สวัสดี!!!วันตรุษจีน


เพิ่มเพื่อน    

 

      ปีนี้มาเร็วเป็นพิเศษเลย สำหรับเทศกาลตรุษจีน!! เพราะพรุ่งนี้ 24 ม.ค.เป็นวันไหว้ แล้ววันที่ 25 ม.ค. ก็เป็นการเปลี่ยนศักราชปีใหม่ตามความเชื่อของจีนที่เรียกว่า ชิวอิก

      หลายคนอาจจะรู้สึกว่ายังไม่ทันหายเหนื่อยจากเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตามด้วยเทศกาลวันเด็กวันครูเลย ก็ต้องฉลองกินไก่กินเป็ดกันอีกละ

      ก็ต้องบอกว่า ยังมีโอกาสฉลองก็ฉลองไปเถิดจะเกิดผล เพราะยังมีมากมายหลายคนนะคะที่หมดโอกาสไปแล้ว ด้วยอายุอานามที่เพิ่มมากขึ้น จะลุกจะนั่งก็ร้องโอดโอย หรือไม่บางคนก็ฟันฟางไม่เหลือแล้ว จะขบจะเคี้ยวอยากกินน่องไก่สักชิ้นก็อาจจะทำไม่ได้

      ฉะนั้น เมื่อยังมีแรง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีทุนทรัพย์ในการจับจ่ายซื้อข้าวปลาอาหารมาไหว้บรรพบุรุษ และบูชาเทพเจ้าแบบจัดเต็มโต๊ะ ก็จงระลึกไว้เสมอว่า เรานี้โชคดี เฮง เฮง เฮง ที่สุดแล้ว

        จดจำได้ว่า ตอนมนุษย์ป้ายังเป็นเด็ก ตื่นเต้นอย่างมากเลยกับวันตรุษจีน เพราะจะได้ซองอั่งเปาจากพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ แต่ที่ไม่ชอบเลยคือ อาหารมากมายบนโต๊ะนี่แหละ เพราะมันจะเอร็ดอร่อยแค่วันแรก พอวันอื่นๆ เมื่อเราต้องกินซ้ำๆ ซากๆ เมนูเดิม จะให้รู้สึกอร่อยเหมือนวันที่ไหว้เจ้าเสร็จคงเป็นไปไม่ได้ 

      ที่เบื่อสุดๆ ก็คือ ทุกอย่างที่เหลือจะถูกนำไปใส่หม้อทำเป็นพะโล้ แล้วเราก็ต้องกินกันไปอีก 1 อาทิตย์เต็มๆ เลย ทำให้ทุกวันนี้เห็นเป็ดพะโล้ หรือต้มหน่อไม้จีนล่ะก็ อยากจะเดินหนีไปไกลๆ เลยทีเดียว

      อย่างไรก็ตาม เมื่อโตขึ้นพอจะรู้เรื่องรู้ราว เราถึงได้รับรู้ว่า เทศกาลตรุษจีนเป็นอะไรที่สำคัญที่สุดของคนเชื้อสายจีน ดังนั้น ทุกอย่างต้องจัดเต็ม จัดหนัก แม้จะรู้ว่ากินไม่หมดในวันเดียวก็ต้องประโคมให้เต็มที่ เพราะทุกเมนูล้วนมีความหมายที่เป็นมงคลทั้งสิ้น

      อย่างเมนูของหวานที่จำไม่รู้ลืมอย่าง "เม็ดบัว" ต้มน้ำตาล มีความหมายว่า การมีลูกหลานที่เป็นผู้ชาย หรือจะเป็น "หน่อไม้" ก็หมายถึง คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข "ปลาทั้งตัว" หมายถึง ตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกันและความอุดมสมบูรณ์ "ไก่" หมายถึง ความเจริญก้าวหน้า โดยไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หาง และเท้าอยู่ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ และเส้นมี่สั้ว หมายถึง ชีวิตที่ยืนยาว ไม่นิยมตัดเมื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร

      ส่วนเรื่องของกระดาษเงินกระดาษทอง ก็ถือเป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมาเช่นกัน แต่จะเชื่อมากเชื่อน้อยก็น่าจะเป็นวัฒนธรรมและวิธีคิดของแต่ละครอบครัว ที่ไม่ได้เฉพาะเจาะจงหรือเคร่งครัดแบบเอาเป็นเอาตาย เพราะสังเกตได้ว่า ตั้งแต่บ้านเรามีปัญหาเรื่องฝุ่นและควัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและทางเดินหายใจ ก็มีการให้ความร่วมมือกันโดยอัตโนมัติ นั่นคือ เผากระดาษกันน้อยลง หรือแทบจะไม่เผาเลย

      ความเชื่ออย่างไรเสียก็คงส่งไม้ต่อกันเรื่อยๆ แต่วิธีการเพื่อจัดการกับความเชื่ออันเป็นประเพณีวัฒนธรรมนั้น ดูเหมือนจะสามารถประยุกต์ได้ตามยุคสมัยนะคะ เพราะบางบ้านไม่ไหว้ไก่ทั้งตัว แต่ซื้อไก่เคเอฟซีมาไหว้ก็มี บางคนก็ซื้อหมูแผ่นมาแทนหมูสามชั้นทั้งชิ้น

      เรียกว่า ตรุษจีนจะดีจะงามก็อยู่ที่ใจของเราล้วนๆ จริงไหมคะ.

                                                                                "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"