ผ่าน 2 วันช่วงเฝ้าระวัง 138 คนไทยจากอู่ฮั่น ทุกคนแข็งแรง ยังไม่พบเชื้อโคโรนา "บิ๊กตู่" เผยอาเซียนมีกลไกรับมือปัญหาไวรัส สั่ง "มท.-พณ.-ผู้ว่าฯ" สำรวจร้านค้าทั่ว ปท.ขายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ฮึ่ม! ฟัน จนท.ปล่อยกักตุนขึ้นราคา หลายหน่วยเร่งทำหน้ากากแจก ปปช. "โฆษกสถานทูตจีน" แถลงซาบซึ้งไทยไม่ทอดทิ้งยามทุกข์ยาก จำนวนผู้เสียชีวิตภายในจีนเพิ่มเป็น 563 ราย ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3,694 ราย รวมเป็น 28,018 ราย ส่วนนอกดินแดนจีนติดเชื้อเกือบ 260 ราย ภายใน 31 ประเทศ 

    เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ประจำวันว่า ตัวเลขผู้ป่วยยืนยันที่ 25 คน กลับบ้านแล้ว 9 คน อยู่ในโรงพยาบาล 19 คน โดยมีเข้าเกณฑ์เพิ่มเป็น 595 คน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขยังคงให้ความสำคัญ คือ 1.การตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังผู้เดินทางต่อเนื่อง และ 2.จะรักษาผู้ป่วยทุกคนจนกว่าจะยืนยันได้ว่าไม่แพร่เชื้อจึงจะให้กลับบ้าน 
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ กล่าวว่า เราต้องไม่ยอมแพ้ต่อเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนคนไทยที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นทั้ง 138 คน หากถึงวันที่ 20 ก.พ. ผลตรวจเชื้อทุกวันไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนาก็จะให้ทุกคนกลับบ้าน 
    "กรมสุขภาพจิตรายงานมาว่าทุกคนมีสุขภาพจิตแข็งแรง กำลังใจดี ขอให้ญาติ คนใกล้ชิด และเพื่อน ไม่ต้องวิตกกังวล นายกรัฐมนตรีก็สั่งการให้ดูแลให้สะดวกสบายมากที่สุด มั่นใจว่าถ้ามีเวลานายกรัฐมนตรีคงจะไปให้กำลังใจด้วยตนเอง" นายอนุทินกล่าว
    ส่วนที่สโมสรโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 พร้อมด้วย พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ, พล.ร.ต.เกิดศักดิ์ วียะโยธิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ แถลงความคืบหน้าการดูแลคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่นทั้ง 138 คน
    นพ.สุเทพกล่าวว่า สธ.ได้ตรวจสุขภาพคนไทยจากอู่ฮั่นเป็นชาย 30 คน หญิง 104 คน อายุระหว่าง 6 เดือนถึง 53 ปี โดยได้ร่วมกับกองทัพเรือ จัดแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดูแลผู้เข้าเกณฑ์สงสัยเฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิต พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพพร้อมจัดยาให้ผู้ที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่อง 4 คน ได้แก่ โรคหอบหืด ไทรอยด์เป็นพิษ ฮอร์โมนรักษามะเร็งไทรอยด์ กระเพาะอาหารอักเสบ ยาบำรุงครรภ์
    “จากการพูดคุยกับคนไทยกลุ่มนี้ พบมีกำลังใจดี คิดถึงบ้าน มีนอนไม่หลับบ้าง แต่ก็ขอบคุณและพร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดเพื่อให้ปลอดภัยการควบคุมป้องกันที่มีประสิทธิภาพ โดยทางศูนย์ได้เปิดให้ญาติติดต่อผู้ประกันผ่านระบบ video call center ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00- 19.00 น. ของทุกวัน โดยทางญาติสามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-3843-7172 " นพ.สุเทพกล่าว
    พล.ร.ต.เกิดศักดิ์กล่าวถึงอาการคนไทย 4 คนที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ว่า เช้าวันนี้ทุกรายไม่มีไข้ อาการไอลดลง อาการท้องเสียลดลง ผลเอกซเรย์ปอดพบผิดปกติเล็กน้อย 1 คน ส่วนผลตรวจไวรัสทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นไม่พบเชื้อ
    ต่อมาช่วงบ่าย ที่บ้านพักทหาร ฐานทัพเรือสัตหีบ นายอนุทิน พร้อมคณะจาก สธ. ได้เข้าเยี่ยมกลุ่มคนไทยทั้งหมด พร้อมทั้งมอบโทรศัพท์ส่วนตัวของทุกคน ซึ่งนำไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามขั้นตอนคืน พร้อมทั้งจัดซิมเติมเงินจำนวน 200 บาท สำรองไว้ให้ในการติดต่อญาติพี่น้องตามที่ทั้งหมดร้องขอ
ขู่ฟัน จนท.ปล่อยตุนหน้ากาก
    ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้า นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อให้ข้อมูลที่จะมีการพูดคุยกับนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ถึงแนวทางความร่วมมือ
    จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์โพสต์ข้อความผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า "เช้านี้ผมได้พูดคุยหารือกับประธานาธิบดีอินโดนีเชีย @jokowi เกี่ยวกับแนวทางของ #ASEAN ที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยเฉพาะในเรื่องของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางที่มีอยู่ เกี่ยวกับแนวทางการรักษาที่ประสบผลสำเร็จและมาตรการต่างๆ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือประชาชนของประเทศสมาชิก โดยผมได้เน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของ host country #จีน และกลไกอาเซียน+3 ที่มีการใช้อยู่แล้วครับ"
    พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการใช้กลไกอาเซียนในการแก้ไขปัญหาไวรัสโคโรนาว่า เรื่องนี้มีการอัพเดตและพูดคุยกันมาตลอด โดยกลไกต่างๆ ของอาเซียนมีอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้แต่ละประเทศก็มีการแก้ปัญหากันอยู่
    พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ทวีตข้อความและโพสต์เฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ว่า  “หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศให้หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเป็นสินค้าควบคุม และผมได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เร่งจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจร้านจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ โดยหากพบว่ามีการขึ้นราคาหรือกักตุนสินค้าให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด หลังจากนี้หากพื้นที่ใดยังมีการร้องเรียนในเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ผมจะถือว่าเป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นครับ"
    นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ห่วงใยสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน โดยเน้นการป้องกันตนเองเป็นสำคัญ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดหาหน้ากากอนามัยและแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง เช่น จังหวัดใหญ่ๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยในส่วนของกระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้กรมแพทย์ทหารบก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก จัดกำลังพลออกแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เริ่มต้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีประชาชนและนักท่องเที่ยวหนาแน่น ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.-วันที่ 8 ก.พ. กระจายไป 18 จุด จุดละ 2,500 ชิ้น รวม 45,000 ชิ้น 
    โดยวันที่ 6 ก.พ. ช่วงเช้า 07.00-09.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ รร.สันติราษฎร์ฯ ช่วงบ่าย 15.00-17.00 น. ที่ตลาดประตูน้ำ สถานี BTS อารีย์ ถนนสีลม, วันที่ 7 ก.พ. ช่วงเช้า 07.00-09.00 น. ที่ รร.สวนมิสกวัน สถานี BTS พญาไท สะพานควาย ช่วงบ่าย 15.00-17.00 น. ห้างมาบุญครอง ตลาดประตูน้ำ และสวนสันติภาพ และวันที่ 8 ก.พ. ช่วงเช้า 08.00-10.00 น. ที่ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ตลาดนัดจตุจักร และตลาดราชวัตร และช่วงบ่าย 15.00-17.00 น. ห้างเซ็นทรัลเวิลด์สยามสแควร์ ตลาดศรีย่าน
    "นายกฯ ยังได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดกวดขันเรื่องปัญหาการฉวยโอกาสขึ้นราคาและกักตุนหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เนื่องจากได้รับแจ้งจากประชาชนจำนวนมาก และสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าควบคุมตามกฎหมาย โดยหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดทั้งในท้องตลาดทั่วไปและตลาดออนไลน์ ให้แจ้งได้ที่กรมการค้าภายใน หรือสายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาหน้ากากอนามัยอยู่ในภาวะขาดแคลนว่า เตรียมหารือเดินหน้าโครงการแจกหน้ากากฟรี 1 ล้านชิ้น แก่ประชาชนที่ขาดศักยภาพในการเข้าถึง โดยจะเป็นหน้ากากอนามัยที่จัดหาโดยองค์การเภสัชกรรม ส่วนใครจะได้รับสิทธิ์ตรงนี้ และจะดำเนินการอย่างไร ต้องขอหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 
    "ปัจจุบันให้องค์การเภสัชกรรมผลิตหน้ากากอนามัยส่งให้ร้านค้าและร้านขายยาในเครือข่าย เพื่อจำหน่ายในราคาชิ้นละ 1 บาท มั่นใจว่ากำลังการผลิตขององค์การเภสัชกรรมจะช่วยบรรเทาปัญหาได้ สำหรับภาพรวม จากการหารือกับผู้ประกอบการ และองค์การเภสัชกรรม ประเทศไทยมีกำลังการผลิตอัตราสูงสุด 1.4 ล้านชิ้น จำหน่ายในประเทศ 1 ล้านชิ้น ด้วยจำนวนขนาดนี้ น่าจะเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ส่วนโรงพยาบาลและสถานพยาบาล ทางกระทรวงสาธารณสุขถือว่าเป็นหน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ ได้สำรองหน้ากากรอไว้แล้ว รับรองว่าไม่มีขาดแคลนแน่นอน" นายอนุทินกล่าว
จีนซึ้งไทยไม่ทิ้งยามยาก
    ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้นำหน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้าป่านมัสลิน 2 ชั้น ซึ่งผลิตโดยผู้ต้องขังหญิง ทัณฑสถานหญิงกลาง มาแจกบรรดานักข่าวประจำรัฐสภา โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า หน้ากากอนามัยที่นำมาแจกในวันนี้ ผลิตจากผ้าป่านมัสลิน 2 ชั้น ใช้แล้วสามารถนำไปซักทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ได้อีกหลายครั้ง สามารถป้องกันฝุ่นและเชื้อโรคได้ดีในระดับหนึ่ง ผลิตโดยผู้ต้องขังหญิงทัณฑสถานหญิงกลาง สามารถผลิตได้วันละประมาณ 2,000 ชิ้น จำหน่ายในราคาชิ้นละ 15 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาท้องตลาดที่ขายอยู่ประมาณชิ้นละ 25 บาท ตรงนี้ถือเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับผู้ต้องขังหญิง หากมีคนสั่งจำนวนเยอะ ก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก
    กองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้กรมแพทย์ทหารบกส่งชุดรณรงค์ป้องกันนำหน้ากากอนามัยจำนวน 45,000 ชิ้น กระจายแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ ทุกวัน ระหว่างวันที่ 6-8 ก.พ. ในพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนใช้สัญจรหนาแน่น อาทิ สถานีรถไฟฟ้า ตลาด สถานีขนส่ง เป็นต้น รวมทั้งการให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโคโรนาไวรัส รวมถึงฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วย
    กองทัพอากาศ พญ.วิไลภรณ์ วงษ์วาทย์ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ พร้อมสมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ร่วมกันตัดเย็บหน้ากากอนามัยโดยประยุกต์ใช้ฟิลเตอร์แอร์หรือแผ่นกรองติดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งมีประสิทธิภาพในการดักจับเชื้อโรคและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 หาซื้อง่าย และราคาไม่แพง เพื่อแจกจ่ายให้ข้าราชการ ทอ.และครอบครัว
    วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความแถลงการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยโฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ระบุว่า ในระหว่างการต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงฤดูหนาวนี้ ประชาชนจีนได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือที่ล้ำค่าจากวงการต่างๆ ของประเทศไทย รู้สึกอบอุ่นใจอย่างยิ่ง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชสาส์นแสดงความห่วงใยไปยัง ฯพณฯ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง เสื้อกาวน์กันน้ำและยารักษาโรคให้กับฝ่ายจีน ฝ่ายจีนเราซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง และขอขอบพระคุณยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสารให้กำลังใจถึง ฯพณฯ หลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ฯพณฯ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งสารแสดงความห่วงใยถึง ฯพณฯ ลี่ จ้านซู ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน คณะรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลและ ส.ส.หลายท่านให้กำลังใจสนับสนุนให้ประชาชนจีนผ่านพ้นวิกฤตินี้
    "พี่น้องชาวไทยจากทุกแวดวงอาชีพต่างก็แสดงออกถึงน้ำใจในการช่วยเหลือชาวจีน สิ่งเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจและความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้ชาวจีน ประชาชนชาวจีนจะไม่ลืมพี่น้องชาวไทยที่ให้ความช่วยเหลือในยามคับขันอย่างทันท่วงที ความรู้สึกรักใคร่และมิตรภาพที่ลึกซึ้งของฝ่ายไทยในยามทุกข์ยากนั้นได้อธิบายอย่างชัดเจนถึง "การลงเรือลำเดียวกัน" ระหว่างจีนกับไทย สองประเทศจะร่วมมือกันฟันฝ่าวิกฤตการณ์ จะร่วมเฝ้าสังเกตการณ์และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สมดังคำกล่าวที่ว่า จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”
    สถานทูตจีนประจำประเทศไทยระบุว่า ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกินจำนวนผู้เสียชีวิต ภายใต้การนำที่แข็งแกร่งของรัฐบาลจีน การทำงานร่วมกันของชาวจีน และการสนับสนุนจากประชาคมโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ประเทศจีนมีความมั่นใจ ความสามารถและเชื่อมั่นในศักยภาพที่จะประสบชัยชนะจากการต่อสู้กับโรคระบาดในครั้งนี้ได้ ฝ่ายจีนจะยึดมั่นในหลักการการเปิดกว้างและความโปร่งใส ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศไทยต่อไป ฝ่ายจีนหวังว่าจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายไทยเพื่อเอาชนะอุปสรรคและความยากลำบากต่างๆ ร่วมกันต้อนรับวันพรุ่งนี้ที่สดใส
ติดเชื้อนอกจีน260 ราย
     คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาภายในจีนแผ่นดินใหญ่อีก 73 รายในวันพุธที่ผ่านมา โดย 70 รายเสียชีวิตภายในมณฑลหูเป่ย์ ทำให้ล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตภายในจีนเพิ่มเป็น 563 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 3,694 ราย รวมเป็น 28,018 ราย 
     ส่วนในต่างประเทศนั้น จากการรวบรวมข้อมูลของสำนักข่าวรอยเตอร์วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเกือบ 260 ราย ภายใน 31 ประเทศและดินแดนนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดยญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุด และยอดรวมอยู่ที่ 45 ราย หลังจากคนบนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซส ที่ผู้โดยสารและลูกเรือ 3,700 คน จากกว่า 50 ประเทศ ถูกกักกันไว้นอกชายฝั่งโยโกฮามาตั้งแต่คืนวันจันทร์ ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อเพิ่มอีก 10 ราย รวมเป็นอย่างน้อย 20 รายแล้ว 
     นอกจากนี้ ยังมีเรือสำราญเวิลด์ดรีมอีกลำ พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 3,600 ชีวิต ถูกกักกันไว้นอกชายฝั่งของฮ่องกงตั้งแต่คืนวันอังคาร หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฮ่องกงตรวจพบว่าผู้โดยสารบนเรือลำนี้ 8 คนที่ลงจากเรือไปแล้วก่อนหน้านี้ติดเชื้อไวรัสด้วย ทางการฮ่องกงกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีด้วยว่า พวกเขากำลังร้องขอให้ชาวฮ่องกงราว 5,000 คนที่เคยโดยสารบนเรือลำนี้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคม ติดต่อเจ้าหน้าที่
     ขณะที่รัฐบาลไต้หวัน ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 13 ราย มีคำสั่งห้ามเรือสำราญระหว่างประเทศเทียบท่าไต้หวันแล้ว
     นอกจากเรือสำราญที่กำลังหวั่นวิตกว่าอาจเป็นสถานที่แพร่เชื้อแหล่งใหญ่ องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) กล่าวว่า พวกเขากำลังสอบสวนกรณีในสิงคโปร์ ที่พบนักธุรกิจชาวเอเชียอย่างน้อย 3 รายติดเชื้อจากการเข้าร่วมการประชุมนานาชาติของบริษัทแห่งหนึ่งที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเมื่อกลางเดือนมกราคม ซึ่งมีชาวจีนจากอู่ฮั่นเข้าร่วมด้วย ทางการสิงคโปร์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 28 รายโดยพบเพิ่ม 4 รายเมื่อวันพุธ หนึ่งในนี้เป็นทารกวัย 6 เดือนที่พ่อและแม่ติดเชื้อ สัปดาห์นี้สิงคโปร์เพิ่งรายงานกรณีการติดเชื้อจากคนสู่คนครั้งแรกในประเทศ
     ดับเบิลยูเอชโอเผยด้วยว่า วันที่ 11-12 กุมภาพันธ์นี้ผู้เชี่ยวชาญหลายร้อยคนจากทั่วโลกจะประชุมกันที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อพยายามหาวิธีต่อสู้กับการแพร่ระบาดด้วยการเร่งค้นคว้าวิจัยยาและวัคซีน นอกจากนี้คณะผู้เชี่ยวชาญนานาชาตินำโดยดับเบิลยูเอชโอจะเดินทางไปจีนด้วย.