‘ประวิตร’นำจัดทัพพปชร. พท.ฝันกลับมาเป็นรัฐบาล


เพิ่มเพื่อน    

  "สนธิรัตน์" ลั่นไม่ยึดติดตำแหน่งเลขาฯ พปชร. ให้ความสำคัญวิธีการทำงานมากกว่าตัวบุคคล รอลุ้นที่ประชุมใหญ่ 21 ธค.นี้ "เสี่ยเฮ้ง" รับสเปกแม่บ้านดูแลคนในบ้านใกล้ชิด ป่วยพาไปหาหมอไม่ใช่แจกแต่พาราฯ "บิ๊กป้อม" จ่อเข้าประชุม พปชร. 17 ธ.ค.ซักซ้อมการทำงานก่อนปีใหม่ "ลุงสมพงษ์"  ปราศรัยเลือกตั้งซ่อม ซัดรัฐบาลกลั่นแกล้งจดรายชื่อคนในพื้นที่ ปลุกกาเบอร์ 1 ไล่ลุง ฟุ้งมีโอกาสกลับเป็นรัฐบาล  

     เมื่อวันจันทร์ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) กล่าวถึงกรณีจะมีการปรับโครงสร้างพรรค พปชร.ว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562  วันที่ 21 ธ.ค.นี้คงมีการเสนอปรับโครงสร้างของพรรคไปสู่การบริหารจัดการ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตอนจัดตั้งพรรค พปชร.เพื่อให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง ให้กิจกรรมของพรรคยาวต่อไป รายละเอียดเป็นอย่างไรคงต้องรอวันที่ 21 ธ.ค.
    ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นจะมีการปรับเปลี่ยนบุคคลส่วนใดมาเป็นกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)  นายสนธิรัตน์กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของภาค ถือเป็นเรื่องหลักที่พรรคกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนจะมีตัวแทนรัฐมนตรีหรือ ส.ส.ที่เป็นผู้ใหญ่ของพรรคเข้ามาเพิ่มเติมใน กก.บห.หรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยรายละเอียด คงต้องรอจากที่ประชุมใหญ่สามัญ ส่วนจะให้ ส.ส.แต่ละภาคมาเป็น กก.บห.หรือไม่คงดูที่ความเหมาะสมของ กก.บห.ที่จะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนพรรค ซึ่งจะต้องมีตัวแทนของแต่ละส่วนเข้ามา
    เมื่อถามว่าจะมีการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคด้วยหรือไม่ นายสนธิรัตนกล่าวว่าให้รอวันที่ 21 ธ.ค.  ยังไม่ถึงวันนั้นเลย เรื่องเหล่านี้เป็นกรอบใหญ่ของการพูดคุย ส่วนรายละเอียดต่างๆ ทำอย่างไรถึงจะทำให้พรรคปรับวิธีการ มีคณะกรรมการที่สอดรับกับการสร้างพรรคให้เป็นสถาบันในอนาคต ส่วนจะเปลี่ยน กก.บห.ยกชุดหรือแต่งตั้งเป็นรายตำแหน่ง จะต้องใช้มติที่ประชุมใหญ่พรรคในการเสนอเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง 
    เลขาธิการ พปชร.กล่าวว่า เรื่องการปรับโครงสร้างในพรรคเป็นเรื่องปกติ เมื่อพรรคมี ส.ส.จำนวนมาก กลไกการปรับโครงสร้างการบริหารก็ควรจะดำเนินการให้สอดรับกับโครงสร้างของพรรค ต้องยอมรับว่าโครงสร้างปัจจุบันเป็นโครงสร้างพรรคเพื่อจัดตั้งพรรค ถึงวันนี้พรรคมีขนาดใหญ่และมี ส.ส.ทุกพื้นที่  โครงสร้างก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น หากมีการปรับตนออกจากเลขาธิการพรรค คิดว่าตัวบุคคลเป็นเรื่องรอง เรื่องสำคัญคือจะดำเนินการอย่างไรให้พรรคเรามีความเข้มแข็งเป็นสถาบันต่อไป อย่าไปยึดติดเรื่องตัวบุคคล เรื่องตัวบุคคลเป็นเรื่องที่มาทีหลัง เรื่องของนโยบายและแนวทางการทำงานเป็นเรื่องหลัก
    เมื่อถามว่าจะมีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นในพรรคหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่า "อย่าไปคิดมากเลย"
      ด้านนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า วันที่ 21 ธ.ค. ถือเป็นการหารือกัน แต่โดยหลักหากมีการปรับเปลี่ยน กก.บห.ก็เพื่อให้การทำงานของพรรคมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะเราเป็นพรรคใหม่ ดังนั้นการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงเป็นเรื่องปกติ ส่วนในตำแหน่งสำคัญ เช่น หัวหน้าพรรค, เลขาธิการพรรค จะต้องมีการปรับด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องในพรรคที่จะต้องคุยกัน
     นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี พรรค พปชร. ในฐานะประธาน ส.ส.พรรค ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค พปชร.จากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท ว่ายังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว ว่าในวาระการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้  ความชัดเจนจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะพิจารณาถึงความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า ส.ส.ทุกคนในพรรคต่างมีความเข้าใจเหตุผลและจะเคารพมติที่ประชุม เพื่อให้พรรคเติบโตก้าวหน้า แข็งแกร่ง และมีความพร้อมในการทำงานการเมือง รวมถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต
    ผู้สื่อข่าวถามว่า หากที่ประชุมมีมติเปลี่ยนตัวเลขาฯ พรรคจริงจะฝากอะไรถึงคนที่จะมารับหน้าที่นี้  นายสุชาติกล่าวว่า ขอให้นึกถึงสมาชิกในพรรค เมื่อเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคซึ่งเปรียบเสมือนแม่บ้านพรรคแล้ว ต้องลงมาดูแลสารทุกข์สุกดิบ ช่วยเหลือคนในครอบครัวยามเดือดร้อนอย่างใกล้ชิด  ไม่ใช่คนในบ้านป่วยแล้วให้กินแต่พาราฯ เป็นการรักษา ต้องเอาใจใส่พาไปหาหมอด้วย
     พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พปชร.กล่าวถึงกระแสข่าวเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค พปชร.จากนายสนธิรัตน์เป็นนายอนุชา นาคาศัย ว่าเดี๋ยวค่อยดำเนินการ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนตัวเลขาฯ พรรคหรือไม่
    ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พปชร.ว่า ในวันที่? 17?ธ.ค.? เวลา? 15.00?น.จะมีการประชุม? ส.ส.พรรค?  พปชร.?เพื่อเป็นการซักซ้อมการทำงานก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่? โดยได้แจ้งแก่ ส.ส.ว่า? พล.อ.ประวิตร??จะมาร่วมประชุมในครั้งนี้? รวมถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี? 2562?เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างพรรคในวันที่? 21?ธ.ค.ด้วย  
    วันเดียวกัน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.), นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ แกนนำพรรค พท. ลงพื้นที่ ต.โนนทัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เพื่อช่วยหาเสียงให้นายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 ขอนแก่น 
    โดยนายสมพงษ์กล่าวปราศรัยว่า ประชาชนทั้งประเทศเอาใจช่วยพี่น้องชาวเขต 7 จังหวัดขอนแก่น  อยากกาเบอร์ 1 เพื่อส่งสัญญาณไปถึง พล.อ.ประยุทธ์จากการสืบทอดอำนาจว่า ประชาชนจะไม่ทนอีกต่อไป คนออกมาไล่ลุงทั้งประเทศ คนขอนแก่นได้รับโอกาสอย่างเป็นทางการ รู้มาว่าพรรคคู่แข่งเตรียมการทำอะไรบ้างในช่วงโค้งสุดท้าย แต่เชื่อมั่นในประชาชนเพราะพื้นที่เป็นของเพื่อไทยมาโดยตลอด เป็นบ้านของฝ่ายประชาธิปไตย ใจจริงอยากให้เลือกตั้งวันนี้พรุ่งนี้ เพราะประชาชนตัดสินใจได้เด็ดขาดนานแล้ว กลัวแต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ยอมรับ จึงพยายามทำทุกวิธี ดังนั้นพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันจับปากกา กาเบอร์ 1 ไล่ลุงก่อนใคร
    "ทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 7 จะส่งเจ้าหน้าที่ของพรรคเข้าสังเกตการณ์เพื่อป้องกันกลโกงต่างๆ ที่ผู้มีอำนาจพยายามจะแกล้งพรรคเพื่อไทย เพราะวันนี้มีสัญญาณมาแล้วว่าฝ่ายผู้มีอำนาจพยายามที่จะใช้ทุกวีธีเพื่อกลั่นแกล้งและหยุดการทำงานของพรรคเพื่อไทย มีการจดชื่อและตรวจสอบรายชื่อคนในพื้นที่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจดชื่อไปทำอะไร เสียงปริ่มน้ำระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลที่เกิดขึ้น เรามีโอกาสที่กลับมาจัดตั้งรัฐบาลด้วยการได้ที่นั่ง ส.ส.จากการเลือกตั้งครั้งนี้ และหาก พล.อ.ประยุทธ์พยายามที่จะแก้เกมหนีเสียงปริ่มน้ำด้วยการปรับ ครม. พล.อ.ประยุทธ์ควรที่จะเปลี่ยนตัวเองเสียก่อน  ก่อนที่จะไปปรับเปลี่ยนคนอื่น" นายสมพงษ์กล่าว. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"