ทรงเปิดราชทัณฑ์ปันสุข


เพิ่มเพื่อน    

  "ในหลวง-พระราชินี" ทรงเปิดการดำเนินงานโครงการ "ราชทัณฑ์ปันสุข" พระราชทานเครื่องมือแพทย์-รถเอกซเรย์ พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 217 ล้าน รักษาผู้ต้องขังป่วย ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เสด็จฯ ถวายราชสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

    เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม เวลา 15.52 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ ไปทรงเปิดการดำเนินงานตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ณ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงรอเฝ้าฯ รับเสด็จ
         นายอนุทิน ชาญวีกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายสุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะกรรมการจัดงานฯ และข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ
         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เข้าห้องโถงทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ประทับพระราชอาสน์ นายกิตติพัฒน์ เดชะพหุล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นายวีะกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รักษาการผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร
          จากนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    ต่อมา พันตำรวจโทประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นายวิชัย โชติปฏิวกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม เข้าเฝ้าฯ ถวายของที่ระลึกแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา กราบบังคมทูลรายงานการเปิดโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์, ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเบิกผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องมือแพทย์ รับพระราชทานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่รับพระราชทานสัญลักษณ์การ Kick Start พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทอดพระเนตรเครื่องมือแพทย์พระราชทาน กราบบังคมทูลเชิญเปิด "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" และทอดพระเนตรภายใน "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" กราบบังคมทูลเชิญทอดพระเนตรนิทรรศการต่างๆ ที่จัดแสดงภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตามลำดับ
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องมือแพทย์แก่นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม พระราชทานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่แก่นายสุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พระราชทานสัญลักษณ์การ Kick Start แก่พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
       พระราชทานวีดิทัศน์แก่ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจำ จากนั้นเสด็จฯ ออกจากที่ประทับไปยังบริเวณจัดนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข เสด็จฯ ออกจากบริเวณจัดนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุขไปยังจุดแสดงเครื่องมือแพทย์พระราชทาน
         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรเครื่องมือแพทย์พระราชทาน เสด็จฯ ไปยัง "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ดนตรีไทยบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ 
         จากนั้น ทอดพระเนตรภายใน "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" เสด็จออกจาก "ห้องสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ไปยังนิทรรศการระบบของสาธารณสุขที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขของผู้ต้องขังและการดำเนินการของเรือนจำ
       พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรนิทรรศการระบบของสาธารณสุขที่สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขของผู้ต้องขังและการดำเนินการของเรือนจำ ทอดพระเนตรนิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมวงศานุวงศ์ ทอดพระเนตรนิทรรศการจิตอาสา เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ทอดพระเนตรการแสดงผลงานเพื่อพัฒนาจิตใจของผู้ต้องขัง: งานวาดกับงานปั้น เสด็จฯ ออกจากบริเวณจัดนิทรรศการไปยังชั้น 6 เสด็จฯ ถึงชั้น 6 ไปยังห้องไตเทียม เสด็จฯ เข้าห้องไตเทียม
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระดำเนินเยี่ยมและพระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังป่วยที่เตียง รวมจำนวน 11 คน 
       สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีทรงพระดำเนินเยี่ยมและพระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ต้องขังป่วยที่เตียง รวมจำนวน 10 คน เสด็จฯ ลงจากชั้น 6 ไปยังชั้น 1
         เสด็จฯ ถึงชั้น 1 เสด็จฯ ไปยังห้องคัดกรองภาพรังสีทรวงอกโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ ทอดพระเนตรภายในห้องคัดกรองภาพรังสีทรวงอกโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ เสด็จฯ ออกจากห้องคัดกรองภาพรังสีทรวงอกโดยระบบปัญญาประดิษฐ์ เสด็จฯ ไปยังบริเวณจุดจอดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ทอดพระเนตรรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ตามพระราชอัธยาศัย
         เสด็จฯ ออกจากจุดจอดรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ไปยังห้องประทับรับรอง เสด็จฯ เข้าห้องประทับรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยม ประทับพักพระราชอิริยาบถตามพระราชอัธยาศัย สมควรแก่เวลาเสด็จออกจากห้องประทับรับรองไปยังรถยนต์พระที่นั่ง
         สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงส่งเสด็จ ณ รถยนต์พระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จออกจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
         สำหรับโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล โดยทรงเห็นว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขัง ซึ่งก็คือประชาชนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ทรงเห็นว่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ พยาบาล รวมไปถึงการได้รับความรู้ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขัง เป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่ควรได้รับเท่าเทียมกับบุคคลภายนอกตามหลักมนุษยธรรม ข้อจำกัดในด้านการได้รับความรู้ด้านสุขอนามัย ตลอดจนการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของผู้ต้องขัง จึงมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาปรับปรุง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เริ่มโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ขึ้น เพื่อเป็นการเติมเต็มสิทธิของผู้ต้องขังให้ได้รับการบริการทางสุขภาพเฉกเช่นประชาชนทั่วไป และนอกเหนือจากการส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดี เพื่อพร้อมต่อการพัฒนาเรียนรู้ของผู้ต้องขังในการเป็นการคืนคนดีสู่สังคม ยังเป็นการเสริมสร้างทัศนคติความเป็นจิตอาสาอีกด้วย 
       จึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขังเป็นจำนวนมาก ในกรณีเจ็บไข้ได้ป่วยยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ ซึ่งการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังถือเป็นหน้าที่สำคัญของกรมราชทัณฑ์ ในการที่จะให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม ทั้งนี้ เมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ เพื่อออกมาสู่สังคมภายนอกและประกอบอาชีพสุจริตอย่างมีคุณภาพ โดยพระราชทานความช่วยเหลือในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ตลอดจนให้จิตอาสาพระราชทานเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือทั้งด้านการแพทย์ พยาบาล การอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ และเพื่อให้การขับเคลื่อนโครงการประสบความสำเร็จ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงดำรงตำแหน่งองค์ประธานที่ปรึกษา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการโครงการฯ 
       ทั้งนี้ ในการดำเนินงานโครงการในระยะแรก ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ จำนวน 756 รายการ พระราชทานให้เรือนจำ ทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วยเรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง, เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง,  ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง และจะมีการขยายความช่วยเหลือไปยังเรือนจำต่อไป
       โดยการดำเนินการทำให้เกิดการบูรณาการทางการแพทย์ระหว่างกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กับกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลสังกัดต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามโครงการ โดยมีผลการดำเนินงานต่างๆ อาทิ
       1.พระราชทานเครื่องมือแพทย์จำนวน 756 รายการ เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญต่อการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เป็นปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ของผู้ต้องขัง เช่น เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เครื่องไตเทียม ยูนิตทันตกรรม และรถเอกซเรย์ โมบาย เป็นต้น และโดยเฉพาะรถเอกซเรย์โมบาย นอกจากจะให้บริการผู้ต้องขังแล้ว ยังสามารถให้บริการประชาชนทั่วไปในพื้นที่ทั่วประเทศด้วย
       2.การจัดระบบบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำเป้าหมาย 25 แห่ง เช่น สิทธิประโยชน์ผู้ต้องขังในการรักษาพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่สามารถดำเนินการได้แล้ว ร้อยละ 91 การขึ้นทะเบียนสถานพยาบาลเรือนจำเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติดำเนินการได้ครบ 142 แห่ง มีการรับปรึกษาโรคเฉพาะทางไกล คัดกรองโรค เช่น เอกซเรย์ปอดค้นหาวัณโรค ตรวจการติดเชื้อเอชไอวีด้วยสารน้ำทางช่องปาก การจัดทำหลักสูตรครูฝึกอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือครู ก. ให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในเรือนจำ มีการพัฒนาหลักสูตรการอบรมผู้ต้องขังที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการพยาบาลให้ผู้ต้องขังและการจัดทำสื่อการเรียนรู้ด้วยตัวเอง อาทิ ภาพพลิก ชุดคลิปวิดีโอ และละครสั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังศึกษาและนำไปสู่การป้องกันโรคต่างๆ 
      3.ด้านการบริหารจัดการโรคติดต่อ ได้จัดให้มีการสนับสนุนวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ อุปกรณ์การฉีดให้กับเรือนจำทุกแห่งที่พบการระบาด การคัดกรองการติดเชื้อเอชไอวี 100% คัดกรองวัณโรคผู้ต้องขังด้วยวิธีเอกซเรย์ปอด 100% และจัดให้มีห้องควบคุมที่โรงพยาบาลครบตามเรือนจำเป้าหมาย รวมทั้งการจัดสถานที่กักกันผู้ต้องขังแรกรับที่สามารถดำเนินการไปแล้ว 1 แห่ง โดยในแห่งที่เหลืออยู่ระหว่างการบริหารจัดการให้สามารถดำเนินการได้ต่อไป
       4.ด้านการเพิ่มพูนความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ต้องขัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้มีการจัดตั้ง "มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข" ในเรือนจำเป้าหมายขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่ให้ผู้ต้องขังได้เข้ามาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพกายและใจด้วยตนเอง อันจะทำให้ผู้ต้องขังมีความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตนเอง และเมื่อพ้นโทษไปแล้วจะมีสุขภาพที่ดี
      5.ด้านการปรับปรุงอนามัยสิ่งแวดล้อม การป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพ ได้พระราชทานให้จิตอาสาพระราชทานเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมภายนอกและในเรือนจำ ซึ่งได้มีการนัดจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิงเดย์ในเรือนจำทั่วประเทศ โดยการเข้ามามีส่วนร่วมของจิตอาสาพระราชทานให้ผู้ต้องขังที่มาร่วมเป็นจิตอาสาได้เรียนรู้เรื่องการทำความดีเพื่อส่วนรวมอันเป็นความภาคภูมิใจให้ตนเอง และส่งผลให้สังคมและชุมชนให้การยอมรับผู้ต้องขังมากขึ้น ลดช่องว่างระหว่างผู้ต้องขังกับชุมชน 
    เวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปถวายราชสักการะยังพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พุทธศักราช 2562
         พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพุ่มดอกไม้ของส่วนพระองค์ และของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ ถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
         สำหรับวันที่ 28 ธันวาคม เป็นวันคล้ายวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงปราบดาภิเษก ทางราชการได้จัดให้มีการถวายราชสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประจำทุกปี ณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ กรุงเทพมหานคร.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"