ตำรวจคลองตันตามล่า 2 โจรจักรยานยนต์ ดักชิงกระเป๋าหนุ่มชาวญี่ปุ่น เจ้าทรัพย์พยายามยื้อแย่ง ถูกมีดฟันหัว แทงหลังบาดเจ็บสาหัส พบพฤติการณ์คล้ายกับเหตุร้ายเมื่อปลาย พ.ย.ในพื้นที่ใกล้เคียง สงสัยเป็นรายเดียวกัน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ติดตามคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงหนุ่มชาวญี่ปุ่น ก่อนจะชิงทรัพย์แล้วหลบหนีไป เกิดเหตุบริเวณย่านเอกมัย เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.30 น. ตำรวจ สน.คลองตันได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกายชายชาวญี่ปุ่น บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 102 ซอยเอกมัย 10 แยก 6 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบ พบกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บทราบภายหลังชื่อนายฮิโรทากะ ยูชิดะ (Hirotaka Uchida) อายุ 37 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ และโดนแทงด้านหลัง เจ้าหน้าที่รีบนำส่งรักษาตัวโรงพยาบาลคามิลเลียน 
    จากการสอบสวนนายบุญโชค สีหาเสน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยดังกล่าว ให้การว่า ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงวิ่งออกมาที่ริมถนน พบชายชาวญี่ปุ่นถูกทำร้าย โดยคนร้ายจำนวน 2 คน สวมหมวกกันน็อก ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และทะเบียน ขับขี่มาประกบข้าง และใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหาย ก่อนแย่งกระเป๋าเงินของผู้เสียหายไป ขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าทางซอยปรีดีพนมยงค์ 31 จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน  
    นอกจากนี้ เมื่อทางตำรวจได้นำแผนประทุษกรรมของคนร้ายมาเทียบเคียงกับคดีลักษณะนี้ที่เคยขึ้น พบว่ามีคนร้ายลักษณะการก่อเหตุที่คล้ายกับเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามอยู่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
    ด้านนายบุญโชค สีหาเสน พนักงานขับรถในโรงแรม กล่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 01.30 น. ตนกำลังเฝ้าโรงแรมอยู่ ได้ยินเสียงร้องว่า "เฮลพ์ มี (ช่วยด้วย)" ตนก็เลยออกไปดูและส่องไฟฉายไป ก็เห็นคนร้ายกับผู้เสียหายกำลังยื้อแย่งกระเป๋ากันอยู่ มือหนึ่งคนร้ายถือมีด อีกมือหนึ่งแย่งกระเป๋ากับผู้เสียหาย ตนก็ส่องไฟไปดู พบว่าคนร้ายใช้มีดฟันหัวผู้เสียหาย หลังจากนั้นคนร้ายก็ปล่อยกระเป๋าแล้วหลบหนีไปเลย ตนจำทะเบียนรถไม่ได้เนื่องอยู่ในที่มืด จากนั้นก็วิ่งไปช่วยคนเจ็บ แล้วโทร.แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ.