
หนุ่มโรคจิตโพสต์ภาพทารุณนกแก้วค็อกคาเทล ใช้มือดีดหัว บีบตัวจนตายคามือ คนรักสัตว์เชื่อทำมาแล้วหลายครั้ง วอนผู้มีเบาะแสแจ้งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีข้อหาทารุณสัตว์ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ฯ รณรงค์เลิกปล่อยนกที่ผู้ค้าจับมาขาย ชี้ได้บาปมากกว่าบุญ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เปิดเผยเรื่องราวโพสต์ของชายคนหนึ่งที่ได้อัดคลิปวิดีโอและนำไปโพสต์ตามกลุ่มต่างๆ โดยคลิปที่โพสต์เป็นคลิปการทรมานนกหลายชนิด โดยใช้การใช้มือดีดหัว บีบอย่างแรงจนเลือดออกและตายคามือ ซึ่งผู้โพสต์ได้เรียกร้องให้ช่วยกันตามหาชายคนดังกล่าวเพื่อนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย และเชื่อว่าชายผู้นี้ได้ทรมานนกจนตายไปหลายตัวแล้ว
“#ฝากแชร์ตามหาคนที่ขายนกให้xxx คนนี้เผื่อจำนกได้ช่วยติดต่อมาด้วยค่ะ ใจสลายเลย xxx จนป่านนี้ก็ยังไม่กล้าดูคลิป ทำร้ายน้องแบบนี้ทำไม เหมือนจะเป็นโรคจิตฆ่านกหลายตัวแล้วไปโพสต์ในกลุ่มต่างๆ จิตใจทำด้วยอะไร ฆ่านกพันธุ์ไหนก็ไปโพสต์ในกลุ่มนั้น ตามหาร้านขายนก ที่มีนกค็อกคาเทลสีนี้ แล้วใช้ห่วงขาสีน้ำเงิน แน่ใจได้เลยว่ามันคงไม่ได้เลี้ยงตั้งแต่ลูกป้อน คงซื้อมาตอนโต เพราะมันซื้อมาฆ่าหลายตัวแล้ว ไม่ใช่แค่ตัวนี้ตัวเดียว xxx จะตามหา xxx จนเจอ ช่วยๆ กันคะ ร้านไหนขายนก ช่วยกันดูด้วยค่ะ มันโหดร้ายเกินไป #ฝากแช์รด้วยคะ #ที่เซ็นเซอร์หน้าไว้เพราะอาจจะเป็นเฟซปลอมเอารูปคนอื่นมาลง"
ด้าน ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากกรณีคลิปที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับคนใช้มือบีบและดีดนกแก้วค็อกคาเทลจนเสียชีวิตนั้น สมาคมฯ เห็นว่าเรื่องดังกล่าวถ้าเป็นเรื่องจริงตามที่เสนอในโลกออนไลน์ ในแง่มนุษยธรรมเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจพอสมควร เพราะมนุษย์ควรปฏิบัติต่อสัตว์อย่างมีมนุษยธรรมและเมตตาธรรม ทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าเสมอ การเลี้ยงสัตว์ควรมีความรับผิดชอบ มีความพร้อม และควรเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นให้ดีตลอดจนสิ้นอายุขัย ยิ่งอีกไม่กี่วันก็เป็นวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้แสดง “โอวาทปาติโมกข์” อันเป็นหลักคำสอนสำคัญที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนาแก่ที่ประชุมพระสงฆ์ เพื่อวางจุดหมาย หลักการ และวิธีการ ในการเข้าถึงพระพุทธศาสนา ซึ่งล้วนแต่ให้ทุกคนมุ่งกระทำกรรมดี ละเว้นความชั่ว
"โดยเฉพาะศีลข้อ 1 ปาณาติปาตา อันหมายถึง การฆ่าสัตว์ ที่กระทำด้วยการมีเจตนาเป็นสำคัญ ประกอบด้วย สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตที่คิดจะฆ่านั้นยังมีชีวิต ยังมีลมหายใจ คนที่คิดจะฆ่านั้นรับรู้ว่าสัตว์นั้นยังมีชีวิต ผู้ที่ฆ่าสัตว์นั้นเป็นผู้มีเจตนาประสงค์จะทำให้ตาย หรือผู้ที่คิดจะฆ่ามีความพยายามที่คิดจะฆ่า ทั้งการพยายามฆ่าด้วยตนเองหรือวานให้ผู้อื่นกระทำให้ และสัตว์นั้นตายด้วยการถูกลงมือฆ่านั้น ย่อมผิดศีลธรรมตามหลักพระพุทธศาสนา"
ดร.สาธิตกล่าวว่า ในแง่สังคม สมาคมฯ พยายามผลักดันให้เกิด พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ก็เพื่อป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุสมควรเช่นนี้ และพยายามรณรงค์ด้วยวิธีการต่างๆ รวมทั้งปลูกฝังความรักและเมตตาสัตว์ให้เด็กและเยาวชนเมตตาสัตว์และรักสัตว์อย่างรับผิดชอบ รวมถึงการจัดทำภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกับเรื่องนก ก็เพื่อจะให้ทุกคนเข้าใจในวิถีชีวิตของสรรพสัตว์น้อยใหญ่ เพื่อนร่วมโลกของเราควรต้องอยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูลตามวิถีทางตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น เพื่อให้เกิดความสมดุลและปกติสุข
“ในแง่กฎหมาย ถ้ามีการพิสูจน์ได้ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคลิปนั้น และมีการติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ให้ผู้พบหรือรู้เห็นคลิปดังกล่าวนั้น กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ตามมาตรา 2 (8) ป.วิอาญา เพื่อดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ตามมาตรา 3 การทารุณกรรม หมายถึง การกระทำหรืองดเว้นการกระทำใดๆ ที่ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจ ได้รับความเจ็บปวด ความเจ็บป่วย ทุพพลภาพ หรืออาจมีผลทำให้สัตว์นั้นตาย ตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ” ดร.สาธิตกล่าว
สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) แจ้งด้วยว่า ในโอกาสวันสำคัญทางศาสนา เนื่องในเทศกาล “วันมาฆบูชา” ประจำปี 2563 นี้ สมาคมฯ ได้จัดรณรงค์กิจกรรม “ทำบุญไม่ทารุณสัตว์” มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สนับสนุนให้มีมติมหาเถรสมาคม ที่ 410/2561 ในการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัดจนเป็นผลสำเร็จ โดยกำหนดให้เขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขาย และปล่อยสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
อีกทั้งสมาคมฯ ได้จัดทำภาพยนตร์สั้น “ปล่อยนก บุญหรือบาป?” และ “รักไม่ปล่อย” มุ่งเน้นให้คนในสังคมให้เกิดค่านิยมทำบุญไม่ทารุณสัตว์ เปลี่ยนแนวความคิดและพฤติกรรมของคนไทยให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการทำบุญที่ถูกต้อง และยุติการจับนกเพื่อมาปล่อย ซึ่งเป็นความเชื่อเรื่องการปล่อยสัตว์จะได้บุญและเป็นมงคลแก่ชีวิต ซึ่งการทำบุญรูปแบบใดก็ตามควรทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ วัตถุทานที่บริสุทธิ์ ไม่สร้างความเดือดร้อนตัวเองและเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ในการจับสัตว์มาเพื่อเป็นตัวแทนของการทำบุญสะเดาะเคราะห์ ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานและอาจเป็นการพรากชีวิตอีกหลายชีวิต
ควรคิดอย่างรอบคอบก่อนจะตกเป็นเหยื่อของการทำบุญที่อาจจะได้ “บาป” มากกว่า “บุญ” นอกจากสัตว์ที่ถูกจับมามักจะไม่รอด และมีความเสี่ยงสูงกับการถูกจับมาขายซ้ำใหม่ นกที่นำมาปล่อยนั้นเกือบทั้งหมดเป็นนกที่ถูกจับมาจากธรรมชาติ และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง นอกจากจะไม่ได้บุญแล้วยังเป็นการทำผิดกฎหมายด้วย.
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |