‘ชัชชาติ’เมินผนึกดรีมทีม‘กรณ์’


เพิ่มเพื่อน    

  “กรณ์” เปิดใจผ่านเฟซบุ๊ก หวังสร้างการเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลง ลั่นจะเดินหน้าตามเสียงประชาชน สะพัด! อรรถวิชช์เตรียมไขก๊อกตามไปตั้งพรรคใหม่ ส่วนจุรินทร์บอกเฉยไม่รู้เรื่อง พร้อมแจงการเข้า-ออกเป็นเรื่องปกติของพรรคที่อยู่มาถึง 73 ปี “สาธิต-เทพไท” ชี้เหตุถูกลดบทบาท เตือนไม่แก้ระส่ำแน่

    เมื่อวันพุธที่ 15 ม.ค. ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ประกาศลาออกจากพรรค ปชป. ในช่วงค่ำวันอังคารระหว่างงานเลี้ยงปีใหม่ของ ส.ส.พรรค โดยเมื่อเวลา 10.00 น. นายกรณ์ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอบคุณพรรค ปชป.ที่ให้โอกาสตลอดมา โดยโอกาสสำคัญที่สุดคือการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง และด้วยเหตุนี้ ความผูกพันที่มีกับพรรคและเพื่อนร่วมพรรคจึงจะอยู่ตลอดไป 
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้ร่วมพิจารณาอนุมัติงบประมาณแผ่นดินจนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลสามารถเดินหน้าได้เต็มที่ในการขับเคลื่อนนโยบายของพรรคที่ผมได้ช่วยร่างไว้ในฐานะอดีตประธานนโยบาย ผมจึงคิดว่าผมได้ทำภารกิจที่พรรคได้มอบหมายไว้จนครบถ้วนหมดแล้ว ผมจึงได้ยื่นใบลาออกตามที่ตั้งใจไว้” นายกรณ์ระบุ
     นายกรณ์โพสต์อีกว่า แม้จากไปจากพรรค แต่ยังคิดถึงเพื่อนๆ ทุกคน แต่ที่สำคัญที่สุด ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้ให้โอกาสทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่มีวันลืมทุกคะแนนที่ให้ตั้งแต่ปี 2548 ในฐานะผู้สมัครประชาธิปัตย์ รวมถึงกำลังใจของทุกๆ คนที่กรุณามอบให้ผมเสมอมา ซึ่งมีความฝันที่อยากสร้างการเมืองแห่งความเปลี่ยนแปลง การเมืองที่กล้าคิด กล้าทำ มีความรอบคอบ แต่ไร้ความกลัว มีความเด็ดเดี่ยว แต่มีคุณธรรม เป็นการเมืองที่จะชวนผู้คนในสังคมไทยที่มีศักยภาพมาร่วมกันออกแบบและขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน 
    “การจะตัดสินใจสิ่งใดๆ ก็ตามที่เป็นก้าวที่สำคัญของชีวิตต้องฟังเสียงข้างในของตัวเอง แต่สำหรับนักการเมืองไม่ว่าก้าวเล็กหรือก้าวใหญ่ ต้องมาจากการรับฟังเสียงของประชาชนอีกด้วย ดังนั้นทุกๆ ก้าวต่อไป ผมตั้งใจจะเดินไปพร้อมกับพี่น้องประชาชนทุกคน”นายกรณ์โพสต์ทิ้งท้าย
    มีรายงานข่าวแจ้งว่า กระแสข่าวนายกรณ์ลาออกเพื่อไปลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานครกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น ไม่มีทางแน่นอน แต่นายกรณ์ตั้งใจทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นงานที่ถนัดและเชี่ยวชาญ โดยจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาเพื่อทำเกี่ยวกับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ และสตาร์ทอัพ โดยจะมีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.กทม. พรรค ปชป. ร่วมด้วย โดยทั้งสองคนได้หารือกันมาสักระยะแล้ว และเมื่อวันที่ 15 ม.ค. นายอรรถวิชช์ได้เข้าไปลานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว และในวันที่ 16 ม.ค. นายอรรถวิชช์จะแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊กอรรถวิชช์ 
    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวในเรื่องนี้ว่า นายกรณ์ไม่เคยพูดกับตนเองในเรื่องนี้ และยังไม่ทราบเหตุผลของนายกรณ์ ขอให้เขาออกมาให้เหตุผลว่าเกิดจากอะไร ถ้าให้พูดอะไรไปก่อน เกรงว่าจะไม่ตรง 
    เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์กับนายกรณ์เป็นอย่างไร เพราะมีข่าวว่าถูกลดบทบาทจากที่เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค  นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่มีปัญหากับนายกรณ์ ส่วนบทบาทหน้าที่นั้น นายกรณ์ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ขณะที่การทำงานในทีมเศรษฐกิจของพรรคไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่ช่วงหลังเรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาจำนวนมากช่วยเสริมทีมดังกล่าว อาทิ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ได้มาทำหน้าที่รองหัวหน้าพรรค และดูแลทีมเศรษฐกิจทันสมัย เพราะโลก ภาวะทางเศรษฐกิจ และกลไกรูปแบบต่างๆ เปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมทีมในพรรคมากขึ้น 
    ถามต่อว่าดูเหมือนจะมีสมาชิกพรรคลาออกอีก นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่พรรคอยู่มา 73 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านสถานการณ์ที่มีทั้งคนเข้าและออกในทุกยุคทุกสมัย ซึ่งการพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความอยากให้มีคนลาออก แต่มองว่าการเดินออกไปกับการเดินเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเกิดขึ้นทุกสมัย โดยในปี 2562 มีคนลาออกจากสมาชิกพรรค 700-800 คน และมีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรค 14,000 คน อีกทั้งในเร็วๆ นี้จะมีการเปิดตัวผู้ที่จะเข้ามาช่วยงานและผู้ให้การสนับสนุนพรรค 
    เมื่อถามว่าหลังจากนี้ต้องหารือกับแกนนำพรรคคนอื่นๆ หรือไม่ เพราะดูเหมือนแกนนำหลายคนได้ลดบทบาทตัวเองลง นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกคนในพรรคยังมีบทบาท ทั้งนายชวน และยังเป็นกำลังสำคัญให้พรรค เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน แม้เป็นอดีตหัวหน้าพรรค ยังมีความสัมพันธ์กับพรรคอยู่ ขณะที่การทำงานของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็มีความก้าวหน้าและมีทิศทางในการนำพาพรรคไปข้างหน้าอย่างมียุทธศาสตร์ ซึ่งต้องจับมือกัน 3 ฝ่าย เดิน 3 ขาไปพร้อมกัน คือ คณะรัฐมนตรี สภา และคณะกรรมการบริหารพรรค
    นายชวนกล่าวเช่นกันว่า ต้องรอให้นายกรณ์แถลงความชัดเจนก่อน ส่วนที่สมาชิกพรรคหลายคนลาออกนั้น ถ้าคนที่ลาออกไปเป็นคนเก่ง มีความสามารถ พรรคก็มีความสูญเสีย
    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. โพสต์รูปภาพและข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่าขอบคุณเพื่อนที่สนับสนุนการทำงานของตนเอง และพรรค ปชป.มาเป็นอย่างดี ไม่ว่าพรรคอยู่ในสถานะใด ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งในยามที่รุ่งเรืองและมีปัญหา เมื่อเพื่อนตัดสินใจที่จะเดินไปบนเส้นทางใหม่ ก็ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่หวังและตั้งใจที่จะทำให้กับส่วนรวม ความเป็นเพื่อนยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
    นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า เคยคุยกับนายกรณ์หลายครั้งก่อนหน้านี้ รู้ว่าในใจของนายกรณ์ถูกลดบทบาทและไม่ได้รับโอกาสจากพรรค แต่นายกรณ์เป็นสุภาพบุรุษมากพอ ไม่ยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ซึ่งการลาออกของนายกรณ์ไม่น่าเชื่อว่าปฏิกิริยาต่อการลาออกของคนนอกพรรคกลับแรงกว่าคนในพรรค ในแง่ที่ว่าตัดสินใจถูกแล้ว ในขณะที่พรรคท่องว่าการเข้า-ออกของคนเป็นเรื่องปกติ
         “คนระดับอดีตแกนนำพรรค เคยลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรค เคยทำงานให้พรรคด้านสร้างคนรุ่นใหม่ เคยเป็นถึงอดีต รมว.การคลังของพรรคลาออกมันปรกติตรงไหน ก่อนหน้านี้กรณีคุณพีระพันธุ์ หรือคุณหมอวรงค์ที่ทั้ง 2 คนทำงานให้พรรคอย่างมากมาตลอด ลาออก ผมว่ามันก็ไม่ปรกตินะครับ ความจริงมีคนที่ลาออกจากพรรคเงียบๆ แต่ไม่เป็นข่าวอีกหลายคน ผมว่ามันสะท้อนปัญหาการบริหารภายในพรรคแน่นอน หากคนมีอำนาจยังคิดกันแค่ว่ามันเป็นเรื่องปกติ ต้องรับรู้ด้วยสมาชิกและคนสนับสนุนพรรคหลายคน รู้สึกท้อถอยและสั่นคลอนว่าเราจะเดินต่อกันไปอย่างไร”
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของนายกรณ์ดี เพราะตอนนายกรณ์เป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคแข่งกับนายจุรินทร์ ซึ่งพ่ายแพ้ แต่โดยปกติที่ผ่านมาประเพณีปฏิบัติของการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ปชป. ถ้าผู้สมัครคนใดได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค คนแพ้ก็จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นรองหัวหน้าพรรค แต่ครั้งล่าสุดผู้พ่ายแพ้ไม่มีใครได้เป็นรองหัวหน้าพรรคแม้แต่คนเดียว
       “ผมเข้าใจหัวอกของเพื่อน คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังดีเด่นระดับโลก เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เคยเป็นรองหัวหน้าพรรค เคยเป็นประธานนโยบายของพรรค เมื่อไม่มีบทบาทใดๆ ในพรรคก็ยากจะทำใจ” นายเทพไทโพสต์
    สำหรับผู้ที่จะขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทนนายกรณ์นั้น ตามลำดับจะเป็นนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 25 แต่ก่อนหน้านี้นายดวงฤทธิ์ได้ลาออกไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ทำให้นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 26 จะขยับขึ้นมาแทน ซึ่งนายจักรพันธ์ หรือ ส.จ.เซ้ม อดีตสมาชิกสภา อบจ.ปราณบุรี เจ้าของโควเซ้มฟาร์ม ฟาร์มไก่ชนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และเป็นบุตรชายนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ประจวบคีรีขันธ์
มีรายงานจาก ปชป.แจ้งว่า นายฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์ อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความเข้าไลน์กลุ่ม ส.ส.ประชาธิปัตย์ แจ้งการลาออกจากพรรคตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.แล้ว ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ได้จดตั้งพรรครัฏฐาธิปัตย์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นสาขาของใคร และไม่ได้มีการชวนใครในพรรค ปชป.มาอยู่ด้วย แม้แต่นายกรณ์
       ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสทาบทาบนายกรณ์มาลงผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรค พปชร. ว่ายังไม่ได้พูดคุยและทาบทามนายกรณ์ตามข่าวแต่อย่างใด ส่วนนายกรณ์จะไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่นั้น ไม่ทราบ ต้องไปถามเจ้าตัวเอง    
นายสุทธิชัย หยุ่น นักหนังสือพิมพ์ชื่อดัง อดีตผู้บริหารเครือเนชั่น ได้ทวีตข้อความระบุว่า มีคนกระซิบว่าชัชชาติอาจไปรวมพลกับกรณ์ คุณเชื่อไหม
    ต่อมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ขอเป็นกำลังใจให้คุณกรณ์ในการเดินก้าวต่อไปทางการเมืองนะครับ คุณกรณ์เป็นคนเก่ง มีความสามารถ และยังมีอนาคตอีกไกลครับ แต่ที่มีข่าวว่าผมจะไปรวมพลกับคุณกรณ์นั้นไม่จริงนะครับ".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"