อำนาจในมือ 'นายกฯ ประยุทธ์'


เพิ่มเพื่อน    

    สงสัย....
    จะดูบุพเพสันนิวาสมากไปหน่อย
    พรรคการเมืองถึงได้เล่นบท พ่อแง่แม่งอน 
    นายกฯ ลุงตู่ เชิญผ่านสื่อจากออสเตรเลีย ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา....
     ช่วงเดือนมิถุนายนจะเรียกทุกพรรคการเมืองมาพูดคุย 
    จะสอบถามทุกพรรคว่า มีแนวทางในการพัฒนาประเทศอย่างไร 
    เพราะเห็นว่าการเมืองไทยต่อไป ฝ่ายค้านและรัฐบาลต้องเดินไปด้วยกัน เชื่อมต่อกัน 
    จะได้สลายขั้วเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเท่าเทียมทั่วถึง... 
    ผลก็อย่างที่ทราบ....ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก 
    มีแต่เสียงด่ากลับ
    พรรคการเมืองไม่ใช่ทหาร 
    ไม่ใช่หน้าที่ 
    ไม่ต้องมาสั่ง 
    กลัวว่า คสช.จะล้วงตับ 
    กลัวว่าจะเอานโยบายพรรคการเมืองที่ไปคุยด้วย ไปให้พรรคนอมินีต่ออีกทอด เพื่อต่อยอดแล้วสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก 
    สรุปคือไม่ไป        
    อืมมมม......
    วานนี้ กลับมาถึงเมืองไทยนายกฯ ลุงตู่ พูดอีกรอบ 
    "ใครจะมาหรือไม่มาก็แล้วแต่เขา ถ้าไม่มาประชาชนจะว่าอย่างไร ผมต้องการให้ประชาชนรับทราบ รับรู้ด้วยว่ามีการพูดคุยอะไรกันบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต 
    ไม่ได้หมายความว่าผมจะไปรู้นโยบายอะไรของเขา เพียงแต่เขาต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ในสิ่งที่ประชาชนต้องการ เพราะทุกพรรคอาสาที่จะเข้ามาทำงานการเมืองให้กับประเทศ
    อันนี้สุดแล้วแต่ ถ้ามาไม่ครบหรือไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย มันก็กำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้นั่นแหละ"
    แล้วมันก็เกิดประเด็นใหม่ ตรงที่.....
    "ถ้ามาไม่ครบ ก็กำหนดวันเลือกตั้งไม่ได้" นี่แหละ  
    เซียนเหยียบเมฆจริงๆ 
    ชั้นเชิงการเมืองของนายกฯ ประยุทธ์ นับวันยิ่งทำให้นักการเมืองอาชีพกระอักเลือดหนักเข้าไปทุกที
    ก็น่าสนใจหากมีเงื่อนไขใหม่ว่า คสช.จะกำหนดวันเลือกตั้งร่วมกับพรรคการเมือง 
    แล้วหากพรรคการเมืองไม่ตอบรับจะเกิดอะไรขึ้น? 
    ขณะที่ก่อนนี้ คสช.เองก็ไม่เคยบอกว่า จะให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องนี้มาก่อน 
    หากการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ.....
    เป็นความผิดของใคร? 
    ก็ต้องย้อนกลับไปที่การนัดคุยเดือนมิถุนายน ที่ คสช.จะสอบถามถึงแนวทางในการพัฒนาประเทศ ว่าแต่ละพรรคมีแนวทางอย่างไร 
    พรรคการเมืองก็ไปตีความว่า เป็นการล้วงตับ จะลอกการบ้าน เอานโยบายพรรคไปให้พรรคเครือข่าย คสช. 
    ครับ...มันก็ตั้งป้อม ไม่ไว้ใจกัน
    หนังสือเชิญตัวจริง ยังไม่ออก 
    ก็ถามม้าตอบช้างกันอยู่อย่างนี้! 
    ลุงตู่เองก็ปากไว 
    เอาวันเลือกตั้งมาเป็นตัวประกัน 
    เลือดก็ขึ้นหน้าซิครับ!
    แล้วมันจะคุยกันรู้เรื่องมั้ย
    วันนี้คนไทยเบื่อความขัดแย้งเต็มทน ฉะนั้นอะไรที่สามารถบริหารจัดการได้ด้วยการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ก็ควรทำ 
    อะไรควรผ่อนคลายก็ควรผ่อน 
    เพื่อให้บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยความสบายใจของทั้ง ๒ ฝ่าย 
    คำว่าการเมือง มันเหมือน "อินฟินิตี" คือไม่รู้จบ
    นายกฯ ลุงตู่ไม่ควรคิดว่าการบริหารงานการเมืองเป็นเรื่องหมูๆ ยื่นเงื่อนไขแล้วต้องจบ
    ถ้าทำอย่างนั้นได้จริง บ้านเมืองสงบไปนานแล้ว 
    โดยหลักการ เมื่อเชิญพรรคการเมืองเขาไปคุยแล้ว แต่ในทางกลับกัน คำสั่ง คสช.ยังอยู่ การเมืองยังไม่ปลดล็อก มันก็ลำบากนะท่าน
    พรรคการเมืองเขาก็มองว่าเมื่อไม่ปลดล็อกแล้ว จะไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างไร
    หรือร่วมได้เฉพาะกิจกรรมทางการเมืองที่ คสช.เป็นผู้จัด 
    มันคลุมเครือ...ไม่ชัดเจน
    ถ้าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า จะนัดคุยพร้อมปลดล็อกการเมืองในเดือนมิถุนายน หรือก่อนนั้น  บรรยากาศมันก็จะเป็นอีกแบบ 
    ฉะนั้นการพูดคุยที่ดีควรจะสร้างบรรยากาศที่ดีก่อน 
    ยังจำการเปิดเจรจาผ่าทางตันวิกฤติการเมืองเดือนมีนาคม ๒๕๕๓ ได้หรือเปล่า
    ระหว่างฝ่ายรัฐบาลมี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, ชำนิ ศักดิเศรษฐ์, กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ
    กับฝ่าย นปช.มี วีระ(กานต์) มุสิกพงศ์, จตุพร พรหมพันธุ์, เหวง โตจิราการ
    ฝ่าย นปช.ตั้งเงื่อนไข ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน  
    บรรยากาศการเจรจาตึงเครียดสลับผ่อนคลาย เพราะดูเหมือนพอจะมีทางออกให้เห็น
    รัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ปฏิเสธข้อเสนอยุบสภา 
    แต่ขอว่าต้องในอีก ๙ เดือน 
    เรื่องจึงงวดมาอยู่ที่จะยุบสภาเมื่อไหร่ 
    ทาง นปช.บอกว่าต้อง ใน ๒ สัปดาห์ 
    มันก็เหมือนต่อราคาของกัน 
    แต่...สุดท้ายการเจรจาถูกแทรกแซงจากคนแดนไกล 
    แกนนำ นปช.ล้มโต๊ะ!
    แล้วเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองก็ตามมา
    นั่นเป็นบทเรียนว่า มนุษย์คุยกันรู้เรื่อง ถ้าอยากจะคุย
    และมนุษย์ พร้อมที่จะฆ่ากัน ถ้ามาถึงจุดสุดท้าย ก็ต้องฆ่า
    ไม่ว่ารัฐบาล คสช. หรือพรรคการเมือง พวกท่านล้วนเป็นชนชั้นปกครอง ก็ควรคิดแบบผู้ปกครองที่เอาประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง
     เมื่อพวกท่านทุกคนล้วนบอกว่า ต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย อยากให้ประชาชนอยู่อย่างปกติสุข  
    ท่านก็ควรแสดงให้ประชาชนเห็นว่า พวกท่านสามารถนำพาประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อยได้ ไม่ใช่เล่นเกมชิงไหวชิงพริบ ติดนิสัยนักการเมืองตะพึดตะพือ
    ประชาชนเขาเบื่อ! 
    พรรคการเมืองเองก็รู้ว่า คสช. ไม่มีทางอยู่ได้นาน ๕ ปี ๑๐ ปี อย่างที่มโนกัน 
    สุดท้ายมันต้องกลับไปเลือกตั้ง
    ต้นปีหน้าหากยังจะลากออกไปอีก บอกได้คำเดียว.... 
    กระอักเลือด! 
    ฉะนั้น เมื่อมีเวลาพอที่จะนั่งปรึกษาหารืออะไรกันได้ 
    ก็ควรจะทำ 
    ทั้งสองฝ่ายควรสร้างบรรยากาศการพูดคุย เพื่อให้บรรลุผลที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ ประชาชน มากที่สุด เพราะหากเลยโอกาสแบบปี ๒๕๕๓ ไปแล้ว...... 
    มันจะย้อนกลับมาไม่ได้ 
    อะไรที่ค้างคาอยู่ก็ควรจัดการให้มันจบ 
    ร่างประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ก็เช่นกัน ตีความแทนศาลรัฐธรรมนูญกันทั้งนั้น 
    ยอมหน้าบางกันหน่อย ถ้าเห็นว่ามันอาจจะเกิดปัญหาในอนาคตขึ้นได้ ก็ควรจะหาทางแก้ไขกันเสียก่อน 
    ถ้าไม่ทำอะไรเลย จากที่ว่าแค่ "อาจจะ" ก็กลายเป็นเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ 
    ถึงเวลานั้นใครจะรับผิดชอบ 
    เวลานี้เกี่ยงงอนกันอยู่ หาเจ้าภาพไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย         
    เมื่อ สนช.ไม่เอา รัฐบาลก็ไม่รับ แล้วจะให้ใครทำ
    ประชาชนฝากความคาดหวังไว้เยอะที่ พล.อ.ประยุทธ์ หวังว่าท่านจะผ่าทางตันทุกเรื่องได้ เพราะท่านมีเครื่องมือมากมาย 
    ก็ไม่ควรเกี่ยงงอน หากเห็นว่ามันส่อจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต 
    เหมือนที่ท่านใช้อำนาจตาม ม.๔๔ ยุติการทำงานของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง  
    เพราะการอยู่ในตำแหน่ง กกต. ของนายสมชัย อย่างน้อยก็มีข้อเสีย 
    ที่เห็นชัดเจนคือ เมื่อไปสมัครเป็นเลขาธิการ กกต.แล้ว แต่ยังนั่งเป็น กกต.อยู่ มันก็เข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์
    เรื่องปากมาก พูดทุกเรื่องที่รู้ วิจารณ์ทุกอย่างที่เห็น จนทำให้ กกต.ถูกมองเป็นตัวตลก นั่นก็เรื่องหนึ่ง
    ส่วนใครจะมองว่าเป็นการใช้อำนาจเผด็จการ....ก็ว่ากันอีกมุม 
    ประเด็นคือ นายกฯ ลุงตู่ สามารถแก้ปัญหาก่อนที่จะเกิดปัญหาได้ 
    ท่านก็ควรทำ 
    แต่หากท่านไม่ทำแล้วมีปัญหาตามมาทีหลัง จะโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นไม่ได้ 
    ท่านพูดเสมอไม่ใช่หรือว่า "ให้เชื่อมั่นในตัวผม" 
    ก็ต้องแสดงให้เห็น.
                                        ผักกาดหอม


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"