‘ช้าง-วิระชัย’พ้นราชองครักษ์


เพิ่มเพื่อน    

 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ "ชัยวัฒน์-วิระชัย" พ้นจากนายตำรวจราชองครักษ์ "ลุงป้อม" ตัดเยื่อใย "บิ๊กโจ๊ก" บอกไปบวชก็ไม่ได้มาลา แถมไม่เจอหน้ากันนานแล้ว ย้ำสัมพันธ์ "นายกฯ ตู่" แน่นแฟ้น "ครม." ไฟเขียวร่าง กม.ตั้ง "บก.กฎหมายและคดี" เพิ่มใน บช.ภ.1-9 จับตา "ก.ตร." ถกข้อ กม. "ผกก.หนุ่ย-ไพรัตน์" ร้องทุกข์
    เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ ปฏิบัติราชการแทนราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีหนังสือหน่วยราชการในพระองค์ 904 ที่ พว.0005.1/493 ลงวันที่ 25 ม.ค. ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ 
    ใจความว่า ด้วยทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่นายตำรวจราชองครักษ์ จำนวน 2 นาย ดังนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. เป็นต้นไป
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม. ยื่นใบลาเพื่อขอลาไปอุปสมบทที่ประเทศอินเดียว่า ไม่ได้มาลาตนก่อนไปบวช อีกทั้งยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือเจอกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หลังมีคำสั่งเตือนของนายกฯออกมา และไม่ได้เจอกันนานแล้ว เพราะเขาก็ไปทำงานของเขา 
    "ก่อนหน้านี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ทำงานอยู่กับผม แต่หลังจากที่ออกไปแล้วเขาก็ไปทำงานในส่วนอื่น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม" พล.อ.ประวิตรกล่าว
    ถามถึงเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ออกคำสั่งเตือนการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้มาหารือก่อนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คุยกันทุกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็คุยก่อน ไม่เป็นไร สื่อถามอะไร ไม่เห็นน่าถามเลย เป็นเรื่องของบุคคล ขอให้ถามเรื่องใหญ่ๆ
    ซักว่ามีการตั้งข้อสังเกตกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์จะทำให้ พล.อ.ประวิตรกับ พล.อ.ประยุทธ์ห่างเหินกันหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี เรื่องเรากับนายกฯ เลิกพูด เพราะอยู่กันมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เราเป็น ร.อ. และ ร.ต. อยู่ด้วยกันมาตลอดจนเกษียณอายุราชการ จะมาเอาอะไรอีก หยุดพูดเรื่องนี้
    ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันอีกครั้งว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ได้ส่งหนังสือลาล่วงหน้ามาแจ้งก่อนจะมีคำสั่งสำนักนายกฯ ฉบับล่าสุด เพื่อแจ้งขอลากิจส่วนตัว ตามกำหนดราชการที่สามารถกระทำได้ โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ส่งใบลา และแจ้งว่าจะเดินทางไปยังประเทศอินเดียถึงระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-9 ก.พ.63 หนังสือดังกล่าวลงวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งเป็นการลาถูกต้องตามระเบียบราชการ
    "แต่ถ้าเป็นกรณีที่เมื่อมีการออกคำสั่งเตือนแล้วยังมีความผิดเกิดขึ้นอีก ทาง สปน.ก็มีหน้าที่ที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพิ่มเติมได้" นายธีรภัทรกล่าว
    ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ซึ่งมีคำสั่งมาช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มารายงานตัวกับตนเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงเย็นวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังมีคำสั่งสำนักนายกฯ ให้มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกฯ เป็นการส่งตัวมาจาก สตช. 
    "การมอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัยปฏิบัติงานนั้น อยู่ระหว่างการหารือกับผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบหมายงานที่เหมาะสม เนื่องจาก พล.ต.อ.วิระชัยได้รับคำสั่งให้ย้ายมาชั่วคราว เพื่อรอผลสอบของ สตช. ทั้งนี้ ได้เตรียมห้องทำงานไว้ที่อาคารสำนักงาน ก.พ.เก่า" ปลัดสำนักนายกฯ กล่าว
    วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มีพล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. (การแก้ไขเพิ่มเติมการแบ่งส่วนราชการตำรวจภูธรภาค 1-9 ในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) 
    โดย ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการเป็นกองบังคับการหรือส่วนราชการอย่างอื่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงาน ก.พ. และสำนักงบประมาณ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
    สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เป็นการจัดตั้งกองบังคับการกฎหมายและคดี เป็นส่วนราชการระดับกองบังคับการ สังกัดตำรวจภูธรภาค 1-9 โดยมีหน่วยงานภายในประกอบด้วย ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายกฎหมายคดีปกครองและคดีแพ่ง และกลุ่มงานตรวจสอบสำนวนคดี โดยมีอำนาจหน้าที่ เช่น พิจารณาตรวจร่างกฎหมาย ให้ความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายที่สมาชิกรัฐสภาหรือส่วนราชการต่างๆ เสนอ พิจารณาตรวจร่างสัญญาดำเนินการเกี่ยวกับงานคดีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค พิจารณาหารือปัญหาข้อกฎหมาย เสนอแนะปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง     
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มีรายงานว่า ในวันที่ 29 ม.ค. เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 1/2562 ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ อาทิ การเยียวยาคืนสิทธิการเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะห้วงที่มิได้ปฏิบัติราชการ พร้อมทั้งขออนุมัติเลื่อนเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายให้แก่ พ.ต.ท.สมยศ ตรีประสิทธิ์ชัย, ตร.หารือกรณีให้สิทธิข้าราชการตำรวจที่ได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสำนวนอัยการและให้ความเห็นทางกฎหมายเพื่อได้รับเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ที่ทำหน้าที่นิติกร 
    "ที่น่าสนใจ เป็นเรื่องที่ อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ หารือปัญหาข้อกฎหมายกรณี พ.ต.ท.วทัญญู วิทยผโลทัย ร้องทุกข์, อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ หารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของ จตช.ในการออกคำสั่ง ศปก.ตร. และอำนาจการส่งตัวข้าราชการตำรวจที่กระทำผิดวินัยเรื่องทรงผมไปเข้ารับการฝึกธำรงวินัย กรณี พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ ร้องทุกข์, ตร.หารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับวิธีการสอบสวนตามกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสอบสวนพิจารณา พ.ศ.2557" แหล่งข่าวระบุ.

 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"