเข้าวัดระฆังโฆสิตาราม, ปากซอยวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารและวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร โดยประชาชนต้องพกบัตรประชาชน และสำหรับชาวต่างชาติพกหนังสือเดินทางเพื่อแสดงตนในการตรวจคัดกรองเข้าพื้นที่ 
    นอกจากนี้ จัดสถานที่รองรับการจอดรถ 27 จุดโซนทิศเหนือของกรุงเทพฯ ได้แก่ เมืองทองธานี  ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ม.เกษตรศาสตร์ สโมสรตำรวจ โซนทิศใต้ได้แก่ ลานพุทธมณฑลสาย 4 เซ็นทรัลศาลายา เซ็นทรัลปาร์คพระราม 2 วิทยาลัยทองสุข อู่จอดรถบรมราชชนนี โรงเรียนบางมดวิทยา โซนทิศตะวันตกเซ็นทรัลเวสต์เกต สถานีท่าอิฐบางรักน้อย โซนทิศตะวันออก ได้แก่ มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมกะบางนา อิเกียบางนา ไบเทคบางนา     โซนกรุงเทพมหานครชั้นกลาง ได้แก่ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาลอาญารัชดา อาคารจอดรถ MRT  ลาดพร้าว อาคารจอดรถ MRT รัชดาฯ แอร์พอร์ตลิงก์สถานีมักกะสัน ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2  คลังสินค้าท่าเรือ คลองเตย (โกดังสเตเดี้ยม) โรงงานยาสูบ ธนาคารไทยพาณิชย์ (สำนักงานใหญ่) สโมสรกองทัพบก รวมทั้งสิ้น 27 จุด จอดได้ 26,000 คัน ทุกจุดจอดรถมีบริการรถ Shuttle Bus อำนวยความสะดวกนำประชาชนเข้าสู่บริเวณงานในจุดที่ใกล้ที่สุด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"