นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และคณะผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ให้กำลังใจการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ววันแรก พร้อมมอบของขวัญปีใหม่ให้กับพนักงานห้างสรรพสินค้า 4 แห่ง ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สุขุมวิท 50 (อ่อนนุช) ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ชิดลม และศูนย์การค้าสยามพารากอน กทม. ตลอดจนร่วมเดินรณรงค์ “Everyday Say No to Plastic Bags” ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง รวมทั้งรับฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในวันปีใหม่ กับวันแรกของการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว หรือถุงก๊อบแก๊บ (ความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน)

 

            

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้ วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นวันที่ประชาชนชาวไทย ได้มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่ประเทศไทย รวมถึงโลกของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหลานของเราทุกคนที่จะเติบโตอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อไป เพราะวันนี้เป็นดีเดย์ของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาเก็ต และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ กว่า 75 บริษัท ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายภาคเอกชนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต่างพร้อมใจกันงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้วแก่ลูกค้า แม้ว่าอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายแก่ลูกค้า หรือเกิดปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมาย แต่ทุกบริษัทยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐ พร้อมทั้งร่วมหาทางออกที่ดีให้กับลูกค้า และต้องขอให้กำลังใจพี่น้องพนักงานทุกคนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาเก็ต และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ขอให้มั่นใจในสิ่งที่กำลังทำ ว่าเป็นสิ่งที่ดี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม และสังคมไทยของเรา อย่าเพิ่งท้อแท้ จงภูมิใจในตัวเอง โดยโอกาสนี้ รมว.ทส. ยังได้มอบของขวัญปีใหม่ให้กับพนักงานห้างสรรพสินค้าทั้ง 4 แห่ง อีกด้วย

 

             

นอกจากนี้ ยังได้เดินรณรงค์ “Everyday Say No to Plastic Bags” ลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว และบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน รวมทั้งขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่ได้ให้ความร่วมมือปรับตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำถุงผ้า ตะกร้า ปิ่นโต หรือรถเข็น เพื่อไปซื้อของที่ตลาด ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ จนเกิดความเคยชินและติดเป็นนิสัย พร้อมบอกต่อคนใกล้ตัวให้ปฏิบัติตาม ถึงแม้บางคนจะยังไม่คุ้นเคยกับการพกถุงผ้า แต่มีความพยายามที่จะปฏิบัติตาม เพราะเข้าใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทย และโลกของเรากำลังประสบอยู่ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่ถึงคนรุ่นหลังต่อไป โดยขอให้วันนี้ เป็นวันเริ่มต้นการดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำสิ่งดีๆ ให้กับตนเองและโลกใบนี้ ซึ่งประชาชนชาวไทยจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายใต้สิ่งแวดล้อมที่ดี และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ขอเพียงร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง