ตีวงแคบบุกฆ่ากำนันเตี้ย งมพบเพิ่มชิ้นส่วนจยย.


เพิ่มเพื่อน    


    ประดาน้ำปูพรมงมหาหลักฐานเพิ่มในอ่างเก็บน้ำที่อุดรธานี หลังพบจักรยานยนต์ของมือปืนยิงกำนันเตี้ยถูกนำไปทิ้งไว้ รู้ตัวเจ้าของแล้ว บิ๊กแป๊ะนัดลงพื้นที่ติดตามคดี ลูกสาวยันจะไม่เผาศพแม่จนกว่าจะจับคนร้ายได้
    มีรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกยิงนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี หรือกำนันเตี้ย กำนันตำบลผาตั้ง ที่บ้านพักซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เลขที่ 152 หมู่ 6 บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเมื่อบ่ายวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ได้พบรถจักรยานยนต์และหมวกกันน็อกของคนร้ายถูกทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ หมู่ 3 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเมื่อบ่ายวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยประจักษ์หนองคาย ได้สำรวจพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยสระคลองใหญ่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดประดาน้ำจะลงดำน้ำค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม
    ข่าวแจ้งว่า รถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่เจ้าหน้าที่พบได้นำไปเก็บไว้ที่ สภ.สังคม โดยมีการระดมเจ้าหน้าที่ออกติดตามหาคนที่ครอบครองรถเป็นคนสุดท้าย เพื่อจะเชื่อมโยงหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวเจ้าของรถจักรยานยนต์คนแรกแล้ว ส่วนเป้าที่ตำรวจตั้งไว้ 3-4 เป้า ก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประกบติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนการสอบปากคำญาติผู้ตายและผู้ใกล้ชิดกับเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ได้สอบแล้วรวม 7 ปาก
    พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า เนื่องจากคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์มาทิ้งไว้ในอ่างเก็บน้ำ โดยได้ถอดล้อออกสองข้าง จึงคาดว่าคนร้ายอาจจะทิ้งหลักฐานสำคัญของคดีภายในอ่างเก็บน้ำอีก จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดประดำน้ำค้นหาอาวุธปืน, ล้อรถจักรยานยนต์ทั้งสองข้าง, กระจกมองข้างรถ และท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ หรืออุปกรณ์รถ หากพบชิ้นส่วนใดให้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเกี่ยวพันกับคดีเอาไว้ก่อน 
    หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ลงดำน้ำค้นหา โดยจัดวางกำลังเป็นหน้ากระดานค้นหาในรัศมี 500 เมตรก่อน โดยสภาพภายในอ่างเก็บน้ำ ระดับน้ำประมาณ 1-3 เมตร ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่ค้นหา ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงที่ทราบข่าวได้มาดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
    คดีนี้เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญประชาชน และประชาชนให้ความสนใจมาก โดยในเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ก.พ.นี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตัวเอง ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย
    ส่วนที่บ้านของกำนันเตี้ย สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพกำนันเตี้ยซึ่งอยู่กลางบ้าน นายพิเดช วงค์ศิริ อายุ 53 ปี สามีของกำนันเตี้ย ได้จุดธูปและเคาะโลงศพบอกภรรยาให้รับรู้ว่าตำรวจพบหลักฐานสำคัญของคดีบ้างแล้ว พร้อมขอให้ดวงวิญญาณของภรรยาช่วยตำรวจตามจับผู้ร้ายที่ก่อเหตุได้ในเร็ววัน
    นายพิเดชกล่าวว่า ขณะนี้ได้ขอกำลัง ชรบ.6 นายมาช่วยดูแลความปลอดภัย มากินนอนอยู่ที่บ้านด้วย หากเจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้ ตนก็อยากให้เขามาขอขมาดวงวิญาณของภรรยา ก่อนที่จะได้รับโทษประหารชีวิตต่อไป การทำรุนแรงกับผู้หญิงแบบนี้ถือว่าโหดร้ายมาก ทำไมต้องทำถึงขั้นฆ่ากันตายด้วย
    ขณะที่ น.ส.ศศิภา วงค์ศิริ ลูกสาวกำนันเตี้ย กล่าวว่า ตนได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าก่อนเกิดเหตุมีชายรายหนึ่ง สวมหมวกไอ้โม่งแล้วสวมทับด้วยหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนสอบถามเส้นทางว่าถนนเส้นนี้ไปไหนได้บ้าง ในละแวกนี้มีบ่อตกปลาที่เจ้าของที่ไม่หวงหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าชายคนดังกล่าวพูดภาษากลางชัดเจน ลักษณะใกล้เคียงกับคนร้ายตามภาพกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนรู้สึกดีใจที่มีความคืบหน้าในทางคดี ซึ่งหากตำรวจจับคนร้ายได้ก็อยากถามถึงสาเหตุที่ทำกับแม่ของตนเช่นนี้ และจะยังไม่เผาศพแม่จนกว่าจะจับคนร้ายได้.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"