ตำรวจป้องลูกชายผบ.ตร. ขึ้น‘สารวัตร’ตามกฎหมาย


เพิ่มเพื่อน    

  สะพัด "บิ๊กแดง" ออกกฎเหล็ก 6 ท่าต้องห้ามทหารขณะสวมเครื่องแบบ "รองโฆษก ทบ." ปัดไม่ใช่ข่าวจริง ยันกองทัพบกมีระเบียบอยู่แล้ว ไม่มีคำสั่งเฉพาะ "ประวิตร" แจง "ผบ.ตร." เสียบเก้าอี้แทนไม่ได้ เหตุติดเงื่อนไขเป็น ส.ว. "ตร." ตั้งโต๊ะป้อง "ลูกบิ๊กแป๊ะ" ขึ้นสารวัตรถูกต้องตาม กม. "รองโฆษกฯ" ร่ายยาวดีกรีเอฟบีไอ ข้องใจโดนโจมตี "นครบาล" รวบ "ทนายษิทรา" เบิกความเท็จคดียาเสพติดดารา

    ที่กองบัญชาการกองทัพบก วันที่ 4 ก.พ. มีรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) มีคำสั่งแจ้งไปยังระดับผู้บังคับกองพัน ผู้บังคับกองร้อย หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ  ขอให้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชา ในขณะที่สวมเครื่องแบบทุกชนิด ห้ามทำท่าต้องห้าม 6 ท่า เพื่อความเป็นระเบียบของกำลังพลของกองทัพบก 
    โดยท่าต้องห้าม 1.กุมมือ 2.กอดอก 3.ล้วงกระเป๋า 4.เท้าสะเอว 5.ไขว้หลัง 6.ไขว่ห้าง รวมถึงการติดเครื่องหมายแสดงความสามารถ ห้ามซื้อมาติดเอง ต้องสำเร็จตามหลักสูตรจริงเท่านั้น และงดใส่แหวน สายสิญจน์หรือสร้อยข้อมือ รวมถึงนาฬิกาใส่ได้แต่ต้องไม่มีสีฉูดฉาด หรือใส่เพื่อแสดงถึงฐานะ สร้อยคอใส่ได้ แต่ต้องไม่สั้นขึ้นมาให้เห็นอยู่บนเสื้อ และต้องไม่ใส่เพื่อแสดงถึงฐานะเช่นกัน
    ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาในกรมจะไม่ลงไปตรวจที่หน่วยแบบจ้องจับผิด แต่หากตรวจพบโดยบังเอิญ จะถือว่าผู้บังคับบัญชาโดยตรงของกำลังพลนั้นปล่อยปละละเลย สำหรับกำลังพลที่กระทำผิดระเบียบจะส่งไปเข้าฝึกทบทวน และให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรงเป็นผู้ฝึก ทั้งนี้ ขอให้ ผบ.ร้อย./ฝอ. กำกับดูแลให้เป็นไปตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
    อย่างไรก็ตาม ต่อมา พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ออกมาชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏในสื่อบางสำนักที่ได้นำเสนอข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ผู้บัญชาการทหารบกมีคำสั่งแจ้งไปยังผู้บังคับหน่วย ห้ามทหารทำกิริยา 6 ท่าต้องห้าม ขณะสวมเครื่องแบบ โดยมีรูปภาพประกอบทั้ง 6 ท่านั้น
    "ขอเรียนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้มีสั่งการใดๆ ทั้งนี้ กองทัพบกมีกฎระเบียบที่เกี่ยวกับการแต่งกายและการประพฤติปฏิบัติติตนในระหว่างสวมใส่เครื่องแบบทหารที่ให้กำลังพลยึดถือปฏิบัติเป็นภาพรวม ไม่ได้มีคำสั่งเฉพาะเจาะจงในเรื่องใด โดยการแต่งเครื่องแบบต้องเป็นไปตามระเบียบ แบบธรรมเนียม เหมาะสมกับสถานที่ราชการ" พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าว
    รองโฆษก ทบ.กล่าวว่า ผบ.ทบ.มีนโยบายและได้กำชับหน่วยงานของกองทัพบกอยู่เสมอ ให้กำลังพลแต่งกายตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความสง่างามและมีวินัย รวมถึงการแสดงตนในสถานที่สาธารณะให้เป็นไปตามแบบธรรมเนียมทหาร เพื่อภาพลักษณ์ที่ดี กองทัพบกจึงขอแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องให้สังคมได้ทราบ ขอความร่วมมืองดส่งต่อข่าวเท็จดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ลักษณะท่าทางที่ไม่สุภาพหรือการปฏิบัติผิดมารยาททางสังคมก็เป็นเรื่องที่ ทุกคนควรหลีกเลี่ยง
    ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวจะถูกปรับจองจากรัฐมนตรีและให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มาเป็นรองนายกฯ แทนว่า เรื่องนี้ถามกันมาหลายครั้ง ตนเคยตอบไปหมดแล้ว ส่วนที่มีกระแสข่าวดังกล่าวออกมาบ่อยครั้ง คงเพราะตนตกเป็นเป้า ซึ่งก็แล้วแต่ ถ้าเห็นว่าตนยังมีประโยชน์ก็พร้อมทำงานต่อ แต่หากเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์ก็พร้อมออก
    "พล.ต.อ.จักรทิพย์จะมาเป็นไปได้อย่างไร เนื่องจากเป็น ส.ว. หากลาออกมาต้องเว้นวรรค 2 ปี" พล.อ.ประวิตรกล่าว
    ถามถึงมีการวิจารณ์การแต่งตั้งบุตรชาย พล.ต.อ.จักรทิพย์เป็นสารวัตรโดยไม่ยึดกฎเกณฑ์หลักความอาวุโส พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนั้นเขาย้ายไปเป็น ตชด. สามารถดำเนินการได้ เพราะมีระเบียบรองรับ
    "ถ้าเป็นลูกคุณ คุณรักมั้ย และเขาก็ทำงานดี ยืนยันว่าไม่ได้แต่งตั้งโยกย้ายข้ามหัวตำรวจที่มีความอาวุโสกว่า เพราะเป็นคนละหน่วยกัน” พล.อ.ประวิตรกล่าว
    ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผู้บังคับการกองทะเบียนพล (ผบก.ทพ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวชี้แจงกรณี ร.ต.อ.ชานันท์ ชัยจินดา บุตรชาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขึ้นเป็น ผบ.ร้อย กก.3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (สอ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทั้งที่ยังดำรงตำแหน่งรอง สว.ไม่ครบ 7 ปีตามหลักเกณฑ์แต่งตั้ง
    พล.ต.ต.เดชากล่าวว่า การแต่งตั้ง ร.ต.อ.ชานันท์ให้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เนื่องจาก ร.ต.อ.ชานันท์มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติหน้าที่ มีภาวะผู้นำและเป็นที่ยอมรับของผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา โดยสำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับผู้นำหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เพื่อรองรับภารกิจสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งได้ผ่านหลักสูตรต่อต้านการก่อการร้าย หรือนเรศวร 261
    "ประกอบกับ ร.ต.อ.ชานันท์ รักษาการตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยมาเป็นเวลา 1 ปีเศษ ตั้งแต่ 25 มี.ค.2561 ในขณะที่รักษาการในตำแหน่งดังกล่าวก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ มีประสิทธิภาพ จนได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาว่ามีความเหมาะสมที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ แต่เนื่องจากการแต่งตั้งดังกล่าวไม่เป็นไปตามกฎ ก.ตร. ทาง ตร.จึงได้เสนอ ก.ตร.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งดังกล่าว ซึ่งทาง ก.ตร.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งตามที่ ตร.เสนอ" พล.ต.ต.เดชากล่าว
    ผบก.ทพ.กล่าวว่า ในส่วนระยะเวลาการดำรงตำแหน่งรอง สว.ไม่ครบ 7 ปี ไม่เป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ในส่วนนี้ทาง ตร.ได้นำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณา ซึ่ง ครม.มีการประชุมเมื่อวันที่ 30 เม.ย.2562 มีมติอนุมัติการแต่งตั้งตามที่ ตร.เสนอ ขอยืนยันว่าการแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ร.ต.อ.ชานันท์มีความรู้ความสามารถ จบหลักสูตรพลซุ่มยิงจากประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ผู้บังคับหน่วยต้องผ่านในการปฏิบัติหน้าที่ใน กก.3 บก.สอ.บช.ตชด.ผ่านหลักสูตรเอฟบีไอจากสหรัฐ ผ่านหลักสูตรการสืบสวนหลังเหตุระเบิด ซึ่งตำแหน่งดังกล่าวไม่ใช่ว่าใครจะเป็นก็ได้ การเอาคนในขึ้นดำรงตำแหน่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เห็นว่าผู้ที่มานำหน่วยต้องมีความพิเศษจริงๆ 
    "คนอย่างลูกชาย ผบ.ตร. พูดกันตรงๆ ท่านจะแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งใดก็ได้ หากแต่งตั้งตามอำเภอใจตามที่สื่อนำเสนอ ไปอยู่ที่สบายๆ ดีกว่า ทำไมจึงไม่มีใครถามว่าถึงไปอยู่ ตชด. สำหรับคนอื่นที่มีลักษณะพิเศษแบบนี้ก็ได้รับการแต่งตั้งในลักษณะแบบนี้เหมือนกัน จึงมีข้อสังเกตว่าการแต่งตั้งผ่านมาตั้งแต่ 30 เม.ย.2562 ทำไมเพิ่งมาออกข่าวในช่วงนี้" รองโฆษก ตร.กล่าว
    วันเดียวกัน เวลา 15.30 น. พ.ต.อ.ถนัด รักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 นำกำลังตำรวจเข้าจับกุมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ที่สำนักงานกฎหมาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขที่ 67/4 ถนนเศรษฐกิจ 1 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมีนบุรี ในข้อหาให้การเท็จในศาล จากกรณีที่ทนายษิทรากับพวกรวม 4 คน รับวิ่งเต้นคดีหรือค้าสำนวนคดียาเสพติด ที่มีนาย ท. ว่าจ้างทีมทนายความที่มีนายษิทรา และทนาย อ. ให้เข้าไปพูดคุยกับนายปุณยวัจน์ หิรัณย์เตชะ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดในเรือนจำ เพื่อให้รับผิดคดียาเสพติด และบิดเบือนสำนวนช่วยเหลือดาราสาวคนหนึ่งที่ถูกจับในคดีร่วมกันค้ายาเสพติด ให้เหลือเพียงข้อหาเสพยาเสพติดเท่านั้น ในข้อหาตามมาตรา 183 ฐานร่วมกันนำสืบและแสดงพยานหลักฐานที่เป็นเท็จและเบิกความต่อศาลด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ศาลมีนบุรี ซึ่งอนุมัติหมายจับ ลงวันที่ 3 ก.พ.2563
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายษิทรามาลงบันทึกประจำวันที่ สภ.กระทุ่มแบน และคุมตัวไปยัง สน.มีนบุรี ตามหมายจับ
    ต่อมานายษิทราโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ตำรวจขอศาลออกหมายจับผมคดีปลอมเอกสาร ที่ไม่เกี่ยวกับผมเลย ตอนนี้กำลังนำตัวผมไป สน.มีนบุรี #กลั่นแกล้งกันขนาดนี้เลย".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"