ตั้งฉายา‘รัฐเชียงกง’ สื่อทำเนียบเปรียบอะไหล่มือ2‘ลุงตู่-อิเหนาเมาหมัด’


เพิ่มเพื่อน    

 สื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายารัฐบาลและ 10 รัฐมนตรีแล้ว หลังหายไป 6 ปี รัฐนาวาประยุทธ์เป็นรัฐบาลเซียงกง ที่เหมือนแหล่งค้าอะไหล่มือสอง ส่วน “ลุงตู่” ฉายาอิเหนาเมาหมัด ทั้งจากนโยบายและการปฏิบัติที่ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง 5 รองนายกฯ ได้รับฉายาทั่วหน้า นฤมลรีบแจงนายกฯ ไม่ได้งอน เพราะรู้เป็นหน้าที่สื่อ “ฝ่ายค้าน” ได้ทีขย่ม “หญิงหน่อย” ยกนิ้วเฉียบ อนค.เหน็บรัฐบาลเซียนโกงเหมาะกว่า

    เมื่อวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้มีการเปิดเผยฉายาประจำปี 2562 ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา แต่เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการรัฐประหารและยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำให้มีการงดตั้งฉายามาถึง 6 ปี แต่ล่าสุดหลังมีการเลือกตั้งเมื่อ 24 มีนาคม 2562 และมีรัฐบาลแล้วเมื่อถึงช่วงสิ้นปีจึงฟื้นการตั้งฉายาขึ้นมาอีกคำรบหนึ่ง
โดยผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลได้ประชุมและมีมติตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2562 ดังนี้ ฉายารัฐบาลได้ฉายาว่า รัฐเชียงกง ซึ่งเป็นการสะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ที่ประกอบกันขึ้นจากข้าราชการยุคก่อน และนักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ และสะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ ส่วนวาทะแห่งปีนั้นคือ “อย่าเพิ่งเบื่อผมก็แล้วกัน ยังไงผมก็อยู่อีกนานพอสมควร” ซึ่งเป็นคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2562 ที่กล่าวระหว่างให้โอวาทเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
    สำหรับฉายาของ 10 รัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งได้รับฉายาอิเหนาเมาหมัด ที่เป็นการยกคำสุภาษิตไทย ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง เปรียบแนวทางปฏิบัติ และนโยบายของนายกฯ ที่เห็นได้หลายเรื่องมักจะตำหนิหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สุดท้ายก็กลับมาทำเอง เช่น โครงการประชานิยม, การเล่นการเมือง, การตอบกระทู้ในสภาฯ, งูเห่าการเมือง และนโยบายที่ใช้หาเสียง รวมทั้งยังไม่สามารถควบคุมให้รัฐบาลมีความเป็นเอกภาพ ติดขัดการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายตรงข้ามรุมเร้าคล้ายโดนระดมหมัดเข้าถาโถม แม้พยายามสวนหมัดสู้ แต่หลายครั้งถึงกับมึน ชกโดนตนเองก็มี
    2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฉายาพี่ใหญ่สายเอนฯ ซึ่งในฐานะพี่ใหญ่ของ สาม ป. นอกจากต้องคอยดูแลน้องรักแล้ว ยังต้องเอนเตอร์เทนพรรคร่วมรัฐบาล และดูคนในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ 3.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฉายาชายน้อยประชารัฐ เพราะเป็นเจ้าของโปรเจ็กต์โครงการประชารัฐที่หวังเดินหน้าต่อยอดในรัฐบาลนี้ แต่กลับทำไม่ได้อย่างที่หวัง เพราะถูกริบอำนาจงานด้านเศรษฐกิจ ที่สุดท้ายเหมือนตัวคนเดียว พรรคร่วมก็ไม่เอาด้วย 4.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฉายาศรีธนญชัยรอดช่อง เนื่องจากเป็นกูรูด้านกฎหมายของรัฐบาล สามารถช่วยรัฐบาลรอดพ้นปากเหวได้ทุกครั้ง เปิดทางตันด้วยช่องว่างทางกฎหมายที่แม้แต่แว่นขยายก็ยังมองไม่เห็น
    5.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ได้รับฉายารัฐอิสระ เพราะให้ความสำคัญและเดินหน้าเฉพาะนโยบายของพรรคตนเองเป็นหลัก ไม่สนใจภาพรวมของรัฐบาล และไม่สามารถควบคุม ส.ส.ของพรรคได้ 6.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สธ. ฉายาสารหนู เพราะมีพิษสงรอบตัว ด้วยจำนวน ส.ส.ในมือ จึงต่อรองคุมกระทรวงใหญ่ไว้ในมือได้ และยังมีนโยบายแบน 3 สารพิษที่กลายเป็นชนวนความขัดแย้งเกิดขึ้นในรัฐบาล ก่อนสยบรอยร้าวได้ในที่สุด 7.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ฉายาเทามนัส ซึ่งแม้คดีความต่างๆ จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ก็ถูกขุดคุ้ยตลอด รวมทั้งยังถูกครหาเรื่องการซื้อตัว ส.ส.พรรคเล็ก และดีลกับฝ่ายค้านด้วย 8.น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ฉายามาดามแบนเก้อ จากบุคลิกเฉิดฉาย เด็ดเดี่ยวเดินหน้าแบน 3 สารพิษ อย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม แต่จนแล้วจนรอดการแบนก็ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง 9.นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้รับฉายาโอ๋ แซ่รื้อ เพราะตั้งแต่เข้ามากำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ได้ผุดไอเดียบรรเจิดจำนวนมาก และยังเดินหน้ารื้อหลายโครงการ และ 10.นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ได้รับฉายาสัปเหร่อออนท็อป เพราะนับแต่เข้ารับตำแหน่งได้เกิดเหตุไม่คาดคิดกับสิงสาราสัตว์จำนวนมาก แต่ก็แสดงศักยภาพรับมือเหตุต่างๆ ได้ดี คล้ายทำหน้าที่สัปเหร่อเก็บกวาดทุกเรื่อง (อ่านรายละเอียดหน้า 4)
แจงนายกฯ ไม่ได้งอน
    ทั้งนี้ ในเวลา 10.45 น. ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆ ถึงฉายาอิเหนาเมาหมัด ว่า สร้างสรรค์ๆ ต่อมาในเวลา 13.40 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถามในเรื่องนี้ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่าไม่สนใจ และไม่ได้หันมามองสื่อมวลชนแต่อย่างใด และเมื่อเวลา 14.30 น. หลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินลงมาจากห้องประชุม โดยทำท่าจะแวะเข้าไปที่โพเดียมแถลง แต่สุดท้ายก็รีบเดินออกไปทันที โดยหันมามองค้อนกลุ่มสื่อมวลชนทำเนียบฯ ก่อนโบกมือไม่สนใจ พร้อมชักสีหน้าไม่พอใจ
    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวเรื่องนี้ว่า ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่รัฐบาลไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว และถือเป็นสิทธิของสื่อมวลชนที่จะมีความเห็นที่หลากหลายแตกต่าง ซึ่งหากเป็นเรื่องที่เกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือไม่ตรงกัน รัฐบาลก็พร้อมชี้แจง ส่วนที่มีการเสนอข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่พอใจฉายารัฐบาลนั้น ยืนยันว่านายกฯ ไม่ได้รู้สึกพอใจหรือไม่พอใจ และขอสื่ออย่าตีความเอง เพราะนายกฯ เข้าใจดีว่าเป็นการทำหน้าที่ของสื่อ และเชื่อว่าสื่อจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อสังคมและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
          ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่ห้องบางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ บี 2 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2562 โดยมีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ต้อนรับ ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่พิธีมอบรางวัล มีการแสดงร้องเพลงจากเด็กนักเรียนร้อง ในเพลง ”ชัยชนะ” ของป๊อด โมเดิร์นด็อก โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ก็มาถามกันว่าการตั้งฉายารัฐบาลเป็นอย่างไร รู้สึกอย่างไร ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น จะรู้สึกอะไร ให้ผมดีใจ เสียใจ จะให้ผมพูดหรอ อยากตั้งก็ตั้งไปเถอะ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ การทำงานในวันนี้ของพวกเรา ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่ไม่มีกำลังใจทำงาน คนดีก็เลิกไม่อยากทำ จะทำไปทำไม ทำไปแล้วก็ตั้งชื่อกันอย่างนี้ ผมควรจะรู้สึกอย่างนี้ไหม ถ้าผมไม่ทุ่มเท ถ้าผมไม่ตั้งใจ ด่าผมมาเลย ด่าตรงๆ หน้านี่แหละ ไม่ใช่เรื่องตลก เอาแล้วเครียดอีกแล้ว ก่อนที่นายกฯ จะถอนหายใจ เฮ้อ ไม่รู้จะทำยังไง 
    นายกฯ กล่าวต่อว่า ขอให้รู้ว่าผมไม่ได้สนุกสนานมากนักหรอก หลายคนอาจเห็นว่าผมสนุกก็เป็นเพราะงาน จะให้ผมไปทำหน้าเป็นมัมมี่อยู่คนเดียวหรือ ต้องสนุกกับเขา สร้างบรรยากาศให้กับเขา ตรงไหนที่มันเครียดก็ไปเครียดกับเขา คนเรามันต้องเป็นอย่างนี้ไม่ใช่หรือ หลายคนบอกว่าบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ นายกฯ จะมีความสุขได้อย่างไร ตกลงผมทำอะไรไม่ได้เลยหรือชีวิตผม ขอให้ช่วยผมพูดด้วย ผมจริงใจกับทุกท่านเสมอ ไม่เคยไปอะไรกับท่าน ไม่เคยไปเรียกอะไรจากท่านสักอย่าง มีแต่ขอให้ทำงานให้ประเทศชาติ
    "ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ ความขัดแย้งไม่ได้อะไร แต่ความร่วมมือนั้นได้อะไร คนทั้งประเทศต้องช่วยผมคิด ไม่อย่างนั้นก็เป็นเรื่องสนุกสนานของคนที่ไม่คิดไปข้างหน้า บางคนไม่รู้อะไรหาเรื่องด่าทั้งวัน วันนี้อาจเสียงดังนิดนึง เพราะวันจันทร์เรื่องมันเยอะ แต่วันพุธก็คงหมดแรง ยืนยันทุกอย่างไม่มีปัญหาอะไร สามารถทำได้ และผมไม่ได้โมโหใคร อย่างน้อยแค่อยากให้รู้ว่าผมคิดอะไร และไม่ได้ตำหนิ แม้จะเสียงดังก็เรื่องของผม จะกลัวทำไม และขอบคุณทุกคนอีกครั้ง ขออย่าโกรธอย่าเคืองกันปีเก่า หากผมทำอะไรไม่ถูกใจก็ขออโหสิกรรมด้วย ทั้งชาตินี้และชาติต่อไป" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
    ด้านนายจุรินทร์กล่าวถึงฉายารัฐอิสระ ว่าน่ารักดี ไม่มีปัญหาอะไร ถือว่าเป็นมุมมองของสื่อมวลชน ซึ่งสื่อคงคิดว่าตรง และความจริงไม่อยากไปโต้แย้งอะไร เพราะเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาที่ใครจะให้ความเห็นอย่างไร เพราะเรามีหน้าที่ที่ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด 
“ที่ผ่านมาทำได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทุกเรื่องทำในนามรัฐบาล เพียงแต่ผมก็จำกัดขอบเขตในการทำหน้าที่อยู่เหมือนกัน อะไรที่เป็นหน้าที่โดยตรงก็ทำหน้าที่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็หลีกเลี่ยงที่จะไปก้าวล่วงงานของคนอื่น เป็นการสะท้อนที่สามารถเข้าใจได้ว่าเรามีประสบการณ์ในการทำงานมานาน ทั้งแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาล จึงรู้ว่าจะจำกัดขอบเขตการทำงานในลักษณะไหนอย่างไร เพื่อให้งานเดินหน้าและสำเร็จลุล่วง” นายจุรินทร์ชี้แจง
    เมื่อถามถึงฉายารัฐเชียงกงของรัฐบาล นายจุรินทร์ปฏิเสธแสดงความเห็น โดยระบุว่าสื่อมวลชนมีความเห็นอย่างไรก็รับฟังไว้ แต่คิดว่าการทำงานร่วมกันทุกคนมีเป้าหมายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือการทำหน้าที่ในความรับผิดชอบตัวเองให้ประสบความสำเร็จ หากรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงทำหน้าที่ให้สำเร็จ สุดท้ายจะเป็นความสำเร็จรวมของรัฐบาลด้วย โดยมี พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าคณะ
    ส่วน น.ส.มนัญญากล่าวชี้แจงที่ได้ฉายามาดามแบนเก้อ ว่ารู้ได้อย่างไรว่าทำไม่ได้ มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายยังไม่ออกเลย ยังไม่มีสารพิษเข้าใช่ไหมล่ะ ถ้ามีเข้าก็ถือว่ายังแบนไม่ได้ แต่นี่ยังไม่มีเรื่องสารพิษเข้า
ท็อปหวังปีหน้าได้ฉายาอีก
    นายวราวุธกล่าวถึงฉายาสัปเหร่อออนท็อป ว่าน่ารักน่าชังดี ดีใจเพราะนี่คือฉายาแรกในชีวิต เกิดมาไม่เคยมีฉายาเลย เพิ่งได้เป็น รมว.ครั้งแรกในชีวิตก็มีฉายาเลยก็ดีใจที่มีฉายา จะดีไม่ดีอย่างไรไม่เกี่ยว ถือว่าสื่อมวลชนจับตามองให้ความสนใจก็ต้องขอบคุณสื่อที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และถือเป็นเกียรติที่ได้เป็น 1 ใน 10 จาก 36 คน ก็ถือว่าเป็นคนที่สังคมยังจับตามองอยู่ ยังทำงานแล้วมีคนเห็นถือว่าเป็นที่สะดุดตาของประชาชน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้กระตุ้นการทำงานของเรามากขึ้น และจะพยายามให้มากขึ้นเพื่อที่ปีหน้าจะได้ลุ้นอีกว่าจะได้ฉายาอะไร 
“ถือว่าเป็นกำลังใจในการทำงานอย่างดี ที่สำคัญคือชาวกระทรวงทรัพยากรฯ ได้อ่านคำอธิบายแล้วเชื่อว่าจะมีกำลังใจในการทำงาน เพราะเราพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ผ่านไปได้ด้วยดี ทำอย่างเต็มความสามารถไม่ให้เกิดความบกพร่อง แต่บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่นอกเหนือความควบคุมของเรา เช่น สัตว์ที่ตายไปทั้งหลายก็สมแล้วที่สื่อตั้ง” นายวราวุธกล่าว 
    ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเรื่องนี้ว่า ต้องบอกว่าสื่อมวลชนได้สะท้อนภาพได้อย่างชัดเจน ต้องบอกว่าน่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการรวมตัวของรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองมากที่สุดถึง 18 พรรคการเมือง เป็นรัฐบาลที่มีชิ้นส่วนประกอบกันเรียกว่า ปะผุเยอะมาก ถ้าจะนับอายุจริงๆ ก็ต้องบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่มานาน 6 ปีแล้ว ส่วนรัฐบาลก็ทำงานมา 6 เดือนแล้ว
         “ต้องบอกว่าจริงๆ รัฐบาลหมดเวลาแล้ว โดยเฉพาะตัวนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจต้องมีความเข้าใจปัญหาจริงๆ อย่าไปว่าคนอื่นไม่เข้าใจ และต้องลงมาแก้ไขปัญหาจริงๆ รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด ไม่ใช่บริหารดูแลช่วยแต่เศรษฐกิจรายใหญ่ เอกชนเพียงไม่กี่ราย แต่ละเลยระดับรากหญ้า” คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
          คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวต่อว่า วันนี้แสดงให้เห็นว่าฝีมือรัฐบาลมีมากแค่ไหน ถึงแม้จะใช้อะไหล่คล้ายคลึงกัน แต่ตัวเครื่องยนต์หลักไม่เหมือนกัน ระหว่างหัวหน้ารัฐบาลเชียงกงกับรัฐบาลไทยรักไทย อย่างที่ประชาชนเห็นทุกเรื่อง ที่ว่าทุกเรื่องที่อ้างรัฐประหารตัวเองก็ทำแล้วทำยิ่งกว่าเสียอีก ต้องบอกว่าสื่อทำเนียบฯ เฉียบเหมือนเดิม ต้องขอชื่นชม
    นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) โพสต์เฟซบุ๊กในฉายารัฐบาลเชียงกง ว่ารัฐบาลเซียนโกงน่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับรัฐบาลประยุทธ์ 2 เริ่มตั้งแต่การร่างรัฐธรรมนูญ, บัตรเขย่ง และการล้มมติเสียงข้างมากจากผลการโหวตตั้งกรรมาธิการศึกษาผลกระทบจากมาตรา 44 สภา ซึ่งการโกงนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่นึกออก ทั้งหมดนี้ไม่ได้โกงแค่ฝ่ายค้าน แต่กำลังโกงประเทศชาติ โกงประชาชน โกงให้ได้มาซึ่งอำนาจ ไม่สนใจประชาชนแม้แต่น้อย พวกคุณคือเซียนโกงของจริง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"