เผยผ้าห่อศพมัด เสี่ยไฮ้ฆ่าถ่วงน้ำ


เพิ่มเพื่อน    

    ผบช.ภ.1 นำคณะแถลงจับเสี่ยไฮ้กับสมุนคนสนิทฆ่าถ่วงน้ำเซลส์สาวขายปุ๋ย เผยผู้ต้องหายังคงปฏิเสธ แต่ไม่หนักใจ ตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนา เตรียมขออำนาจศาลฝากขังพร้อมคัดค้านประกันตัว เผยหลักฐานสำคัญคือผ้าปูที่นอนในที่ทำงานผู้ต้องหาที่ใช้ห่อศพ
    เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย, พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง ผบก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวนายสันติ หรือเสี่ยไฮ้ จึงทองดี อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 294/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 และนายนิวัฒน์ หรือแจ๊ค เฉลิมวัฒน์ อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 293/2562 ลง 24 ธันวาคม 2562 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, ร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนของศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปเพื่ออำพรางคดี จับกุมตัวได้ที่บริษัท ห้าดาวเคมีภัณฑ์ จำกัด ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี  
    พล.ต.ท.อำพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 นางลั่นทม วงษ์สิงห์ อายุ 57 ปี ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรพระพุทธบาท แจ้งความคนหายเพื่อติดตามตัว น.ส.กลิ่นเกษร วงษ์สิงห์ อายุ 33 ปี พนักงานขายปุ๋ย ซึ่งเป็นบุตรสาวของตนได้หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2562 ช่วงเช้า มีพลเมืองดีแจ้งเหตุให้พนักงานสอบสวน สภ.หนองโดน ว่ามีเหตุพบรถยนต์จมน้ำอยู่กลางคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก ต.บ้านโป่ง อ.หนองโดน จ.สระบุรี
    จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งจมอยู่กลางคลองชลประทาน ชัยนาท-ป่าสัก ตรวจสอบเบื้องต้นพบหมายเลขทะเบียน 4 กฐ 6348 กรุงเทพมหานคร ภายในรถยนต์พบดินโคลน, ผ้าปูที่นอนห่อโครงกระดูกมนุษย์, ซิลิโคน, เสื้อผ้า เอกสารและบัตรพร้อมสิ่งของต่างๆ จำนวนหลายรายการ ผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพิสูจน์รูปแบบสารพันธุกรรม (DNA) พบว่าชิ้นส่วนโครงกระดูกมนุษย์ที่พบในรถจมน้ำเทียบกับนางลั่นทม มีความสัมพันธ์เป็นมารดาและบุตรกันตามหลักการถ่ายทอดพันธุกรรม 99.995% ผลการตรวจสอบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวปรากฏชื่อ น.ส.กลิ่นเกษรเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ ซิลิโคน, เสื้อผ้าและเอกสารรวมทั้งบัตรต่างๆ ที่ระบุเป็นของ น.ส.กลิ่นเกษร อยู่ภายในรถ จึงยืนยันได้ว่าโครงกระดูกที่พบในรถคือ น.ส.กลิ่นเกษร
    ผบช.ภ.1 เผยต่อว่า จากการสืบสวนสอบสวนทำให้ทราบข้อเท็จจริงว่า น.ส.กลิ่นเกษร ผู้ตายได้คบหาเป็นสามีภรรยากับนายสันติ ต่อมาภายหลังได้มีเหตุขัดแย้งทะเลาะวิวาทกันเรื่องความหึงหวงแล้วหายตัวไป เจ้าหน้าที่จึงนำภาพกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบและสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ทำให้เชื่อว่า น.ส.กลิ่นเกษรน่าจะถูกฆาตกรรม โดยผู้ก่อเหตุใช้ผ้าปูที่นอนในออฟฟิศภายในบ้านของนายสันติ มัดพันห่อศพผู้ตายไว้ แต่ไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตายที่แน่ชัด และคาดว่ามีการก่อเหตุภายในโรงงาน แล้วนำศพผู้ตายมาทิ้งเพื่ออำพรางคดี คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลจังหวัดสระบุรีขออนุมัติหมายจับนายสันติ และนายนิวัฒน์ หรือแจ๊ค ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของนายสันติ เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดและสามารถติดตามจับกุมตัวได้ 
    "เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานทั้งหมดในการดำเนินคดี โดยในวันพรุ่งนี้ (26 ธ.ค.) จะนำตัวฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากญาติผู้ตายเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย และผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน" ผบช.ภ.1 กล่าว 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าว พล.ต.ท.อำพลได้สอบปากคำสองผู้ต้องหา ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหากลับ จ.สระบุรี โดยมีกำลังตำรวจจากกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 1 เกือบ 10 นาย คุมเข้มสองผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ตำรวจ สภ.แก่งคอย ทั้งนี้ ระหว่างการคุมตัวกลับ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายสันติถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ รวมถึงให้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่ แต่นายสันติไม่ตอบคำถามใดๆ
    ที่บ้านของนายทอด และนางมนพ วงษ์สิงห์ ตากับยายของ น.ส.กลิ่นเกษร ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เนินขาม อ.เนินขาม จ.ชัยนาท นายทอดกล่าวว่า ดีใจที่ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนนางมนพกล่าวว่า ขอให้คนก่อเหตุตายตกไปตามกัน เชื่อว่าคดีนี้จับคนร้ายไม่ผิดตัว เพราะหลานอยู่กับคนนี้ก่อนจะหายไป หลังเสร็จสิ้นคดีจะขอนำกระดูกหลานกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดวังคอไหต่อไป.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"