จับผอ.รร. ฆ่าชิงทอง สารภาพเบื่อหาความท้าทาย/บิ๊กแป๊ะยันไม่ใช่แพะนัดแจงคดี


เพิ่มเพื่อน    

 

ผงะ! "กองปราบฯ" บุกรวบไอ้เหี้ยมชิงทอง จ.ลพบุรี ฆ่า 3 ศพ พบเป็น "ผอ.รร.วัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี" วัย 38 ปี ขับรถบีเอ็มฯ ซีรีส์ 5 รับสารภาพก่อเหตุจริง บอกรู้สึกเบื่อกับชีวิต ต้องการหาความท้าทาย ชีวิตจะได้มีสีสัน "บิ๊กแป๊ะ" ยันไม่ได้จับแพะ ระบุมีพยานหลักฐานชัดเจน พร้อมส่งชุดประดาน้ำงมหาทองของกลางในแม่น้ำเจ้าพระยา นัดแถลงรายละเอียดคดี 23 ม.ค.นี้  "ญาติ รปภ." เหยื่อคมกระสุนลั่นไม่อโหสิกรรม "ศธ." ห่วงสภาพจิตใจเด็กนักเรียน ฝากครูที่เหลือดูแล 
    เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ตั้งแต่ช่วงเช้า พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ“หนุมาน” กองปราบปราม เดินทางไปบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ จ.ลพบุรี หลังช่วงค่ำวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย จ.สิงห์บุรี และเป็นครูสอนยิงปืนรู้จักกันในนาม "ครูกอล์ฟ" ผู้ต้องหาคดีชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี และใช้อาวุธปืนยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 ราย ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา
    โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีของกองปราบฯ ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวน่าจะเป็นนายประสิทธิชัย หรือกอล์ฟ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนโพธิ์ชัยสิงห์บุรี จึงได้ดำเนินการพิสูจน์ทราบพร้อมกับรวบรวมพยานหลักฐาน ใช้เวลาสืบสวนประมาณ 7 วัน พบมีหลักฐานหลายอย่าง โดยเฉพาะอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเกี่ยวพันกับนายประสิทธิชัย รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ ก็เชื่อมโยงว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ประสานให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลอาญา กระทั่งศาลอนุมัติออกหมายจับดังกล่าว
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วิจักขณ์นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ เฝ้าสังเกตการณ์นายประสิทธิชัยตั้งแต่ขับรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นซีรีส์ 5 สีดำ หมายเลขทะเบียน 7 กณ 493 กทม. ออกจากบ้านพักเพื่อเดินทางไปสอนหนังสือที่โรงเรียนโพธิ์ชัยสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงขับรถสะกดรอยติดตามไปจนถึงบริเวณทางหลวงสาย 311 ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ก็ได้เข้าจู่โจมแสดงตัวเข้าชาร์จจับกุม พร้อมแสดงหมายจับให้รับทราบ โดยระหว่างที่เข้าจับกุมนั้นนายประสิทธิชัยไม่มีท่าทีขัดขืนหรือต่อสู้เจ้าหน้าที่ เพราะตั้งตัวไม่ติด 
    จากการตรวจค้นภายในรถไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่พบกระสุนปืนขนาด 9 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับที่ก่อเหตุ อยู่ภายในรถจำนวนหลายนัด จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำเบื้องต้น 
    "สอบสวนนายประสิทธิชัยให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุนั้น เพราะตนเองรู้สึกเบื่อกับชีวิต ต้องการหาความท้าทาย ตื่นเต้น ชีวิตจะได้มีสีสัน นอกจากนี้ยังรู้ตัวดีว่าหลังก่อเหตุจะถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้อยู่แล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุนั้นเป็นปืนยี่ห้อ CZ รุ่น SP 01 ซึ่งเป็นปืนของพ่อที่เป็นอดีตตำรวจ หลังจากก่อเหตุเสร็จก็นำไปคืนพ่อเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฟีโน่ สีแดง รุ่นปี 2008 เป็นรถจักรยานยนต์ของพ่อตา ซึ่งได้ยืมมาเพื่อใช้ในการก่อเหตุด้วยเช่นกัน ขณะนี้รถได้นำไปคืนให้กับพ่อตาแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้คำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การในบางส่วน และจะเค้นสอบอย่าละเอียดอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง" แหล่งข่าวระบุ
    มีรายงานด้วยว่า นายประสิทธิชัยยังได้ให้การเพิ่มเติมว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุได้นำไปทิ้งไว้ที่ป่าหญ้าข้างทางใกล้กับซอยโยธาธิการลพบุรี ต.กกโก อ.เมืองฯ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวพาไปชี้จุดดังกล่าว ก่อนจะพบเจอเสื้อผ้าของกลางอยู่จริง ประกอบด้วยเสื้อและกางเกง
    นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังขยายผลเข้าตรวจค้นที่โรงเรียนวัดโพธิ์ชัย ที่ผู้ต้องหาเป็นผู้อำนวยการอยู่ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าตรวจค้นที่บ้านผู้ต้องหาอีกหลังในพื้นที่ จ.ลพบุรี และค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นของบิดาที่เป็นอดีตตำรวจ โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามของกลางได้เกือบทั้งหมดแล้ว  
    พล.ต.ต.จิรภพกล่าวว่า ส่วนหนึ่งของการแกะรอยหาเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องขอขอบคุณประชาชนชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือช่วยแจ้งเบาะแสผู้ต้องสงสัยต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้ทางกองปราบฯ เองก็ได้เปิดกว้าง และให้ความสำคัญอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาทางกองปราบฯ มีการเปิดช่องทางติดต่อกับประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะคดีนี้เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคดีอื่นๆ อีกด้วย
บิ๊กแป๊ะยันไม่ได้จับแพะ
    ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ มาที่สนาม มทบ.13 จ.ลพบุรีอย่างเร่งด่วน และเดินทางต่อไปที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี
    จากนั้นเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม คุมตัวนายประสิทธิชัยเดินทางมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี เพื่อให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์, พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.,   พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 และทีมงานสอบปากคำ ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด รวมทั้งมีประชาชนส่วนหนึ่งมาเฝ้าดูคนร้ายรายนี้
    โดยนายประสิทธิชัยสวมเสื้อแขนยาวสีเทา สวมกางเกงขายาว ปิดบังใบหน้าด้วยการใส่แมสก์ สวมหมวกแก๊ป เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบนำตัวเข้าห้องสอบสวนทันที โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพทำข่าว โดยกั้นพื้นที่เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยของผู้ต้องหาที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ขณะเดียวกันประชาชนที่เฝ้ารออยู่ต่างตะโกนสาปแช่งให้ประหารชีวิตและตกตายไปตามกัน
    ภายหลังสอบปากคำนาน 30 นาที พล.ต.อ.จักรทิพย์ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากศาลจังหวัดลพบุรีได้ออกหมายจับนายประสิทธิชัย เมื่อช่วงเช้า พล.ต.ต.จิรภพพร้อมด้วยคณะทีมสืบสวนสอบสวนได้เข้าควบคุมตัวคนร้ายมาสอบปากคำ แต่จากการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เพราะยังสอบปากคำไม่เสร็จ ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
    ถามว่าการจับครั้งนี้จับแพะหรือไม่ เพราะถูกสังคมกดดัน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ถ้าจับแพะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะยืนอยู่ได้อย่างไร ไม่มีการจับแพะแน่นอน รายละเอียดทั้งหมดจะแถลงอีกครั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 10.30 น. วันที่ 23 ม.ค.
    ถามต่อว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ผบ.ตร.ตอบว่าเขาก็ไม่ปฏิเสธ รู้สึกสำนึก แต่ไม่ขอเผย เพราะยังเหลืออีกหลายขั้นตอน ถามอีกว่ามูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้คืออะไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ตอบว่า ขอพรุ่งนี้จะตอบให้
    ซักว่าตั้งแต่เกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้อยู่ในบัญชีของเจ้าหน้าที่ในการติดตามตัวคนร้ายหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า อยู่ในขบวนการตั้งแต่ต้นอยู่ในตะกร้าของเรา และทำเพียงคนเดียว และมีหลักฐานเพียงพอ ขอร้องประชาชนอย่าใช้ความรุนแรง ถึงแม้จะโกรธจะเกลียดก็ตาม เพราะขณะนี้ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว  
    มีรายงานว่า ในการสอบปากคำนายประสิทธิชัย ให้การรับสารภาพว่า ภายหลังก่อเหตุมีความเครียดอยู่บ้าง ต่อมา 3-4 วันเริ่มไม่เครียดเพราะตั้งใจว่าภายใน 1-2 วันนี้จะเดินทางมามอบตัวที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี เพราะรู้สึกว่าอย่างไรก็หนีไม่รอด และเป็นไปไม่ได้ที่ตำรวจจะจับกุมไม่ได้ ด้วยหลักฐานทั้งรถ กล้องวงจรปิดมันชัดเจนอยู่แล้ว ตอนแรกที่ไม่มามอบตัวเพราะรู้สึกกลัว หลายวันที่ผ่านมาเครื่องบินของเจ้าหน้าที่ตำรวจบินผ่านบ้านตนทุกวัน ซึ่งตนก็ได้ยินอยู่ทุกวัน ช่วงเย็นหลายวันที่ผ่านมาก็ขับรถผ่านตำรวจท่องเที่ยวหลายรอบ และฟังข่าวอยู่ตลอด 
ผู้ต้องหาอ้างอยากตาย
    "ที่เลือกเวลาก่อเหตุ 20.47 น. เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงาน โดยช่วง 20.00 น. ได้บอกกับพ่อตาแม่ยายว่าจะออกไปทำธุระ ที่ต้องยิงคนอื่นเพราะอยากตายตั้งแต่แรก เนื่องจากมีความเครียด สงสารพ่อแม่ที่ทำให้เดือดร้อนมาตลอด รู้สึกว่าเราเป็นตัวปัญหา อยากจะจบปัญหาจากที่บ้านไป อีกสาเหตุเพราะผิดหวังจากครอบครัวแฟนเก่า ที่ไม่ยิงตัวเองเพื่อจบปัญหาเพราะอยากให้เรื่องดัง ผมไม่คิดว่าผมจะรอดมาขนาดนี้” แหล่งข่าวอ้างคำพูดนายประสิทธิชัย
    ช่วงบ่าย พล.ต.อ.จักรทิพย์พร้อมคณะได้นำเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำลงพื้นที่ใต้สะพานบางระจัน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ จ.สิงห์บุรี ซึ่งนายประสิทธิชัยให้การนำทองคำและกระบอกเก็บเสียงอาวุธปืนมาทิ้งหลังจากก่อเหตุ โดยเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำได้ลงเรือตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือเข้าตรวจสอบวัตถุพยานใต้น้ำของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ยังไม่พบทองตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด  
    พล.ต.อ.จักรทิพย์พร้อมคณะยังได้เดินทางไปโรงเรียนวัดโพธิ์ชัย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผู้ต้องหาเป็นผู้อำนวยการ ซึ่งนายประสิทธิชัยให้การรับว่าเป็นจุดเผากระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า เพื่อทำลายหลักฐานบริเวณป่าด้านหลังอาคาร พบมีกองขี้เถ้าขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้เครื่องตรวจสอบวัตถุพยานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและโดยรอบบริเวณ พบเศษเหล็กลักษณะคล้ายที่ร้อยกระเป๋า จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
    ขณะที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวว่า มีคำสั่งจาก ผบ.ตร. ให้โอนสำนวนคดีดังกล่าวจากลพบุรี มาให้พนักงานสอบสวนกองปราบฯ เป็นผู้ดำเนินการเพียงหน่วยเดียว พร้อมกับเตรียมจะควบคุมตัวนายประสิทธิชัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดต่อยังกองปราบปรามคืนวันที่ 22 ม.ค. เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แม้ผู้ต้องหาจะมีการรับสารภาพบ้างแล้วในบางส่วนก็ตาม 
    "ขั้นตอนการนำตัวฝากขังนั้นขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) เลยหรือไม่ เพราะการดำเนินการในขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนและรวบรวมคำให้การประกอบสำนวน" ผบก.ป.กล่าว
    ช่วงค่ำมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบนายประสิทธิชัยเพิ่มเติมถึงจุดทิ้งทอง เนื่องจากนักประดาน้ำงมไม่พบตามที่บอกตอนแรก โดยนายประสิทธิชัยกลับคำให้การ บอกทองอยู่ที่บ้านภรรยาใน จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านอีกครั้ง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของนายประสิทธิชัย เบื้องต้นพบเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีฐานะดี มีพ่อเป็นอดีตตำรวจ ขณะที่แม่ประกอบอาชีพครู น้องสาวเป็นเภสัชกร  เรียนจบปริญญาโท ด้านบริหารการศึกษา เริ่มต้นอาชีพครูด้วยการสอนอยู่ที่โรงเรียนในลพบุรี ก่อนจะย้ายไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนในจังหวัดสิงห์บุรีในเดือนมีนาคม 2562 ชีวิตครอบครัวนายประสิทธิชัยเข้าพิธีแต่งงานไปเมื่อเดือนเมษายน 2560 นิสัยส่วนตัวเป็นคนร่าเริง ชอบรถบิ๊กไบค์ และชื่นชอบในกีฬายิงปืน 
    นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายประสิทธิชัย หลังเกิดเหตุก็ยังกลับไปสอนหนังสือปกติ และยังพาภรรยาไปรับประทานอาหารในวันเด็ก ซึ่งก็คือวันที่ 11 ม.ค. หลังก่อเหตุ 2 วัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ม.ค.ก็ยังไปสอนหนังสือ และผู้ต้องหายังจัดกิจกรรมกีฬาสีที่โรงเรียนตามปกติ
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกลุ่มได้และกำลังสอบสวนอยู่ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้แจงดีกว่า แต่ยืนยันว่าจับได้แล้ว และไม่ใช่แพะ เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นจึงถือว่าเรียบร้อยแล้ว
    "ปฏิบัติการคนเดียว ไม่มีผู้ร่วมก่อเหตุ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ชี้แจง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ใช่ฝีมือของทหาร เพราะทหารไม่ทำแบบนี้" พล.อ.ประวิตรกล่าว
    ขณะที่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.รอให้กระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความชัดเจนออกมาก่อน หากมีการกระทำผิดจริง ในส่วนของ ศธ.ก็ต้องมีการลงโทษขั้นสูงสุด ส่วนโทษสูงสุดคือให้ออก เพราะเป็นความผิดทางอาญา ซึ่งความจริงผิดไม่แรงขนาดนี้ก็ไล่ออกแล้ว แต่ขณะนี้รอให้การสอบสวนถึงที่มาที่ไปให้ชัดเจนก่อน ศธ.จึงจะวางมาตรการที่เหมาะสมได้
ญาติเหยื่อลั่นไม่อโหสิฯ
    "เบื้องต้นทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้ย้าย ผอ.คนดังกล่าวออกจากพื้นที่แล้ว และได้มอบหมายให้ครูที่อยู่ในโรงเรียนช่วยดูแลเด็กๆ และให้การฟื้นฟูจิตใจเด็ก และอธิบายให้เด็กฟังถึงบริบทของสังคมที่มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ถึงแม้จะเป็นความเจ็บปวด แต่ก็เป็นโอกาสที่เราจะได้ให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนว่ายังมีสิ่งดีๆ ที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด ก็ให้เด็กๆ ทุกคนระมัดระวัง ก็หวังว่าคุณครูที่อยู่ในโรงเรียนดังกล่าวจะสามารถดูและจัดการได้ ซึ่งผมบอกผู้บริหารเขตพื้นที่ไปแล้วหากขาดเหลือต้องการอะไรเพิ่มเติม ทางเราก็เตรียมพร้อมที่จะดูแล" นายณัฏพลกล่าว
    รมว.ศธ.กล่าวว่า ในวันที่ 23 ม.ค. จะมีเจ้าหน้าที่จิตวิทยา จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าไปช่วยดูแลฟื้นฟูจิตใจของเด็กๆ หากมีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียนอีกวันก็ดำเนินการได้ ซึ่งทางเขตพื้นที่จะรวมพลังแบ่งงานกันไปช่วยดูแลโรงเรียนและเด็ก
    ด้านนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาฯ กพฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้รับรายงานจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สิงห์บุรี ได้มีการประสานกับ สภ.เมืองลพบุรี เพื่อขอหลักฐานบันทึกการจับกุม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง จากนั้นจะเสนอศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สิงห์บุรี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ต่อไป
    "ขณะนี้ทาง สพป.สิงห์บุรีได้รายงานให้ตนทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณโรงเรียนอยู่ ดังนั้นจึงให้โรงเรียนหยุดจัดการเรียนการสอนเป็นระยะเวลา 3 วัน และเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่จันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้" เลขาฯ กพฐ.กล่าว
    ที่กระทรวงยุติธรรม ทางกระทรวงยุติธรรมจัดพิธีมอบเงินเยียวยาเหยื่ออาชญากรรมหรือผู้เสียหายในคดีอาญาตามโครงการคุ้มครองสิทธิ : เพื่อสร้างวิถีชีวิตแห่งความเป็นธรรม ครั้งที่ 5 ประจำปี 2563 โดยมีผู้เสียหายคดีฆ่าชิงทองที่ห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี ประกอบด้วยนายวัลลภ นิ่มมา บิดาของนายธีรฉัตร นิ่มมา รปภ.ห้างโรบินสันลพบุรี ผู้เสียชีวิต และ ร.อ.สุรกิต ทองทิพย์ บิดาของน.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า มารับเงินเยียวยา
    นายวัลลภกล่าวว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและ ผบ.ตร.ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ เป็นถึง ผอ.โรงเรียน แต่กลับมาก่อเหตุ ถือว่าจิตใจโหดร้ายและโหดเหี้ยมมากๆ หากพบหน้าก็อยากถามว่าทำไมเป็นคนโหดร้ายเช่นนี้ ทั้งๆ ที่มีการศึกษาดี หรือการศึกษาไม่ได้ช่วยยกระดับจิตใจให้ดีขึ้น เป็นถึงครูบาอาจารย์ ควรจะมีวุฒิภาวะที่ดีกว่านี้  
    "ขอให้มีการแก้กฎหมายเพื่อให้ลงโทษประหารชีวิต เพราะถ้าติดคุกไม่น่าจะเกิน 15 ปี แล้วก็จะกลับมาก่อเหตุซ้ำ สร้างความหวาดระแวงและทำให้คนหวาดกลัวอีก เขาเป็นครู แต่จิตใจกลับโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ผมไม่ให้อโหสิกรรม และไม่ให้อภัยกับคนประเภทนี้ ต้องประหารอย่างเดียว" บิดาของ รปภ.ห้างโรบินสันที่เสียชีวิตระบุ
    ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เรือนจำจะมีมาตรการควบคุมตัวที่แน่นหนารัดกุม มั่นใจได้ว่าจะใช้ระบบพันธนาการขั้นสูงสุด ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะหลบหนีหรือแหกหักออกไปจากเรือนจำได้ แต่ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมได้กำลังสร้างกรอบกฎหมายใหม่ ซึ่งการทำกฎหมายไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และขณะนี้ตนได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์จำแนกกลุ่มนักโทษออกเป็น 3 กลุ่ม โดยขอให้คำจำกัดความง่าย คือ กลุ่มคนที่เลวมาก แย่มาก จะเรียกว่ากลุ่มเดรัจฉาน กลุ่มนักโทษธรรมดาทั่วไปเรียกว่ากลุ่มขุนแผน และกลุ่มนักโทษคดีไม่อุกฉกรรจ์ หรือกลุ่มเทวดาตกสวรรค์ ซึ่งจะพ้นโทษเร็วกว่ากลุ่มอื่นๆ
    "นักโทษในกลุ่มเดรัจฉานจะไม่ให้มีการลดโทษ หรือเมื่อพ้นโทษออกมาแล้วก็จะต้องมีการติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยขอให้กรมราชทัณฑ์ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นพิเศษฯ และขอให้ทำบัญชีผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัว ขณะนี้มีจำนวน 30 คนที่ถูกจัดเป็นกลุ่มเดรัจฉานที่กำลังจะพ้นโทษในปีนี้ รวมทั้งกลุ่มที่จะต้องควบคุมอยู่ในเรือนจำต่อไปอีกประมาณ 1,000 คน" รมว.ยธ.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"