สวดมนต์ไหว้พระ เสริมมงคลปีใหม่


เพิ่มเพื่อน    


    วธ.มอบ 4 กิจกรรมเสริมสิริมงคลรับเทศกาลปีใหม่ จัดสวดมนต์ข้ามปี ถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย กรมศิลป์อัญเชิญพระพุทธปฏิมาโบราณ 9 องค์ให้ไหว้ แถมเปิดพิพิธภัณฑ์-อุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศเข้าชมฟรี 
    เมื่อวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในการแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลถึงประชาชน โดยกระทรวงวัฒนธรรมมอบความสุขแบบวิถีไทยส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ พ.ศ.2563” ว่า วธ.ได้จัด 4 กิจกรรมส่งมอบความสุขในด้านมิติศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ประชาชน ได้แก่ 1.กิจกรรมทำความดีเพื่อความเป็นสิริมงคล ประกอบด้วยกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีถวายพระราชกุศล เสริมสิริมงคลทั่วไทย 2563 ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 ณ วัดและศาสนสถานทั่วประเทศ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศกว่า 21 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมไหว้พระรับสิริมงคล อาทิ “ไหว้พระ 10 วัดสืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล” วันที่ 28 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. มีรถบริการรับ-ส่งฟรี อาทิ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ วัดอรุณราชวรารามฯ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ ส่วนภูมิภาคจัด ณ วัดสำคัญ อาทิ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร และกิจกรรมสักการะพุทธรูปสำคัญ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ อาทิ พระพุทธรูปหลวงพ่อเพชร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติชัยนาทมุนี จ.ชัยนาท พระนิรันตราย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครคีรี จ.เพชรบุรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศ
    นายอิทธิพลกล่าวว่า 2.กิจกรรมท่องเที่ยวสุขสันต์ในแหล่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเปิดแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ให้ประชาชนเข้าชมฟรี ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 41 แห่ง และอุทยานประวัติศาสตร์ 11 แห่ง ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 การเปิดหอศิลป์ร่วมสมัยให้กับประชาชนเข้าชมฟรีวันที่ 29 ธ.ค.62 และวันที่ 2 ม.ค.63 ณหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ 3.กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจัดวันที่ 1 พ.ย.62-5 ม.ค.63 มีการจัดมหกรรมอาหารตลาด วัฒนธรรม และการแสดงของศิลปินแห่งชาติตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรม วันที่ 5-31 ม.ค.63 ณ วิทยาลัยนาฏศิลป์ต่างๆ รวมถึงกิจกรรมทึ่ง! หนังโลกจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง “Seven Samurai : เจ็ดเซียนซามูไร” หนึ่งในหนังดีที่สุดตลอดกาลของโลก ในวันที่ 28 ธ.ค.62 เวลา 12.00 ณ โรงภาพยนตร์สกาลา กรุงเทพฯ และ 4.กิจกรรมส่งความสุขปีใหม่ด้วยของขวัญวิถีไทย โดยคัดเลือกผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมซีพ็อตมาออกร้านจำหน่ายตลอดเทศกาล รวมถึงการให้บริการบัตรอวยพร e-Card ทาง www.ocac.go.th เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนส่งความสุข         
    ด้านนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้จัดกิจกรรมสักการะพระพุทธรูป ณ วังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “พิพิธทศปฏิมาอารยศิลป์” โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เป็นประธาน พร้อมอัญเชิญพระพุทธปฏิมาโบราณอีก 9 องค์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมาประดิษฐานให้ประชาชนสักการะระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.62-5 ม.ค.63 ประกอบด้วย 1.พระพุทธสิหิงค์ ศิลปะสุโขทัย-ล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ 20-21 2.พระพุทธรูปประทานอภัย ศิลปะอินเดียแบบคันธาระ พุทธศตวรรษที่ 6-9 3.พระอมิตาภพุทธเจ้า (พระอมิดะเนียวไร) ศิลปะญี่ปุ่นสมัยคามากุระ พ.ศ.1728-1879 4.พระพุทธรูปสมาธิ ศิลปะลังกาสมัยโปลนนารุวะ พุทธศตวรรษที่ 18-20 5.พระพุทธศากยมุนี (เซ็กเกียมอนี้ฮุด) ศิลปะจีนสมัยราชวงศ์หมิง พ.ศ.1911-2187 6.พระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะพม่าสมัยนยองยาน พุทธศตวรรษที่ 22-23 7.พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะลาว พุทธศตวรรษที่ 22-23 8.พระพุทธศากยมุนี ศิลปะเวียดนามเหนือสมัยราชวงศ์หลี ตอนปลายพุทธศตวรรษที่ 20-24 9.พระพุทธรูปมารวิชัย ศิลปะพม่าสมัยมัณฑะเลย์ ต้นพุทธศตวรรษที่ 25 และ 10.พระพุทธรูปทรงเครื่องมารวิชัย ศิลปะช่างเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา กลางพุทธศตวรรษที่ 25 ผู้สนใจเข้าสักการะได้ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
    "เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ กรมศิลปากรเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและอุทยานประวัติศาสตร์ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติโดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 1 มกราคม2563 ทั้งนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศจะนำพระพุทธรูปมงคลโบราณที่มีประวัติความเป็นมาและสร้างขึ้นตามคติอันเป็นมงคลมาประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนสักการบูชา เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงาม พร้อมชมโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นเยี่ยมที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ" นายประทีปกล่าว 
    สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ที่อยู่ในการดูแลของกรมศิลปากรมีทั้งสิ้น 11 แห่ง ได้แก่ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี จังหวัดเพชรบุรี และอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม จังหวัดสระแก้ว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"