ยิงค่ายปิเหล็ง วันครบรอบ 'ปล้นปืน'ปี47


เพิ่มเพื่อน    


    โจรใต้ป่วน ปล้นรถยนต์ใช้เป็นพาหนะยิงถล่มค่ายปิเหล็ง ในวันครบรอบวันปล้นปืนเมื่อปี 47 ก่อนทิ้งรถหนี เจ้าหน้าที่สอบพบลายนิ้วมือแฝงเพียบ แม่ทัพภาค 4 โล่งคนร้ายไม่เอารถไปทำคาร์บอมบ์
    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 ม.ค.63 พล.ต.สมดุลย์ เอี่ยมเอก ผบ.ฉก.นราธิวาส, พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส, พ.อ.เอกพล เลขนอก ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 48, เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ. กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ร่วมเดินทางไปที่บริเวณสวนยางพาราบ้านปิเหล็งเหนือ ม.6 ต.มะรือโบออก เพื่อตรวจสอบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บท 8899 ปัตตานี ที่คนร้ายได้นำมาจอดทิ้งไว้
     ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพรานกรมทหารพรานที่ 48 ได้ตรวจสอบพบในเวลา 01.00 น.ของวันอาทิตย์ หลังจากที่คนร้ายจำนวน 5-6 คนได้นำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเป็นพาหนะในการใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่กองรักษาการณ์ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง ในเวลา 21.45 น.ของคืนวันที่ 4 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา
     จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบลายนิ้วมือแฝงเป็นจำนวนมากที่ติดอยู่บริเวณพวงมาลัย ประตูทั้ง 2 ข้าง และบริเวณภายในห้องโดยสาร รวมทั้งบริเวณขอบกระบะบรรทุกหลัง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส จึงได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ ก่อนที่จะนำรถยนต์ของกลางไปเก็บไว้ที่ สภ.เจาะไอร้อง
     ต่อมา พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นป้อมกองรักษาการณ์ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งอยู่ ม.7 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง โดยกองรักษาการณ์มีสภาพกระจกและฝาผนังด้านหน้ามีร่องรอยถูกกระสุนปืนเป็นรูพรุน 
    ส่วนด้านหลังของอาคารกองรักษาการณ์ เจ้าหน้าที่พบลูกกระสุนปืนเอ็ม 79 ของคนร้ายที่ยิงใส่กองรักษาการณ์ แล้วพลาดเป้ามาตกอยู่ด้านหลัง จำนวน 1 ลูก นอกจากนี้ที่บริเวณถนนหน้าค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เจ้าหน้าที่พบคนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบไว้บนถนนเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
     จากการสอบสวนทราบว่า ในช่วงเวลา 20.30 น.ของคืนวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายจำนวน 5 ถึง 6 คน แต่งกายชุดดำ ใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ แบบตอนเดียว ทะเบียน บท 8899 ปัตตานี ของห้างหุ้นส่วนจำกัด เซาท์สยาม มีเดียแอนด์ปริ้นติ้ง บนถนนในหมู่บ้านปะลุกา ม.3 ต.โฆษิต อ.ตากใบ ซึ่งมีนายแวมาเซ็ง หะยีแวน เป็นคนขับ และนายฮาเซ็ม เจ๊ะมะ นั่งคู่กันมา โดยคนร้ายได้จับนายแวมาเซ็งและนายฮาเซ็ม มีดมือไขว้หลังและใช้กระดาษกาวย่นปิดปาก ก่อนนำทั้ง 2 คนไปทิ้งไว้ในสวนปาล์มของชาวบ้าน
    จากนั้นคนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากพื้นที่ อ.ตากใบ ใช้เส้นทางสายในทะลุ อ.เจาะไอร้อง โดยมีคนร้ายจำนวนหนึ่งนั่งกระบะหลัง เมื่อผ่านถนนหน้าค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะได้ชะลอความเร็วรถ ให้คนร้ายที่นั่งกระบะหลังใช้อาวุธปืนสงครามนานาชนิดยิงใส่อาคารกองรักษาการณ์จำนวน 2 ชุดใหญ่ 
    ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นอาวุธปืนเอ็ม 79 ที่ลูกกระสุนด้านแล้ว พลาดเป้าไปตกอยู่ที่บริเวณด้านหลังของป้อมกองรักษาการณ์ จากนั้นคนร้ายได้รีบขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป พร้อมทั้งได้โปรยตะปูเรือใบเพื่อป้องกันการติดตามไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ 
    ทั้งนี้ คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปจอดทิ้งไว้ที่สวนยางพาราของชาวบ้าน ซึ่งตั้งอยู่บ้านปิเหล็งเหนือ ม.6 ต.มะรือโบออก ซึ่งห่างจากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ประมาณ 4 กิโลเมตร
    พล.ต.ต.นรินทร์เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อเป็นเชิงสัญลักษณ์วันครบรอบ 16 ปี เหตุปล้นปืนค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือค่ายปิเหล็ง
     ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บท 8899 ปัตตานี ได้ถูกคนร้ายดักปล้นไปที่บริเวณ บ.ปะลุกา ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และได้จับเจ้าของรถมัดมือและเท้าไว้ในรถยนต์ ก่อนที่จะนำไปก่อเหตุยิงค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส
    แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งด่านตรวจสกัดจับในทุกเส้นทาง เพื่อเป็นการสกัดการเคลื่อนไหวของคนร้ายที่ก่อเหตุ จนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามรถยนต์ พบว่าหลังคนร้ายก่อเหตุแล้วได้นำไปจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์ม พื้นที่ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบแล้ว
    “ทั้งนี้ ต้องให้กำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ที่ประสานการปฏิบัติช่วยกันติดตามรถยนต์คันดังกล่าว อีกทั้งการตั้งด่านตรวจตามแผนปฏิบัติการ ก็เป็นการจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ จนนำรถยนต์ไปจอดทิ้งไว้ ไม่อย่างนั้นคนร้ายอาจจะนำรถยนต์คันดังกล่าวไปประกอบระเบิด เป็นคาร์บอมบ์ จนสร้างความสูญเสียได้” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ค่ายปิเหล็ง" ในตำบลปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง ครั้งนั้นทหารเสียชีวิต 4 นาย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่าคนร้ายได้อาวุธปืนไป 413 กระบอก ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยึดคืนมาได้ 94 กระบอก.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"