2งูเห่าอนค.จ่อซบอก‘ปชป.’


เพิ่มเพื่อน    

 หัวหน้าส่วนราชการ-ผบ.เหล่าทัพเข้าอวยพรนายกฯคึกคัก "บิ๊กป้อม" ขอพรให้รัฐบาลอยู่นานๆ ให้ประชาชนมีความสุขไฟเขียววิ่งไล่ลุงจัดได้ แต่อย่าให้วุ่นวาย จะขออนุญาตหรือไม่ต้องถาม ตร. แกนนำส้มหวานเดินสายร่วมงานปีใหม่กลุ่มชาติพันธุ์ "ทอน" ลั่นปี 63 เป็นปีแห่งชัยชนะของ ปชช. "จตุพร" ฟันธง อนค.ถูกยุบ แนะ กก.บห. 11 คนรีบลาออกเพื่อไม่ให้จำนวน ส.ส.หายไปเตือนทำม็อบระวังถูกล้อมปราบ หวั่นเวทีชังชาติจบลงด้วยรัฐประหาร พท.ชี้ ปชช.เบื่อนายกฯ ตอกย้ำอิเหนาเมาหมัด-รัฐเชียงกง 

    ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 08.30 น. วันที่ 28 ธันวาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายในการทำงานของปี โดยเวลา 09.00 น. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นำข้าราชการกระทรวงมหาดไทยเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2563
     ขณะเดียวกัน พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ., พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ., พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผช.ผบ.ทบ. และ พล.อ.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ เสนาธิการทหารบก รวมถึงคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบกเข้าอวยพรและรับพรจากนายกรัฐมนตรีด้วย
      นอกจากนี้ กลุ่มเพื่อนนายกรัฐมนตรีสมัยเตรียมทหารรุ่น 12 นำโดย พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร และ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป ซึ่งวันนี้เป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตบเท้าเข้าร่วมอวยพรนายกรัฐมนตรีอย่างคึกคัก
      และได้เปิดโอกาสให้หัวหน้าส่วนราชการเข้าอวยพรปีใหม่ด้วย  โดยนายธีระภัทร ประยูรสิทธิ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าอวยพรว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณข้าราชการทุกคนที่ช่วยกันทำงานและเหน็ดเหนื่อยมาด้วยกัน ให้ถือเป็นครอบครัวเดียวกันที่จะขับเคลื่อนประเทศ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนมีความสุข และกำชับให้ข้าราชการทุ่มเททำงาน ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี  
    ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบถุงผ้าซึ่งสกรีนเป็นการ์ตูนรูป พล.อ.ประยุทธ์แต่งตัวเป็นชาวนา พร้อมข้อความระบุว่า “ปีใหม่ กินข้าวใหม่” และด้านหลังถุงผ้ายังสกรีนข้อความว่า “ด้วยรักและห่วงใย” ลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งในถุงผ้ามีข้าวหอมมะลิ และข้าว กข.83 (มะลิดำหนองคาย 62) ให้เป็นที่ระลึก โดยถุงผ้าดังกล่าวเป็นถุงผ้าที่นายกฯ มอบให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา    
         พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ว่า มีการกำชับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนกิจกรรมชุมนุมที่จะมีขึ้นในช่วงหลังปีใหม่นั้น เขายังไม่ได้มีการชุมนุม ต้องไปถามคนที่จะชุมนุมดู ซึ่งไม่มีอะไรต้องกังวลหรือกำชับ
    ผู้สื่อข่าวถามว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุงสามารถจัดได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จัดได้ แต่อย่าให้มันวุ่นวายแล้วกัน ให้เป็นที่เป็นทาง ส่วนฝ่ายความมั่นคงอนุญาตหรือไม่ เป็นเรื่องของกฎหมาย ต้องไปถามตำรวจดู ตำรวจเขาว่าอย่างไร เป็นเรื่องของกฎหมาย ส่วนจะเข้าข่ายการชุมนุมหรือไม่นั้น ต้องดูในเรื่องกฎหมาย คนที่ดูแลเรื่องนี้มีอยู่ ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับกฎหมายจราจรหรือกฎหมายใด
ขอให้รัฐบาลอยู่นานๆ
     เมื่อถามว่า ต้องนำ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะมาพิจารณาอนุญาตด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวย้อนถามว่า เขาชุมนุมหรือไม่ วิ่งไล่ลุงกิจกรรมเป็นอย่างไร รู้ได้อย่างไรว่าจะไม่มีการปราศรัย ให้ไปถามเขาดู
     ส่วนกรณีแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยยุติการคุกคามด้วยกระบวนการกฎหมายต่อสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน, นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวในประเทศไทย รองนายกฯ กล่าวว่า ใครไปลิดรอนสิทธิเขา ต้องไปถามแอมเนสตี้เอง เราไม่ได้ทำอะไร ใครที่จะข่มขู่มีหรือไม่
    ถามว่า ได้อวยพรปีใหม่อะไรให้กับนายกฯ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ขอให้ต่างคนต่างมีความสุขทั้งคู่
    เมื่อถามว่า ปีใหม่นี้ ถ้าขอพรได้อยากขออะไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ขอให้รัฐบาลอยู่ไปนานๆ ขอให้ประชาชนมีความสุขตลอดไป” เมื่อถามย้ำว่า ที่ว่านาน นานกี่ปี พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เอาแค่เท่าที่จะอยู่ได้” เมื่อถามอีกว่า 8 ปีเลยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวเสียงสูงว่า ไม่เอา สื่อพูดไปเรื่อย
       เช้าวันเดียวกัน ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ดินแดง พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) นำผู้บัญชาการเหล่าทัพ ประกอบด้วย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ., พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร., พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เข้าขอพรและอวยพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ  เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ, ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน, พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ตัวแทนหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน คณะทหาร ตำรวจ คณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ และประชาชนทั่วไปนำกระเช้าเข้าร่วมอวยพรอย่างคึกคัก
    ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ในปีหน้าขอให้ทุกคนมีความเจริญรุ่งเรือง คิดสิ่งใดก็ขอให้สมปรารถนาทุกประการ มีสุขภาพที่แข็งแรงและเป็นหลักให้บ้านเมือง ปีหน้าขอให้อย่าวุ่นวายมากนัก ขอให้สื่อช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองให้ไปตลอดรอดฝั่ง ทั้งนี้ ขอฝากสื่อทุกคนด้วย ถ้าไม่อยากให้บ้านเมืองปั่นป่วน อย่าถามอะไรที่รุนแรงมากนัก ซึ่งตนขอฝากรัฐบาลชุดนี้และประเทศชาติไว้กับทุกคน
    เมื่อถามหลังปีใหม่จะยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า “ถามอะไรเช่นนั้น มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว ผมจะไปไหน ก็อยู่ช่วยงานนายกฯ นี่แหละ“
    เมื่อถามต่อว่า ดูเหมือนนายกฯ จะมอบหมายงานด้านความมั่นคงให้มากขึ้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ตอนนี้แข็งแรงขึ้น งานก็มากขึ้น ซึ่งจะช่วยงานได้ยาวขนาดไหนก็ขึ้นอยู่สภาพร่างกาย ซึ่งก็ต้องดู 4 ปีนี้ก่อนอย่าเพิ่งไปดูอนาคต เอา 4 ปีนี้ให้ช่วยกันตลอดรอดฝั่งไปก่อน 
    วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า  บรรยากาศที่คึกคักของพี่น้องชาวหาดใหญ่ และจังหวัดใกล้เคียง ในการรับรู้ข้อมูล “ลัทธิชังชาติ” ที่โรงแรมพาราไดซ์ หาดใหญ่ นับวันยิ่งคึกคัก ผมบอกกับพี่น้องว่า รอบนี้พวกเราไม่ต้องเหนื่อย ไม่มีความคิดลงถนน แค่ติดตามข้อมูล ข่าวสาร ข้อเท็จจริงต่างๆ ห่วงใยพูดคุยกับลูกหลาน อย่าให้ตกเป็นเหยื่อ เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อไปปกป้องเรื่องส่วนตัวของพวกลัทธิชังชาติ ที่กระทำผิดกฎหมายเสียเอง เพราะคนพวกนี้พยายามดิ้นรน เนื่องจากทำผิดกฎหมายแล้วไม่ยอมรับผิด กล่าวหาว่าเป็นนิติสงคราม ถ้าไม่ทำผิดกฎหมายก็ไม่มีใครทำอะไรได้ #ปราบลัทธิชังชาติด้วยความจริง”
63ปีแห่งชัยชนะปชช.
    ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก พ.ต.ท.โชคอำนวย วงษ์บุญฤทธิ์ รอง ผกก.สอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้เดินทางเข้ามาที่ศาล เพื่อสอบถามแนวทางกับศาล หากจะมีการยื่นคำร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราว กรณีการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุงที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ม.ค.2563 โดยมีรายงานข่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้มีจุดประสงค์เพียงแค่มาพบ เพื่อสอบถามแนวทางปรึกษาข้อกฎหมายจากทางศาลเท่านั้น ยังไม่ได้มีการยื่นคำร้องดังกล่าวแต่อย่างใด และเนื่องจากเป็นการเดินทางมาช่วงพักกลางวัน จึงไม่ได้มีการปรึกษาในเรื่องดังกล่าวในวันนี้
    นายวรวิทย์ นิติบริรักษ์ ทนายความพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในฐานะตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ได้ให้สัมภาษณ์ที่ สน.ปทุมวัน ว่าทางตำรวจไม่ได้ห้ามนายธนาธรไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ในวันที่ 12 ม.ค. เนื่องจากเป็นเพียงงานวิ่งออกกำลังกายปกติ ที่ไม่น่าก่อให้เกิดปัญหาใดๆ
    ที่ อ.พบพระ จ.ตาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ร่วมงานประเพณีวันปีใหม่ม้ง โดยมีนายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรค อนค. จากกลุ่มชาติพันธุ์ม้งนำเดินชมงานและร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยนายธนาธรกล่าวกับประชาชนบทเวทีกิจกรรมว่า พรรค อนค.มี ส.ส.ที่เป็นตัวแทนกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ 2 คน คือ 1.คุณณัฐพล ส.ส.บัญชีรายชื่อชาติพันธุ์ม้ง และ 2.คุณมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เหตุผลที่เราผลักดันให้มี ส.ส.ซึ่งเป็นคนชาติพันธุ์ในสภา เพราะเราเชื่อในเรื่องคนเท่ากัน เราเป็นเพื่อนประเทศเดียวกันเป็นเจ้าของประเทศเป็นเจ้าของผืนป่า เป็นเจ้าของทรัพยากรธรรมชาติร่วมกันมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันต่อหน้ากฎหมาย พรรค อนค.เห็นคุณค่าของทุกกลุ่มคนในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่ถูกภาครัฐละเลยกลุ่มคนที่รัฐมองว่าเป็นชนชั้นสองกลุ่มคนที่ถูกกดขี่เอาเปรียบมายาวนาน 
    "วันนี้ ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่เดินทางไปร่วมงานปีใหม่พี่น้องชาติพันธุ์ คุณกุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค ขณะนี้ไปร่วมงานปีใหม่กะเหรี่ยงที่ จ.เชียงใหม่ และคุณช่อ พรรณิการ์ วานิช โฆษพรรค ก็ไปร่วมงานปีใหม่ม้งที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ด้วยเช่นกัน" นายธนาธรกล่าว 
    นายธนาธรกล่าวว่า ในปีหน้าพรรคอนาคตใหม่จะขับเคลื่อนเรื่องที่ดินอย่างจริงจัง ทรัพยากรที่เป็นสิทธิชุมชน ดิน น้ำ ป่า นโยบายต่างๆ เรื่องนี้จะต้องไม่ถูกกำหนดมาจากส่วนกลางโดยที่ไม่เข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ พรรคเราจะผลักดันให้เกิดการแก้ไข การจัดการปัญหาที่ดินต้องมองเห็นคนตัวเล็กตัวน้อย ต้องมองเห็นหัวประชาชน ไม่ใช่ที่ดินจัดสรรให้นายทุนหรือผู้มีอิทธิพล แต่ที่ดินต้องเอามารับใช้ประชาชน
    "ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2563 หรือ ค.ศ.2520 ขอให้พี่น้องพบแต่ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง ปีหน้าขอให้เป็นปีแห่งความกล้าหาญ ภาวะเศรษฐกิจที่เผชิญอย่าเพิ่งสิ้นหวังหรือหมดกำลังใจ ให้ต่อสู้ไปด้วยกัน ขอให้ปี 2563 เป็นปีแห่งชัยชนะของประชาชน สวัสดีปีใหม่ 2563" นายธนาธรกล่าว จากนั้นได้โยนลูกช่วงซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำหรับวันขึ้นปีใหม่ของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ให้ผู้มาร่วมงานสำหรับนำไปใช้ในการเล่นลูกช่วงต่อไป ก่อนที่จะเดินพบปะประชาชนที่มาร่วมงานและร่วมกิจกรรมเล่นลูกช่วงด้วย 
2 ม็อบจบลงด้วยรัฐประหาร
      ที่ชั้น 5 ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ร้านกาแฟพีซคอฟฟี่แอนด์ไลบรารี่ มีการจัดงานปีใหม่ 2563 โดยมีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้าร่วมจำนวนมาก โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมือง ว่า ปี 2563 จะเป็นปีของความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ชนิดที่คนไทยไม่เคยเจอมาก่อนวิกฤติเมื่อปี 2540 เป็นการล้มบนฟูก ผู้ที่ได้รับกระทบมีแต่คนรวย แต่ปัจจุบันคนไทยต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรจะไปถามประชาชนว่า เบื่อหรือไม่ ที่คนไทยแสดงออกว่าเบื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ความเกลียดส่วนตัว แต่เกลียดที่ไม่มีน้ำยาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ 
     นายจตุพรกล่าวว่า ในวันที่ 21 ม.ค. ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัย ในคดีล้มล้างการปกครองของพรรคอนาคตใหม่ ตนคาดไม่ผิด ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งยุบพรรค อนค.อย่างแน่นอน ด้วยการพรรณนาเหตุจากลัทธิชังชาติ ขอแนะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ว่าหากพรรคถูกยุบพรรคจริง กก.บห.ที่เป็น ส.ส.อยู่ในขณะนี้จำนวน 11 คน จะถูกตัดสิทธิ์ไปด้วย ส่งผลให้จำนวน ส.ส.อนค.ลดลงไป 11 คน เพื่อให้ ส.ส.พรรค อนค.ไม่หาย กก.บห.ทั้ง 11 คนที่เป็น ส.ส.ควรลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เป็นแทนเตรียมการไว้ให้ดี นายธนาธร หากจะตัดสินใจลงถนนจริง ควรมีการเตรียมความพร้อม ในเรื่องการชุมนุม ถ้าไม่มีการบริหารจัดการ จะถูกแทรกแซง และจบด้วยการล้อมปราบ ไม่ว่านายธนาธรจะตัดสินใจอย่างไร ต้องมีความพร้อม
     ประธาน นปช.กล่าวว่า กิจกรรมวิ่งไล่ลุง 12 ม.ค. การใช้กลไกรัฐเข้าแทรกแซง จะเป็นการเพิ่มจำนวนคนมาร่วมกิจกรรมอย่างคาดไม่ถึง สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือมีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งกำลังเดินสายปลุกระดม สร้างความขัดแย้ง โดยตั้งเวทีต่อต้านลัทธิชังชาติ ซึ่งทางรัฐบาลก็ยังไม่มีการตักเตือน สิ่งที่จะเกิดขึ้น จบลงอย่างเดียวคือยึดอำนาจอีกรอบ 
    "ปี 2563 นี้ จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความเดือดร้อนของประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ควรยอมรับความจริงและลาออกไป ไม่อยู่เป็นภาระประชาชนอีก หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาชาติได้" นายจตุพร กล่าว   
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์เดินแจกถุงผ้ารณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ปลอดภัย เมาไม่ขับ แล้วเจอประชาชนทำหน้าเซ็ง เบื่อนายกฯ ที่หมอชิต ว่า ถือเป็นอีกกรณีที่ตอกย้ำฉายาอิเหนาเมาหมัดแห่งรัฐเชียงกง ทำตัวเอง เจ็บเอง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เปิดใจกว้างสำรวจตัวเองอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา 5-6 ปีที่ผ่านมาปฏิบัติตนอย่างไร ต่อประชาชน มีผลงานด้านเศรษฐกิจอะไร ที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนได้บ้าง จะได้รับคำตอบว่าทำไมประชาชนถึงเบื่อ
     "ชัดเจนขนาดนี้ ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะโกรธจนควันออกหู แล้วไม่ปรับปรุงตัวเอง ไม่พัฒนาการทำงานให้ดีขึ้น ทีมงานที่คิดอีเวนต์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องระมัดระวัง การนำ พล.อ.ประยุทธ์ไปสร้างภาพพบปะใกล้ชิดประชาชนในลักษณะนี้ เพราะเกิดปัญหากระทบกระทั่งกับประชาชนหลายครั้ง ประเทศไทยไม่ใช่ค่ายทหาร ประชาชนไม่ใช่พลทหาร ไม่ใช่ลูกน้องใคร จะมาทวงบุญคุณกับประชาชนไม่ได้ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี การเบื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสิทธิของประชาชน" นายอนุสรณ์กล่าว
"จารึก"จ่อซบ ปชป.
     นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านมีการทำการบ้านหนักมาก ในการหาข้อมูล ข้อเท็จจริงในการงานที่ไม่โปร่งใสของรัฐบาล ดังนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในครั้งนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของรัฐบาลและเปิดแผลการทุจริตของรัฐบาลที่ประกาศว่าจะเข้ามาปราบโกงนั้นไม่มีจริงเพื่อให้ประชาชนรับทราบข้อเท็จจริง ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านมีหมัดเด็ดน็อกรัฐมนตรีบางคนกลางสภา และจะอภิปรายแบบไม่เวิ่นเว้อ ไม่มีเรื่องเก่ามีแต่เรื่องใหม่ เพราะมีหลักฐานการทุจริต ซึ่งทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะชี้ให้เห็นถึงการทุจริตที่ชัดเจน เชื่อว่าประชาชนจะได้เห็นว่าจริงๆ แล้วเรื่องการเข้ามาเพื่อปราบทุจริตเป็นเพียงแค่วาทกรรมเท่านั้น
     มีรายงานว่า จากกรณีที่นายจารึก ศรีอ่อน และ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา 2 ส.ส.จันทบุรี ที่ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ ปรากฏว่านายจารึกได้โพสต์ภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วมรับประทานอาหารกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค ปชป. ที่ดูแลภาคกลาง รวมถึงนายเรวัต อารีรอบ เลขานุการรมช.สาธารณสุข และอดีต ส.ส.ภูเก็ต พรรค ปชป. พร้อมเขียนข้อความว่า “หารือเรื่องการเมือง คนหนึ่งเสมือนญาติ คนหนึ่งเสมือนเพื่อน ชีวิตสับสน ยอมรับว่าเครียดครับ” จึงทำให้เกิดกระแสข่าวว่านายจารึกอาจย้ายเข้าสังกัดพรรค ปชป. โดยอาจชักชวน พ.ต.ท.ฐนภัทรมาด้วย
    ทั้งนี้ รายงานข่าวจากพรรค ปชป.แจ้งว่า นายจารึกและ พ.ต.ท.ฐนภัทรมีการมาพูดคุยกับแกนนำพรรค ซึ่งมีแนวโน้มมากว่าจะเข้ามาอยู่กับพรรค ปชป. เพียงแต่ตอนนี้กำลังรอความชัดเจนจากเจ้าตัวและพรรคต้องพร้อมชี้แจงเหตุผล
    ด้านนายจารึกให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้พูดคุยกับ 3 พรรคการเมืองคือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติพัฒนา และพรรคพลังท้องถิ่นไท ซึ่งตนต้องรอหารือกับทีมงานก่อนว่าจะไปสังกัดพรรคการเมืองไหน สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนพูดคุยกับนายเฉลิมชัยและนายสาธิต ซึ่งเป็นคนที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่สาเหตุที่ยังไม่ตัดสินใจ เพราะการจะย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เป็นไปได้ยากที่สุด เนื่องจากตนเคยให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่ย้ายไปสังกัดพรรคใหญ่ จึงไม่อยากถูกครหาว่าย้ายไปด้วยเรื่องผลประโยชน์ ส่วนภาพการรับประทานอาหารร่วมกับนายเฉลิมชัยและนายสาธิต เป็นเรื่องปกติ เพราะสนิทสนมกัน
    ขณะที่นายสาธิตกล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เปิดกว้างสำหรับทุกคนอยู่แล้ว ส่วนกรณีของนายจารึกนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรที่ชัดเจน ต้องรอให้นายจารึกตัดสินใจที่ชัดเจน  
    เช้าวันเดียวกัน ที่ห้องรับรอง ชั้น 4 อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายสมศักดิ์ คุณเงิน ส.ส.ขอนแก่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังได้การรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ส่งผลให้พรรคพลังประชารัฐมี ส.ส.รวม 115 คน และ ณ ขณะนี้ ทำให้สภามี ส.ส.จำนวน 499 คน แยกเป็นส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 255 คน ส.ส.ฝ่ายค้าน 244 คน.
         
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"