ญี่ปุ่นติดเชื้ออื้อคาดตัวนิ่มพาหะ


เพิ่มเพื่อน    

    สังคมจีนระอุ "หลี่ เหวินเหลียง" หมอฮีโร่ผู้แจ้งเตือนการระบาดของไวรัสอู่ฮั่นจนโดนตำรวจสอบฐานปล่อยข่าวลือ เสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสมรณะจากคนไข้ ขณะยอดสังเวยในแดนมังกรเพิ่มมากกว่า 630 ราย นักวิจัยจีนเชื่อ "ตัวนิ่ม" เป็นพาหะแพร่ไวรัสติดมนุษย์ ญี่ปุ่นพบผู้โดยสารเรือสำราญติดเชื้ออีก 61 ราย
    รายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 อ้างคำแถลงของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนในวันเดียวกันว่า จีนพบผู้เสียชีวิตจากการติดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่มอีก 73 คนเมื่อวันพฤหัสบดี โดย 64 คนเสียชีวิตในเมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด และทำให้จำนวนรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 636 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อที่ผ่านการยืนยันแล้ว พบเพิ่มอีก 3,143 คน รวมเป็น 31,161 คนแล้ว
    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้โทรศัพท์สนทนากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เกี่ยวกับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขครั้งนี้ โดยผู้นำจีนเรียกร้องให้สหรัฐตอบสนองกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอย่างมีเหตุผล ส่วนทำเนียบขาวแถลงว่า ทรัมป์แสดงความเชื่อมั่นต่อความสามารถของจีนในการรับมือกับการแพร่ระบาด
    ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนแสดงความไม่พอใจโดยวิจารณ์สหรัฐว่าแพร่กระจายความตื่นตระหนกด้วยการเป็นชาติแรกที่ออกคำเตือนด้านการเดินทางและอพยพเจ้าหน้าที่การทูตออกจากเมืองอู่ฮั่น
    ไวรัสปอดอักเสบเริ่มแพร่เชื้อที่อู่ฮั่น ในมณฑลหูเป่ย์ภาคกลางของจีนตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่แล้ว และจักษุแพทย์หลี่ เหวินเหลียง วัย 31 ปี เป็นแพทย์คนแรกๆ ที่กล่าวเตือนเรื่องการแพร่ระบาดนี้ ด้วยการส่งข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับไวรัสชนิดใหม่ถึงแพทย์คนอื่นในเมืองอู่ฮั่นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ต่อมาเขาเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่โดนตำรวจเรียกเข้าให้ปากคำฐานเผยแพร่ข่าวลือ นายแพทย์หลี่ติดเชื้อไวรัสนี้หลังจากรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อ
    โรงพยาบาลกลางอู่ฮั่นประกาศข่าวทางเว่ยป๋อ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ของจีนเทียบเคียงกับทวิตเตอร์ ว่านายแพทย์หลี่เสียชีวิตแล้วเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ ข่าวนี้สร้างความเศร้าเสียใจพร้อมกับความโกรธแค้นในสังคมของจีน ผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายรายยกย่องหมอหลี่เป็นวีรบุรุษ เพื่อนหมอคนหนึ่งจากอู่ฮั่นกล่าวว่าเขาเป็นฮีโร่ผู้แลกชีวิตของตนเพื่อเตือนคนอื่นๆ ผู้ใช้เว่อป๋อบางคนก็ระบายความคับแค้นและเรียกร้องเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือสาปแช่งเจ้าหน้าที่กังฉิน ข้อความทำนองนี้โดนระบบเซ็นเซอร์ของจีนลบทิ้งในเวลาต่อมา
    ก่อนหน้าคำประกาศอย่างเป็นทางการของโรงพยาบาล หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของทางการจีนและสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานข่าวดังกล่าวผ่านบัญชีเว่ยป๋อว่า นายแพทย์หลี่เสียชีวิตเมื่อคืนวันพฤหัสบดี แต่โพสต์นี้ถูกลบทันทีหลังจากข่าวนี้ขึ้นเป็นกระแสร้อนแรงอย่างรวดเร็วของเว่ยป๋อ
    อย่างไรก็ดี ดูเหมือนรัฐบาลคอมมิวนิสต์ของจีนจะรับรู้ถึงกระแสโกรธแค้นและความไม่พอใจจากการเสียชีวิตของนายแพทย์หลี่ สำนักงานตรวจสอบวิจัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันของจีนประกาศว่ากำลังส่งเจ้าหน้าที่ไปยังอู่ฮั่นเพื่อสอบสวนอย่างครอบคลุมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนายแพทย์หลี่ เหวินเหลียง ส่วนกระทรวงการต่างประเทศและคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของเขา ด้านองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ก็แสดงความเศร้าใจกับข่าวการเสียชีวิตของนายแพทย์จีนผู้นี้
    การเสียชีวิตของนายแพทย์หลี่ขับเน้นให้เห็นความเสี่ยงที่แพทย์ในพื้นที่ระบาดต้องเผชิญจากการรักษาคนไข้ในสภาพที่ขาดแคลนอุปกรณ์และกำลังคนที่ต้องรับมือกับผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนไม่หยุดยั้ง 
    ทางการเมืองอู่ฮั่นซึ่งมีประชากร 11 ล้านคน เพิ่งรายงานการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 11 มกราคม แม้จะมีข่าวลือสะพัดเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อไวรัสโรคปอดอักเสบลึกลับหลายรายก่อนหน้านั้น โดยโยงใยไปถึงตลาดขายอาหารทะเลของอู่ฮั่นซึ่งลักลอบขายสัตว์ป่าและสัตว์แปลกอย่างผิดกฎหมาย นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าไวรัสโคโรนา ซึ่งมีต้นกำเนิดในค้างคาว น่าจะกระโดดข้ามสายพันธุ์มาติดมนุษย์ผ่านสัตว์พาหะตัวกลาง แล้วเชื้อนี้ได้กลายพันธุ์สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเวลาที่แพร่ระบาดนั้นใกล้กับเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนหลายร้อยล้านคนออกเดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยววันหยุด เมื่อวันศุกร์ ข่าวซินหัวรายงานอ้างแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรเซาท์ไชน่าว่า นักวิจัยของสถาบันเชื่อว่า ลิ่นหรือนิ่มอาจเป็นตัวกลางการแพร่เชื้อไวรัสนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ทดสอบตัวอย่างของสัตว์ป่ามากกว่า 1,000 ตัวอย่าง พบว่าลำดับทางพันธุกรรมของไวรัสที่พบในตัวนิ่มมีความเหมือนกับที่พบในผู้ป่วยโคโรนาไวรัส 99% 
    ตัวนิ่มจัดเป็นสัตว์ที่ถูกลักลอบขายอย่างผิดกฎหมายมากที่สุดในโลก ข้อมูลจากสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) เผยว่าช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีนิ่มถูกลักลอบจับจากป่าในเอเชียและแอฟริกามากกว่า 1 ล้านตัว ตลาดที่เป็นจุดหมายของการค้านิ่มคือจีนและเวียดนาม ซึ่งเกล็ดของมันถูกนำมาทำยา แม้ว่าโดยข้อเท็จจริงจะไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคก็ตาม ส่วนเนื้อถูกนำไปขายในตลาดมืด
    ภายนอกจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีคนเสียชีวิตแล้ว 2 รายที่ฟิลิปปินส์และฮ่องกง ยังคงมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นรวมเป็นมากกว่า 320 ราย จากเกือบ 30 ประเทศและดินแดน โดยอิตาลี, สิงคโปร์, มาเลเซีย และฮ่องกง รายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ยังไม่รวมการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 41 รายในเรือสำราญที่ถูกกักกันโรคนอกชายฝั่งของญี่ปุ่น 
    ญี่ปุ่นตรวจสอบผู้คนบนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซสจนถึงขณะนี้ 273 ราย จากผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 3,700 ราย ที่มาจากมากกว่า 50 ประเทศ ภายหลังพบว่าผู้โดยสารคนหนึ่งที่ลงจากเรือไปแล้วเมื่อเทียบท่าที่ฮ่องกงเมื่อเดือนมกราคม ติดเชื้อไวรัสนี้ ทางการญี่ปุ่นเริ่มกักกันเรือไว้นอกชายฝั่งตั้งแต่วันจันทร์ โดยจะกักกันโรคไปจนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ การตรวจเชื้อไวรัสจนถึงวันศุกร์พบผู้ติดเชื้อรวมเป็น 61 ราย รายที่พบใหม่เป็นชาวญี่ปุ่น 21 คน ที่เหลือยังรวมถึงคนอเมริกัน, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อาร์เจนตินา 1 คน และอังกฤษ 1 คน ผู้ติดเชื้อทั้งหมดถูกนำลงจากเรือส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล
    ที่นอกชายฝั่งฮ่องกง ผู้คนบนเรือสำราญเวิลด์ดรีมราว 3,600 คนก็ถูกกักกันไว้บนเรือเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากพบอดีตผู้โดยสารที่ลงจากเรือไปแล้ว 8 รายติดไวรัส.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"