บุกชกสมคิดทำแผน เรียกร้องประหาร


เพิ่มเพื่อน    


    "สมคิด" พลิ้ว ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายไม่ไปทำแผนที่บ้านเกิดเหตุฆ่ารัดคอเหยื่อรายที่ 6 อ้างเพลีย เครียด ความดันขึ้น ตำรวจต้องตัดตอนพาไปทำแผน 2 จุดหลังก่อเหตุ ชาวบ้านนับร้อยฮือล้อมโรงพักชูป้าย "ประหาร" พร้อมด่าทอฆาตกรเลือดเย็น ผบช.ภ.4 ต้องเข้าเจรจา ไม่วายถูกชายคนหนึ่งแหวกการ์ดทุบหัวไอ้คิดเต็มแรง
    ภายหลังจับกุมนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง 6 ศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายสมคิดไว้ที่ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น โดยมีการสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลา 02.00 น. และ 07.00 น. วันที่ 19 ธันวาคมนี้ เจ้าหน้าที่ได้เบิกตัวนายสมคิดจากห้องขังไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยระหว่างการสอบปากคำ นายสมคิดให้การในลักษณะมีความรู้ทางกฎหมาย นอกจากนี้ได้แจ้งว่าตนเองมีอาการอ่อนเพลียและเครียด ทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูง พร้อมร้องขอให้แพทย์ตรวจร่างกาย ก่อนที่ตำรวจจะนำยาลดความดันมาให้ จากนั้นนายสมคิดก็ขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ขอไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่ตนเองก่อเหตุฆาตกรรมนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เหยื่อรายที่ 6
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศหน้า สภ.กระนวนตั้งแต่เช้า ได้มีประชาชนทั้งจากในพื้นที่และต่างพื้นที่เดินทางไปชุมนุมหนาตาขึ้นทุกขณะ หลังได้ข่าวจะมีการนำนายสมคิดออกไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น และหน่วยควบคุมฝูงชนกว่า 200 นาย คอยควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา
    ที่น่าสนใจคือ น.ส.ศศิธร อาจศักดิ์ น้าของนางรัศมี ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เดินทางมาที่หน้าโรงพักพร้อมชูป้ายเรียกร้องขอให้ประหารชีวิตนายสมคิด
    น.ส.ศศิธรกล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอให้ประหารชีวิตนายสมคิดอย่างเดียว เพราะปล่อยตัวออกมาก็เป็นภัยสังคม นางรัศมีไปทำอะไรให้ ทำไมต้องไปฆ่าเขา ส่วนเรื่องที่นายสมคิดบอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่านั้น ทางครอบครัวไม่เชื่อเลย นายสมคิดต้องมีการวางแผนมาก่อนแน่นอน ดูจากการนำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลขอนแก่นก่อนเกิดเหตุ และดูจากเส้นทางการหลบหนีด้วย
    เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 300 นาย เข้าควบคุมดูแลความเรียบร้อย ในการนำตัวนายสมคิดไปชี้จุดที่ขึ้นรถในเขตเทศบาลตำบลหนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น เนื่องจากมีประชาชนนุมนุมกันหนาแน่นนับร้อยคน พร้อมตะโกนเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตนายสมคิด จนทำให้การนำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุมมาที่รถตู้ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงพัก เป็นไปด้วยความโกลาหล  
    เมื่อเหตุการณ์ส่อตึงเครียด พล.ต.ท.เจริญวิทย์จึงกล่าวขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อจับกุมผู้ต้องหาแล้วก็จะต้องมีการนำตัวไปชี้จุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหลบหนีหลังก่อเหตุ ในส่วนของการรับโทษที่ผู้ต้องหาก่อเหตุนั้น อยู่ที่ศาลจะเป็นผู้พิจารณา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ และด้วยพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่สามารถเอาผิดผู้ต้องหาและส่งตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมายได้ โดยหลังจากผู้ต้องหาพาชี้จุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีแล้ว ก็จะนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นทันที
    หลังคำชี้แจง กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีท่าทีอ่อนลง ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำตัวนายสมคิดออกจากห้องคุมขังบน สภ.กระนวน โดยสวมหมวกไหมพรมคลุมหน้าและศีรษะ ใส่เสื้อเกราะ และให้ก้มหน้า โน้มตัวลงต่ำกว่าเจ้าหน้าที่ที่คุมตัวมาขึ้นรถตู้เพื่อป้องกันการถูกทำร้าย กระนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็พากันตะโกนสาปแช่ง ดาทอต่างๆ นานา รวมทั้งปาสิ่งของใส่ผู้ต้องหาเฉียดศีรษะผู้ต้องหาไปเพียงนิดเดียว ก่อนที่จะพากันเข้ารุมล้อมเพื่อจะประชาทัณฑ์ 
    อย่างไรก็ตาม กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำตัวนายสมคิดไปขึ้นรถตู้พาไปยังจุดที่ขึ้นรถโดยสาร ซึ่งเป็นจุดที่นายสมคิดได้เดินเท้าหลบหนีภายหลังจากฆ่านางรัศมี และขึ้นรถโดยสารหลบหนีไปที่โรงพยาบาลขอนแก่น ที่นายสมคิดนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปจอดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งในจุดดังกล่าวก็มีประชาชนนับร้อยรออยู่ โดยหลังจากนายสมคิดชี้จุดเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนำตัวเดินขึ้นรถตู้ของตำรวจ ก็ถูกชาวบ้านซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ใช้กำปั้นทุบที่ศีรษะของผู้ต้องหาอย่างจัง โดยมีเสียงชาวบ้านคนอื่นๆ ตะโกนด่าบุพการีของผู้ต้องหา ตามด้วยคำหยาบอื่นๆ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำตัวนายสมคิดขึ้นรถตู้เดินทางไปชี้จุดที่ 2 ที่ รพ.ขอนแก่น ทันที
    การทำแผนจุดที่ 2 นายสมคิดได้ชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายมาจอดทิ้งไว้ที่โรงจอดรถจักรยานยนต์ของ รพ.ขอนแก่น ก่อนที่นายสมคิดจะกลับไปที่อำเภอกระนวนและสังหารผู้ตายจนเสียชีวิต จากนั้นก็กลับมาเอารถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่จอดไว้ เพื่อใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี
    ต่อมาตำรวจได้คุมตัวนายสมคิดไปยัง รพ.มหาสารคาม โดยหลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจาก รพ.ขอนแก่น ก็มาจอดรถบริเวณด้านหลัง รพ.มหาสารคาม ซึ่งเหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
    นายกองศรี แหม่งปัง อายุ 75 ปี อยู่อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 5 บ้านโพนสวรรค์ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย ผู้เป็นพ่อของนางสาวสมใจ หรือพรตะวัน ปังคะบุตร หมอนวดสาวที่ถูกนายสมคิดฆ่าเป็นรายที่ 4 กล่าวว่า พอทราบข่าวว่านายสมคิดถูกจับก็โล่งใจ โดยได้บอกกับรูปถ่ายลูกสาวว่านายสมคิดถูกจับได้แล้ว และตนขออโหสิกรรมให้กับนายสมคิด แต่ขอให้เจ้าหน้าที่พิจารณาให้นายสมคิดได้รับโทษที่เหมาะสม หากไม่ถูกประหารชีวิตก็ขออย่าได้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำอีก ขอให้อยู่ในวงจำกัดแคบๆ ในเรือนจำในที่ถูกคุมขัง จะได้ไม่มาสร้างปัญหา ก่อเหตุรุนแรงกับคนอื่นอีก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกแล้ว
    ด้าน น.ส.สุพรรษา รัตนติสร้อย นักพัฒนาสังคม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ชี้แจงข่าวกรณีเมื่อครั้งนายสมคิดพ้นโทษจากเรือนจำแล้วมาติดต่อขอเงินจากสำนักงาน ว่า เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2562 นายสมคิดได้มาที่สำนักงานพร้อมเอกสารการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดหนองคาย และเอกสารหลายอย่างที่เกี่ยวกับคดีของนายสมคิด โดยนายสมคิดบอกว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำแนะนำให้มาที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ เพื่อมาขอรับเงินช่วยเหลือ 
    "ระหว่างที่พูดคุยก็ได้สอบถามนายสมคิดว่าติดคุกคดีอะไร นายสมคิดบอกด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า คดีฆ่าข่มขืน เหตุที่ฆ่าเพราะผู้หญิงพูดไม่รู้เรื่องก็เลยฆ่าทิ้ง และบอกว่าอยากได้เงินเป็นค่ารถเพื่อจะเดินทางไปหาแฟนที่จังหวัดขอนแก่น"
    น.ส.สุพรรษากล่าวว่า หลังจากสอบถามแล้ว ตนได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อจะตรวจสอบเลขประจำตัว 13 หลักตามระเบียบ แต่นายสมคิดไม่มีบัตรประชาชน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรก็ไม่ปรากฏว่ามีนายสมคิดอยู่ในฐานข้อมูล ดังนั้นจึงไม่สามารถให้เงินช่วยเหลือตามระเบียบได้ นอกจากเรี่ยไรช่วยเหลือกันเองตามสมควร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"