"เสน่ห์..รอยร้าว"ศิลปะ-ดนตรี-สเกตบอร์ด พัฒนาศักยภาพเยาวชนที่ก้าวพลาด


เพิ่มเพื่อน    

        ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติ มูลนิธิละครธรรมะในพระสังฆราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สสส. เปิดตัวโครงการศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเด็ก เยาวชน และชุมชน เสน่ห์...รอยร้าว ร่วมขับเคลื่อนสังคมสะท้อนปัญหาเด็กและเยาวชน ผ่านกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์กับเยาวชน ปั้นนักแสดงรุ่นใหม่จากเยาวชนบ้านกาญจนาฯ บ้านเพชรหึงษ์ รร.ภัทราวดีหัวหิน เล่นกับศิลปินมืออาชีพ อาทิ นรินทร ณ บางช้าง, ช.อ้น ณ บางช้าง, จักรินทร์ เพชรวรพล (แชมป์สเกตบอร์ด) เชิญผู้ใหญ่ใจดีบริจาคตามศรัทธา แสดงสดให้ชมฟรีครั้งแรก 7-9 ก.พ.นี้ ที่หัวหินสเกตพาร์ก พร้อมเปิดตัว หัวหินสเกตพาร์กพื้นที่สีขาวแห่งใหม่ให้เป็นพื้นที่ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ จัดละครออนทัวร์ทั่วประเทศ ชมฟรี 14-15 ก.พ. ในงานเทศกาลศิลปะและการแสดงเจ็ดเสมียน ครั้งที่ 5 ณ ตลาดเก่า 119 ปีเจ็ดเสมียน

      ญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ครูเล็ก ภัทราวดี ได้นำเสนอโครงการกับ สสส.เกี่ยวกับเยาวชนด้วยแววตาที่มีพลัง ซึมซับความปลื้มปีติได้อย่างเต็มที่ โครงการศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเด็ก เยาวชนและชุมชน หรือ เสน่ห์... รอยร้าว เป็นโครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่เคยก้าวพลาดผ่านการใช้ศิลปะสร้างสรรค์สู่การเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีสุขภาวะทางปัญญา พร้อมสนับสนุนให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ และพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นนักสื่อสารสุขภาวะ และจัดทำสื่อสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้สังคมวงกว้างเกี่ยวกับปัญหาเด็ก เยาวชน และสังคม รวมทั้งนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ด้วยความเชื่อว่าคนทุกคนมีศักยภาพและสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ โดยกระบวนการพัฒนาและเรียนรู้จะเป็นเครื่องมือทำให้ศักยภาพเหล่านั้น ถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นต่อไป
      “เด็กที่ก้าวพลาดอยู่ในมุมมืดของสังคม จะได้รับการบ่มเพาะให้เห็นคุณค่าผ่านศิลปศาสตร์ ดนตรี สเกตบอร์ด คุณเล็กคลุกคลีอยู่ในวงการนักแสดง ละครมีส่วนช่วยทำให้คนศึกษาเรียนรู้ชีวิตทั้งบวกและลบ สุขและทุกข์ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน เด็กเรียนรู้ความจริงของชีวิต เติมเต็มสุขภาวะทางปัญญา เด็กเสมือนหนึ่งขุมทรัพย์ในถ้ำมืดมิด รอวันเปล่งประกาย ทำให้สว่างไสวด้วยศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเขา จะเห็นได้จากแววตาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากภายใน จากการบ่มเพาะของโครงการนี้ เห็นได้ว่าครูเล็กเป็นบรมครูของเด็กๆ เด็กกลุ่มนี้มีบุญที่อยู่ในความโอบอุ้มของครูเล็ก ขอให้เสน่ห์...รอยร้าวที่ทุกคนได้ดูในค่ำคืนนี้จะดื่มด่ำอย่างมีความสุข” ญาณี รัชต์บริรักษ์ กล่าวเปิดงานในการแสดงละครเพลง “เสน่ห์..รอยร้าว” รอบปฐมฤกษ์

      ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและภาพยนตร์) ประจำปี 2557 ผู้ก่อตั้งมูลนิธิละครธรรมะในพระสังฆราชูปถัมภ์ ทำหน้าที่ทั้งผู้กำกับการแสดงและสร้างสรรค์โครงการ พิธีกร นักแสดงที่หัวหินสเกตพาร์ก โรงเรียนภัทราวดี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในค่ำคืนวันที่ 14 ม.ค.2563 กล่าวว่า สถานการณ์เด็กและเยาวชนในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหามากขึ้นทุกปี ส่วนใหญ่มีปัจจัยพื้นฐานมาจากสถาบันครอบครัวที่ไม่แข็งแรง ทำให้เยาวชนต้องหาสิ่งอื่นมาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ไม่ว่าจะเป็นการคบหาเพื่อนที่ผิด อยู่กับอบายมุข การพนัน ดื่มสุรา ติดบุหรี่ ยาเสพติด นำไปสู่ปัญหาการเป็นแม่วัยรุ่น การใช้ความรุนแรง ลักขโมย ขายตัว อาชญากรรม ปัญหาติดเกม และการใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสม การขาด พื้นที่สีขาว ในสังคม

      ในช่วงหนึ่งภัทราวดีได้ศึกษาเรื่องศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการบำบัด (Creative Art Therapy) อย่างจริงจังจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้นำแนวคิดนี้ขึ้นมาเชื่อมโยงกันและสร้างสรรค์โครงการใหม่ที่มีชื่อว่า เสน่ห์... รอยร้าว : โครงการศิลปะสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเด็ก เยาวชน และชุมชน โดยเริ่มโครงการเมื่อต้นปี 2562 เพื่อพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาให้แก่เด็กกลุ่มเสี่ยงและเยาวชนที่เคยก้าวพลาด มีกิจกรรมไฮไลต์ที่สำคัญคือกิจกรรม เสน่ห์...รอยร้าว คอนเสิร์ตออนทัวร์ ซึ่งเป็นการแสดงสดที่ผสมผสานศิลปะหลากหลายแขนง อาทิ ศิลปะการแสดง ดนตรี และสเกตบอร์ด โดยศิลปินมืออาชีพ อาทิ นรินทร ณ บางช้าง, ช.อ้น ณ บางช้าง, จักรินทร์ เพชรวรพล (แชมป์สเกตบอร์ด) ฯลฯ ร่วมแสดงกับเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก และชุมชนพระประแดง เพื่อสร้างเวทีและพื้นที่สีขาวให้เยาวชนได้แสดงออก ตลอดจนสร้างกระแสให้สังคมได้ตระหนักในประเด็นปัญหาครอบครัวและแนวทางในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ โดยจะเริ่มจัดแสดงในรูปแบบการทัวร์ไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดตลอดปี 2563


     
ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับนักไวโอลินชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ไคล์ ดิลลิงแฮม (Kyle Dillingham) เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2562 โดยได้รับเชิญมาร่วมแสดงในละคร ลิลิตพระลอ 2019 คุณไคล์เรียนหนังสือและเล่นไวโอลินได้ดีเพราะการฝึกสเกตบอร์ด ซึ่งเป็นการฝึกสมาธิทำให้มีความจำดีเยี่ยม วันหนึ่งคุณไคล์ได้นำไวโอลินที่แตกหักมาลองบรรเลงเป็นบทเพลงต่างๆ เกิดเป็นเพลงที่ไพเราะและเกิดคุณค่าใหม่ที่น่าประทับใจ The Broken Violin เปรียบเสมือนชีวิตที่ก้าวพลาดที่สร้างบาดแผลและรอยร้าวในหัวใจ หากเมื่อเปิดโอกาสให้ได้เห็นคุณค่าในตนเอง ย่อมเยียวยาจิตใจให้ก้าวผ่านอุปสรรคใดๆ ไปได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับไวโอลินที่แตกหัก ถ้านำมาบรรเลงย่อมได้ท่วงทำนองใหม่ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครภัทราวดีกล่าว

      ภัทราวดีให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “ชีวิตอยู่ในวงการแสดงตั้งแต่เรียนชั้นประถม 1 รร.ราชินี 16 ปีอยู่ในวงการนางแบบ เรียนจบการแสดงจากนิวยอร์กเมื่ออายุ 21 ปี ทำละครทีวี ปี 62 ประกาศว่าจะหยุดการแสดงทุกอย่าง แต่ทรงพล ชัญมาตรกิจ เจ้าพ่อทีวีไดเร็กต์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นเพื่อนของลูก เป็นพันธมิตรคนแรกที่ขอร้องว่าครูเล็กอย่าหยุดการแสดง ขอสนับสนุนให้แสดงต่อและสร้างความสุขให้กับเด็กๆ”

      จุดเริ่มต้นที่เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างลานสเกต เพราะเห็นว่าลานสเกตที่เพชรหึงษ์เล็กกระจิริดสร้างด้วยงบประมาณที่มีของชุมชน คราวนี้มาสร้างที่ รร.ภัทราวดี หัวหินจากเดิมที่เป็นที่ดินว่างเปล่า น้ำท่วม จึงให้นายดี ช่างหม้อ ที่ปั้นบ้านดินด้วยแนวคิดลานสเกตที่เหมือนหาดทรายเนียน ขาวจั๊วะสว่าง มองเห็นแม้กลางคืน ผู้ออกแบบหัวหินสเกตพาร์ก นายดี ช่างหม้อ ดุษฎี รักษ์มณี จักรพล ผู้บริหารงาน มังกร ทิมกุล ผู้ก่อตั้ง เล็ก ภัทราวดี มีชูธน เมื่อสร้างเสร็จที่นี่กลายเป็นลานสเกตที่เด็กแว้นเด็กสก๊อยเข้ามาเล่นและเชียร์กัน บางรายก็มาจากเพชรบุรีตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสามทุ่มครึ่ง ที่นี่เป็นเขตปลอดบุหรี่และเหล้า ผู้ปกครองก็มานั่งล้อมวงมีปาร์ตี้พูดคุยกัน รอเด็กเล่นสเกตแล้วกลับบ้าน พนักงานของเราก็หาลำไพ่ขายขนม ขายน้ำ ช่วยกันปัดกวาดดูแลความเรียบร้อย จากเดิมที่นี่เป็นสถานที่ไฮโซ คนนอกไม่กล้าเข้ามา ตอนนี้ใครต่อใครก็กล้าเข้ามา เป็นการสร้างมิตรภาพที่ดี

      เด็กกลุ่มนี้เมื่อมีเวลาว่างจากการแสดงแล้วให้ไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอู่ต่อเรือ ซ่อมเรือ เรือด่วนเจ้าพระยาในซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 จัดสวนเป็นอาชีพรุกขกร ปรากฏว่าเด็กๆ ทำงานได้ดี ขอขอบคุณ สสส. ครูอาจารย์และพันธมิตรทุกท่านที่ร่วมให้ความคิด การสนับสนุน เพราะเห็นคุณค่าของงานชิ้นนี้ ขอบคุณคุณแม่และคุณพ่อที่ให้สิ่งดีๆ ในชีวิต ขอบคุณสิ่งที่เรียกว่า ความรัก ความกตัญญู ที่ทำให้ทุกคนทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อแผ่นดิน และเพื่อนร่วมโลกตามศักยภาพที่เรามี” ภัทราวดีกล่าว

      ทั้งนี้ มูลนิธิละครธรรมะในพระสังฆราชูปถัมภ์มีเจตจำนงต้องการให้เยาวชนมี พื้นที่สีขาว ในการทำกิจกรรมที่สามารถพัฒนาศักยภาพและได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ จึงได้จัดสร้างลานสเกตบอร์ด ชื่อ หัวหินสเกตพาร์ก ซึ่งเปิดกว้างให้เยาวชนได้เข้ามาใช้พื้นที่โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับ เสน่ห์...รอยร้าว คอนเสิร์ตออนทัวร์ จะจัดแสดงรอบแรกในวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ หัวหินสเกตพาร์ก บัตรชมการแสดงบริจาคตามศรัทธา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3282-7814, 08-9404-6868 หรือเวบไซต์ www.thebrokenviolin.com Facebook: The Broken Violin Project เสน่ห์.. รอยร้าว หรือติดต่อทาง Line ID: @vichuahin.

 

7-9ก.พ.“เสน่ห์...รอยร้าว”ที่หัวหินสเกตพาร์ก

      โครงการศิลปะสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชน และชุมชน โดยครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน และมูลนิธิละครธรรมะในพระสังฆราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อพัฒนาสุขภาวะทางปัญญาให้แก่เด็กกลุ่มเสี่ยงและเยาวชนที่เคยก้าวพลาด นำเสนอในรูปแบบการแสดงสดที่ผสมผสานศิลปะการแสดง ดนตรี และสเกตบอร์ดโดยศิลปินมืออาชีพ ร่วมแสดงกับเยาวชนที่เคยก้าวพลาด เพื่อสร้างกระแสให้สังคมได้ตระหนักในประเด็นปัญหาครอบครัวและแนวทางในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์

      วันที่ 7-9 ก.พ. ศิลปินรับเชิญ: Kyle Dillingham ไวโอลิน, สมชาติ ณ บางช้าง Guitar, สุวัฒน์ เจริญศิลป์ Drum, นรินทร ณ บางช้าง Narrator, คัทลียา แมคอินทอช Narrator ครูอาจารย์, มารุต นพรัตน์ Pianist/Arranger, ราชศักดิ์ เรืองใจ Flute/Drum/Alto Xylophone เจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ ครั้งที่ 21 ดนตรีประกอบยอดเยี่ยมภาพยนตร์เรื่องคนโขน, ปิยะวิทย์ ขันธศิริ ไวโอลิน, เสาวคล ม่วงคราญ Cello โปรดิวเซอร์อัลบั้ม Pry in space ศิลปินพราย ปฐมพร และวงอภิวาท ร่วมทำงานกับ Koichi Shimizu เพลง Samui Song ภาพยนตร์ของเป็นเอก รัตนเรือง ฯลฯ

      ผู้สนับสนุนเสน่ห์...รอยร้าว สสส. ทิชา ณ นคร ที่ปรึกษาโครงการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย Theatre Residence Putahracsa Huahin บ.เรือข้ามฟากเจ้าพระยา จำกัด รร.ภัทราวดี หัวหิน Hua Hin Skate Park, อานันท์ นาคคง ที่ปรึกษาดนตรี, บอย โกสิยพงษ์ ผู้ประพันธ์เนื้อร้อง ทำนอง เจ้าของลิขสิทธิ์ เพลง LIVE&LEARN, ฤทธิพร อินสว่าง ดูแลลิขสิทธิ์เพลง, สมชาย เกิดสายทอง เจ้าของลิขสิทธิ์เพลงจากเพื่อนถึงเพื่อน, ครูพยงค์ มุกดา ผู้ประพันธ์เนื้อร้องและทำนองเพลง นกขมิ้น บ.จีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล ดูแลลิขสิทธิ์เพลง เพลงหน้าที่ของเด็ก ประพันธ์คำร้อง, ชอุ่ม ปัญจพรรค์ ทำนอง, ครูเอื้อ สุนทรสนาน บ.ฮะ จำกัด บ.Preduce บ.ซุปเปอร์ริช เคอเรนซี เอ็กเชนจ์ (1965) จำกัด บ.ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) Imagine Thailand Cassie Kirkeby แปลภาษาอังกฤษ.

 

(โอ (นั่งคนที่ 3 จากซ้ายมือ) แสดงนำในละครเพลงเรื่อง “เสน่ห์...รอยร้าว”)

 

                       ถอดบทเรียนเด็กบ้านกาญจนาฯกลับคืนสู่สังคม

      เด็กหนุ่มคนหนึ่งวัย 21 ที่หลงเข้าไปในมุมมืดของชีวิต ถูกสังคมตีตราเป็นสีดำตั้งแต่อายุ 13 ปี อันเนื่องมาจากพ่อแม่เลิกกันตั้งแต่เด็ก แม่มีลูก 2 คนกับสามีเก่า แต่ไม่มีลูกกับสามีใหม่ ลูกทั้ง 2 อยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงที่บ้านย่านปากเกร็ด โอมีพี่สาว 1 คน ซึ่งเข้า-ออกในเรือนจำเพราะค้ายาเสพติด ต่อมาปรับตัวได้ขณะนี้ช่วยแม่ทำงานแล้ว พ่อเลี้ยงดื่มเหล้าใช้ความรุนแรงดุด่าลูกเลี้ยง หลายครั้งได้รับคำดุด่าเสมือนหนึ่งเป็นคำท้าทาย โอประพฤติตัวเกเรเพราะอยากมีตัวตนได้รับการยอมรับ โอเริ่มเกเรตั้งแต่ชั้น ม.1 เมื่อถูกเพื่อนแกล้งก็คิดเอากลับคืนเสมือนหนึ่งว่าเป็นคนมี 2 บุคลิกในร่างเดียวกัน ตอนหลังก็ออกจากบ้านมาอยู่กับเพื่อนหลายคน

        มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ที่ผมรักและเป็น Role Model ถูกตำรวจไล่จับ จึงเอายาเสพติด 2 หมื่นเม็ดมาฝากไว้กับผม ผมอาสาเอายาไปเก็บไว้ที่บ้านเก็บไว้ในห้องของผมเอง จากนั้นเพื่อนรุ่นพี่ก็ชวนผมค้ายาบ้า เริ่มเดินค้ายาบ้าตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่ไม่เสพ ค้ายาเพราะอยากได้เงินมีเงินใช้เยอะๆ รู้สึกว่าเท่ มีบารมี มีผู้หญิงเข้ามาหาเหมือนอย่างเพื่อนรุ่นพี่ เพื่อนผมขายยากันทุกคน ขายยา 200 เม็ด ได้เงิน 5,000 บาท หาเงินได้ง่าย ยื่นขายต่อแถวกันเหมือนกับการรอวินมอเตอร์ไซค์ขึ้นรถ ยกมือเรียก ผมเป็นคนไม่เล่นยา ไม่เสพ แต่ผมเลือกที่จะหาเงินด้วยการขายยาเข้าไปตามตรอกซอกซอยแคบๆ ที่ตำรวจไม่ขี่เข้ามา เพื่อนผมเป็นขาใหญ่ที่เคลียร์กับตำรวจได้

(เบียร์ นักแสดงคนกลางถือไม้เท้า)

      เมื่อเรียนจบชั้น ม.3 รร.ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งย่านนนทบุรี ก็ออกจากระบบโรงเรียน ชีวิตแค่สนุกไปวันๆ ใช้ชีวิตเป็นกลุ่มเป็นแก๊ง ซื้อปืนมายิงเล่น เก็บเงินแทงสนุ๊ก เก็บเกี่ยววิชา ตอนหลังถูกตำรวจจับตัวข้อหาค้ายาเสพติด ถูกส่งตัวไปอยู่สถานพินิจฯ เมื่ออายุ 17 ปี เขาปล่อยให้ผู้ต้องขังนอนไปวันๆ ไม่ได้ฝึกฝนให้ทำอะไร ที่นี่เปิดมุมกว้างได้วิชาเทคนิคในการค้ายาที่เก่งกาจมากยิ่งขึ้นไปอีก จากเดิมที่เคยค้ายากับเพื่อนรุ่นพี่ 2 หมื่นเม็ด ตอนหลังแม่ประกันตัวผมออกมาได้แล้ว ผมตัดสินใจค้ายาเอง ไม่ต้องมีหุ้นส่วน ไม่ต้องไปทับเส้นใคร จริงๆ แล้วก็ไม่เคยคิดที่จะเป็นเจ้าพ่อค้ายา

      ป.ป.ส.เจาะข้อมูลผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์มือถือด้วยการล่อซื้อยา มีรูปพรรณสัณฐานทั้งหมด รู้ว่าเราพักอยู่ที่คอนโดฯ ไหน สั่งซื้อยา 2,000 ชุดก็ให้ไปแล้ว มาถึงจุดหนึ่งที่อิ่มตัวอยากเลิกอาชีพนี้แล้ว ป.ป.ส.ก็โทร.มาสั่งยาอีก 6,000 ชุด ก็ต่อรองกันว่าตอนนี้เลิกอาชีพแล้ว ขอแค่ 400 ได้ไหม ในที่สุดก็ถูกจับได้ ถูกส่งไปอยู่ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน บ้านกาญจนาภิเษก ซึ่งทิชา ณ นคร (ป้ามล) เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ตอนแรกก็ตั้งใจคิดหนี เพราะที่นี่ไม่มีลูกกรง เป็นคุกเปิด วันแรกที่เข้ามาถึง ป้ามลผูกสายสิญจน์และเข้ามากอดผม ผมคิดในใจว่าป้า Fake รึเปล่า ผมเป็นใครก็ไม่รู้เข้ามากอดผม เขาไม่กลัวหรือว่าเด็กจะหนี ผมเคยอยู่กรงรั้วไฟฟ้ากำแพงทึบๆ

        ตอนหลังป้ามลเอาครอบครัวมาทำงานกับผม พาแม่มาด้วย เราก็ทบทวนป้าเขาทำเพื่อเรา ผมโทรศัพท์ไปคุยกับแม่ แม่บอกว่าวันอาทิตย์จะเข้ามาเยี่ยม ตอนนั้นเราก็ดีใจแล้ว แม่ก็เข้ามาเยี่ยมจริงๆ ป้ามีกระบวนการที่ทำให้ผมได้คุยกับแม่มากขึ้นด้วยเกมแผ่นภาพ 52 ใบ ปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เด็กออกจากบ้าน เพราะคำพูดที่แม่เปรียบเทียบกับเด็กข้างบ้าน พ่อแม่ดุด่าว่าลูกเพื่อให้รู้สึกกลัวจะได้มีความยำเกรง เราก็รู้ว่าพ่อแม่เป็นทุกข์ก็เพราะเรา หลังจากที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านกตัญญูในบ้านกาญจนาฯ แล้วก็ได้มาอยู่ที่บ้านชนะใจ ซึ่งมีความยืดหยุ่น กลับบ้านได้ตามเวลา ได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้นำ ในช่วงนี้ก็ให้เรียน กศน.เพื่อจะได้มีวิชาชีพติดตัว เรียนคอมพิวเตอร์ ไปแข่งขันคอมพ์ ผมได้ที่ 1 สกรีนเสื้อ ขับรถยนต์ได้ใบขับขี่รถยนต์ สอนการตัดผม ทำเบเกอรี่ แต่เรื่องนี้ผมทำไม่ค่อยได้ดี เรียนดนตรีร้องนำและเล่นกีตาร์ ตอนหลังครูมลส่งมาเรียนกับครูเล็ก ให้ครูที่ได้รางวัลระดับประเทศเข้ามาสอนการเล่นสเกตบอร์ด แรกๆ ก็เล่นในบ้านกาญจนาฯ ก่อนที่จะมาแสดงละครกับครูเล็ก

        ผมโชคดีที่ได้มาเจอป้ามล มิฉะนั้นป่านนี้ผมก็คงยังค้ายาอยู่ที่ไหนสักแห่ง ใครๆ ก็ชมว่าผมมีพรสวรรค์ที่จะเรียนรู้หลายสิ่ง ผมฝึกฝีมือทำงานกับครูเล็ก เล่นละครเสน่ห์..รอยร้าว ผมไม่เคยโทษแม่ที่ผมทำผิด แต่ผมโทษตัวเองที่ใจอ่อนแอ ตอนนี้ผมกล้ากอดและหอมแม่ที่บ้านกาญจนาฯ ผมบอกกับเพื่อนว่าผมไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับแม่ได้อีกนานแค่ไหน ผมขอทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด ตอนนี้ผมสอนแม่ให้เล่นไลน์ เล่นเฟซบุ๊กได้แล้ว แม่ก็เลยอยู่หน้าจอโดยเฉพาะช่วงวันหยุด ส่วนวันธรรมดาก็มีกิจกรรมที่ต้องทำงาน”.

 

บรรยายใต้ภาพ

14(เสน่ห์12) โอ (นั่งคนที่ 3 จากซ้ายมือ) แสดงนำในละครเพลงเรื่อง เสน่ห์...รอยร้าว

15(CPP_2396JPG ในgoogle) โอ นักแสดงจากบ้านกาญจนาภิเษก

 

 

        เบียร์-อดิเทพ เอี่ยมสุวรรณ์ อายุ 11 ปี นักแสดงสมทบจาก รร.ภัทราวดี หัวหิน

      เบียร์-อดิเทพ เอี่ยมสุวรรณ์ อายุ 11 ปี นักแสดงสมทบจาก รร.ภัทราวดี หัวหิน มัธยมศึกษาปีที่ 1 รับบทเด็กพิการไร้ขา ถือไม้เท้า จอมเกเร หนีโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนๆ จอมทโมนทั้งหลาย เป็นเด็กยะลา เข้ามาเรียนที่ รร.ภัทราวดี หัวหิน พร้อมพี่สาว แต่ก่อนมาจาก รร.มานะศึกษา ยะลา ลุงเป็นผู้แนะนำให้มาเรียนที่ รร.ภัทราวดี หัวหิน เพราะเห็นว่ามีพรสวรรค์ในด้านการแสดง มาเรียนได้ 2 ปีครึ่งแล้ว ชอบเรียนที่ รร.นี้ เพราะสอนด้านการแสดงและฝึกซ้อมให้กล้าแสดงออก ช่วงเรียนพ่อแม่มาเยี่ยม.

 

 

ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน

ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและภาพยนตร์)ประจำปี 2557

      ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ละครเวทีและภาพยนตร์ประจำปี 2557 ผู้กำกับการแสดงละคร เสน่ห์...รอยร้าว สสส.เป็นผู้สนับสนุน ครูเล็กเป็นบุตรสาวคนเล็กของ คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ-สะอาด มีชูธน อธิบดีกระทรวงอุตสาหกรรม วิศวกรนักเรียนทุนพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพอร์ดู สหรัฐ ครูเล็กเกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ค.2491 ปีชวดวัย 72 ปี มีพี่สาว 1 คน อายุมากกว่า 3 ปี สุภาพรรณ พิชัยรณรงค์สงคราม ดูแลกิจการบริษัทเรือข้ามฟากเจ้าพระยา จำกัด ฯลฯ 

      ด้วยวิถีชีวิตที่อยู่ใกล้วัดระฆังฯ ทำให้ภัทราวดีได้ใกล้ชิดกับศิลปะพื้นบ้านอย่างลิเก เพราะมีลิเกแวะเวียนกันมาเปิดวิกที่ลานวัดระฆังฯ เป็นประจำ คณะหอมหวน มีดนตรีปี่พาทย์ ทั้งนี้ โครงการต่อไปที่ภัทราวดีจะสอนลิเกให้กับนักเรียน รร.ภัทราวดี หัวหิน คุณหญิงสุภัทราส่งภัทราวดีไปเรียนรำไทยที่วังบ้านหม้อ (ตระกูลกุญชร ณ อยุธยา) ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอได้เรียนรำฉุยฉายพราหมณ์ ศรีนวล มโนราห์บูชายัญ ระบำนกยูง รำโชว์ในงานสังคมต่างๆ ที่มารดาพาไปด้วย หรือที่เรียกว่าเป็นนางรำประจำตัวมารดา ส่วนวันธรรมดาไปเรียนหนังสือที่ รร.ราชินี ในขณะที่สุภาพรรณถูกส่งไปเรียน รร.ประจำที่ รร.วัฒนาวิทยาลัย พี่น้องทั้งสองก็ถูกส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ

      ต้นตระกูลฝ่ายมารดา คุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ เป็นแขกศรีลังกาที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารตั้งแต่สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รับราชการสืบทอดกันมาจนถึงคุณตา พระยาราชมนตรีได้เป็นข้าราชบริพารในล้นเกล้าฯ พระพุทธเจ้าหลวง ส่วนคุณยาย คุณหญิงบุญปั่น เป็นสาวเชียงใหม่ เป็นพระญาติของเจ้าดารารัศมีที่ได้ตามเสด็จฯ ลงมายังพระนคร ได้พบรักและร่วมหอลงโรงกัน ท่านทั้งสองได้สร้างครอบครัวขึ้น ณ ชุมชนวังหลัง คุณหญิงบุญปั่น แม่หญิงชาวเชียงใหม่ ลงหลักปักฐานทำธุรกิจเรือรับจ้างส่งคนข้ามฟาก เริ่มต้นด้วยเรือแจวเพียง 2 ลำ ให้บริการชาวบ้านที่ต้องการข้ามแม่น้ำจากท่าวัดระฆังฯ ไปยังท่าช้างวังหลวง ท่าเรือทุกแห่งเป็นถิ่นนักเลง มีการชิงไหวชิงพริบแย่งชิงผลประโยชน์กันตลอดเวลา ใครมาเดินเรือทับเส้นทางกันก็ฟันกันตกน้ำตกท่าให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ คุณหญิงบุญปั่นจึงต้องมีนักดาบ 4 คนคอยประกบเป็นบอดี้การ์ดคุ้มครองความปลอดภัย

      กิจการนี้เป็นมรดกตกทอดมายังคุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ บุตรสาวคนสุดท้อง พระยาราชมนตรีมีภรรยาหลายคน มีลูกหลานเป็นจำนวนมากมาย ลูกชาย 3 คนได้เป็นข้าราชการชั้นสูง บุตรสาวคนโตคือ สุมิตรา สิงหลกะ เป็นนักเปียโนเอกของประเทศในยุคนั้น นำเพลงไทยมาประยุกต์เล่นกับเปียโนจนสร้างชื่อเสียงในสมัยนั้น สมรสกับคุณพระสุจริต เมื่อมีครอบครัวก็แยกบ้านออกไป เหลือเพียงคุณหญิงสุภัทรา สิงหลกะ บุตรสาวคนสุดท้องที่อยู่ในชุมชนวังหลัง เมื่อคุณหญิงสุภัทราอยู่ในวัยเยาว์ บิดามารดาได้ถวายตัวให้เป็นข้าหลวงในวังของพระนางเจ้าอินทรศักดิ์ศจี พระชายาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จนได้รับพระราชทานยศเป็น คุณ เจ้านายโปรดให้คุณหญิงสุภัทราเล่นปิงปอง ขี่ม้า อ่านหนังสือถวายพระชายาทุกค่ำคืน คุณหญิงสุภัทราได้อยู่ในวัง รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท ทำให้คุณหญิงสุภัทรามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเหนียวแน่น และถ่ายทอดปลูกฝังมายังลูกๆ ผ่านการเล่าเรื่องเมื่อครั้งถวายงานอยู่ในวังให้ฟัง

      ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง คุณหญิงสุภัทรามาเรียนวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นับเป็นสตรีในกลุ่มแรกๆ ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง

      ในยามสงครามโลกครั้งที่ 2 คุณหญิงสุภัทราไม่ได้หลบหนีไปไหน ทั้งๆ ที่บ้านอยู่ในละแวกริมฝั่งน้ำข้างวัดระฆังฯ อันเป็นเขตที่ตั้งของกรมอู่ทหารเรือ ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญซึ่งทำให้ถูกโจมตีทางอากาศอยู่เนืองๆ ชาวบ้านร้านตลาดพากันหลบหนีเข้าคลองบางกอกน้อย ทิ้งบ้านเรือนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้ร้างไว้ คุณหญิงสุภัทราไม่ยอมหนีแล้วยังรับซื้อที่ดินซึ่งมีคนนำมาขายให้ในราคาถูก เพราะเล็งเห็นว่าการทำธุรกิจเรือข้ามฟากจำเป็นต้องมีท่าเรือบนที่ดินริมฝั่งแม่น้ำเป็นของตนเอง ไม่หวังพึ่งการเช่าที่ดินของคนอื่นซึ่งไม่มีความมั่นคง จะถูกไล่เมื่อใดก็ย่อมได้

      การทำธุรกิจเรือจ้างจนถึงเรือเมล์ เรือด่วนเจ้าพระยา ด้วยยึดหลักการว่า การทำงานจะเป็นอาชีพใดก็ตาม ต้องทำให้มีเกียรติและต้องทำให้ชำนาญจนสามารถถ่ายทอดสอนคนอื่นได้ ด้วยเหตุนี้ คุณหญิงสุภัทราจึงได้ผลักดันให้ภัทราวดีจัดตั้งโรงละครภัทราวดีเธียเตอร์และสถาบันสอนศิลปะการแสดง ด้วยทุนทรัพย์ในการก่อสร้าง ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเป็น Theatre Residence จำนวน 87 ห้อง และสร้างโรงเรียนภัทราวดี หัวหิน Hua Hin Skate Park เด็กนักเรียน รร.ภัทราวดี หัวหิน (เรียนอนุบาล-ม.6) ห้องละ 15 คน ส่วนใหญ่เด็กเรียนประจำ ส่วนชั้นประถมมีเด็กนักเรียนไปกลับ เด็กที่เรียนจบแล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้คณะตามที่ต้องการทุกคน บางคนเป็นนางแบบโลก เจ้าของบริษัทธุรกิจขนาดใหญ่

      ครูเล็ก ภัทราวดี มีชูธน มีบุตรทั้งหมด 4 คน แวววดี (โม) ศรีไตรรัตน์ สมรสกับวิบูลย์ (บุ้ง) เตชะกัลยาธรรม (ผู้ออกแบบ Theatre Residence และ Putahracsa Huahin พันต่อ (ฟาน) ศรีไตรรัตน์ มังกร ทิมกุล ภัทรวรินทร์ (เมย์) ทิมกุล และมีหลานทั้งหมด 7 คน หลาน 4 คนเรียนที่ รร.ภัทราวดี หัวหิน ขณะนี้หลาน 3 คนเรียนอยู่ต่างประเทศ อาทิ ภัทรกร (เฟียม) ภัทรนาวิก บุตรชายเมย์-ภัทรวรินทร์ ทิมกุล เรียนที่เบิร์กเลย์ สาขาดนตรี 

 

ค้นคว้าในหอสมุดปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จากหนังสือความคิด ชีวิต ตัวตน ภัทราวดี ตอนเด็กหญิง ณ ริมน้ำ ภาณิศา ภูวภิรมย์ขวัญ เรียบเรียง

บ.ฟรีมายด์พับลิชชิ่ง จำกัด หนังสือส่องใจ ฯลฯ

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), รร.ภัทราวดี หัวหิน : ภาพ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"