'ดร.นิว'ชำแหละสิ่งที่เลวร้ายกว่าโคโรนาไวรัสคือ'ชาวลิเบอร่าน'ปล่อยข่าวปลอม ทำตัวเป็นปรสิตของชาวโลก


เพิ่มเพื่อน    

4 ก.พ.63- ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  Suphanat Aphinyan ระบุว่า  #สิ่งที่เลวร้ายกว่าโคโรนาไวรัส

โลกทั้งใบกำลังจับตามองโคโรนาไวรัสกันอย่างใกล้ชิด เพราะว่ามีสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าโคโรนาไวรัสอยู่ซึ่งนั่นก็คือ...การกลายพันธุ์ของโคโรนาไวรัสที่อาจจะเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ

จึงนับได้ว่าการเผชิญหน้ากับโคโรนาไวรัสที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้เป็นหน้าที่ของมนุษยชาติทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้...โดยไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม

เพราะถ้าหากสิ่งที่โชคร้ายที่สุดเกิดขึ้น...โคโรนาไวรัสกลายพันธุ์ขึ้นมาจริงๆจนกลายเป็นไวรัสชนิดใหม่ที่อันตรายร้ายแรงยิ่งกว่าเดิมจนไม่อาจควบคุมได้...ในที่สุดก็คงไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ได้เลย

การที่โคโรนาไวรัสระบาดขึ้นที่ประเทศจีนนั้นนับเป็นทั้งความโชคร้ายและความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในเวลาเดียวกันของประเทศจีนที่มีต่อคนทั้งโลกในการควบคุมและยับยั้งโรคระบาดนี้ให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งโคโรนาไวรัสระบาดมากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ โอกาสในการกลายพันธุ์ก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้น...เราในฐานะมนุษย์คนนึงบนโลกใบนี้ที่มีจิตสำนึกต่อปัญหาระดับโลกที่กำลังดำเนินอยู่ และรู้สึกขอบคุณต่อเพื่อนมนุษย์จำนวนมากมายที่กำลังทำงานกันอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตลอดจนโลกทั้งใบให้รอดพ้นจากไวรัส สิ่งที่เราสามารถทำได้บ้าง แม้ว่าจะเป็นน้ำใจเพียงแค่เล็กน้อยที่อาจจะไม่ได้ลงทุนอะไรเลยก็ตามที แต่มันก็นับเป็นการแสดงออกอันดีงามที่กลั่นออกมาจากจิตสำนึกของความเป็นมนุษย์ที่เรามี

ในขณะที่ความเป็นมนุษย์ของผู้คนจำนวนมากกำลังเพิ่มมากขึ้น...ตั้งแต่บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลทั้งในประเทศจีนและทุกประเทศทั่วโลกที่กำลังทำงานภาคสนามกันอย่างหนักเพื่อคัดกรอง, รักษา และยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์...
ตลอดจนกระทั้งมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ที่มีจิตสาธารณะและส่งกำลังใจไปถึงเพื่อนมนุษย์ที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาดังกล่าวอยู่ในขณะนี้

แต่ความเป็นมนุษย์ของคนกลุ่มหนึ่งกลับกำลังลดน้อยถอยลงไปทุกขณะ...

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่บรรดาเด็กและผู้ใหญ่เหลือขอชาวลิเบอร่านที่ชอบอวดอ้างประชาธิปไตยจอมปลอมและใช้ชีวิตสิงอยู่ตามหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆกลับแสดงพฤติกรรมกักขฬะต่ำตมสวนกระแสความดีงามของมนุษยชาติ เพราะแม้แต่จิตสำนึกขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ รวมถึงมารยาทสากลขั้นพื้นฐานทางสังคมมนุษย์ก็ยังไม่มีเลย...

แม้ว่าเราอาจจะกำลังสงสารประเทศจีนที่โชคร้ายกับการประสบปัญหาโคโรนาไวรัสอย่างใหญ่หลวงในครั้งนี้

แต่บางที...ประเทศที่โชคร้ายและอาจจะน่าสงสารที่สุดในโลกในเวลานี้อาจจะไม่ใช่ประเทศจีนหรือประเทศใดๆ

หากแต่เป็นประเทศไทยของเรานี่เองที่มีชาวลิเบอร่าน อีกทั้งนักการเมืองจำนวนไม่น้อยที่ใช้ข่าวปลอมเกี่ยวกับโคโรนาไวรัสเป็นอาวุธทางการเมืองอย่างไม่มีความละอายใดๆ

ถ้าทุกท่านลองถอดรหัสDNAของชาวลิเบอร่านเหลือขอผ่านลักษณะพฤติกรรมการใช้โซเชียลที่เกรียนและกักขฬะ ก็จะค้นพบได้ไม่ยากว่า...

เหล่าลิเบอร่านยังห่างไกลจากคำว่า "ประชาธิปไตย" ยิ่งนัก

เพราะแค่จิตสำนึกพื้นฐานของความเป็นคนกับมารยาทสากลแบบตื้นๆยังไม่มีเลย!

หรือบางทีลิเบอร่านพวกนี้อาจจะไม่ใช่เพียงแค่ปรสิตหรือกาฝากของประเทศไทยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น...แต่อาจจะเป็นปรสิตของชาวโลกทั้งใบก็เป็นได้

ถ้าไม่เชื่อลองเอาพฤติกรรมเหล่านี้ไปถามชาวโลกเขาดูก็ได้ครับ...

เพราะผมได้ลองเล่าพฤติกรรมป่วยๆของชาวลิเบอร่านให้ทั้งเพื่อนชาวจีนและชาวอเมริกันที่เป็นลิเบอรัลจริงๆฟังแล้ว...ทุกคนล้วนแต่ประณามความยอดแย่ต่ำตมของชาวลิเบอร่านเป็นเสียงเดียวกันด้วยสีหน้างงงวยกับพฤติกรรมวิปริตวิปลาสที่ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเหมือนๆกัน.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"