ลุ้นคำตัดสินผู้ว่ากกท.11 ก.พ.นี้ ตัดสิทธิ์ผู้ลงเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอล


เพิ่มเพื่อน    

ลุ้นระทึกเลือกตั้งนายกบอล คำตัดสินของผู้ว่ากกท. วันที่ 11 ก.พ.นี้ หนึ่งวันก่อนเลือกตั้งว่าจะออกหน้าไหน ตัดสิทธิ์สมยศขาดคุณสมบัติเหมือนวรวีวีร์โดน หรือคืนสิทธิ์วรวีร์ให้กลับมามีชื่อเลือกตั้ง หรือยังคงสิทธิ์ "บิ๊กอ๊อด" สมยศดวลเลือกตั้งตัวต่อต่อกับ "บิ๊กอู๊ด" ภิญโญ ขณะที่กระแสคนในวงการเป็นห่วงเคสสมยศโดนร้องเรียนข้อหาหนัก หลักฐานชัดเจนแบบนี้ หากผู้ว่าก้องศักด ไม่ยอมตัดสิทธิ์เหมือนบังยีโดน อาจเจอฟ้องอ่วมภายหลัง

            กรณีเลือกตั้งนายกกีฬาสมาคมฟุตบอลฯที่จะมีขึ้นในวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีประเด็นร้อนเกี่ยวกับผู้สมัครเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล โดยทางสมาคมกีฬาฟุตบอลได้ตัดสิทธิ์นายวรวัร์ มะกูดี ออกจากแคนดิเดดผู้สมัคร โดยอ้างว่านายวรวีร์ขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับของสมาคมฯในประเด็นที่ถูกพิพากษามีความผิดทำความเสียหายต่อสมาคมฯ ทำให้เหลือแคนดิเดดชิงนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแค่ 2 คน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กับ นายภิญโญ นิโรจน์

            ต่อมานายวรวีร์ มะกูดีได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อให้ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าฯกกท.พิจารณาให้ความเป็นธรรมคืนสิทธิ์การเป็นแคนดิเดดเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล เรื่องจากตนเองยังไม่ได้ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นฝ่ายกระทำผิดเด็ดขาด ขั้นตอนอยู่ในชั้นอุทธรณ์

              ขณะเดียวกัน "ทนายอ๊อด" นายภีมเดช อมรสุคนธ์ ในฐานะตัวแทนของสโมสรสมาชิกในสมาคมฟุตบอลได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผุ้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.ก้องศักด ยอดมณีเช่นกัน ให้ตัดสิทธิ์พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง โดยอ้างว่าได้มีการกระทำผิดทั้งข้อบังคับสมาคม และทำผิดกฎหมายหลายข้อหา ทั้งเรื่องของให้มีการเบิกจ่ายเงินของสมาคมฯโดยไม่ผ่านการอนุมัติของที่ประชุมใหญ่ การเบิกจ่ายเงินของนายกสมาคมฯ และพรรคพวกบางคน การให้อนุมัติบริษัทแห่งหนึ่งที่เข้ามาดูสิทธิ์สิทธิประโยชน์โดยไม่มีแบงก์การันตี รวมทั้งการให้สัญญาเข้ามาดูแลย้อนหลัง และเรื่องที่สมาคมฯภายใต้การบริหารของ "บิ๊กอ๊อด" แพ้คดีคู่กรณีถูกศาลให้ชดใช้เงิน 50 ล้านบาท ถือว่าทำความเสียหายแก่สมาคมกีฬาฟุตบอลเช่นกัน ในการเปรียบเทียบกับที่ทางสมาคมฯไปอ้างตัดสิทธิ์นายวรวีร์ก่อนหน้านี้

            ทั้งนี้ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่า กกท. ได้ออกมาเปิดเผยถึงข้อร้องเรียนดังกล่าวว่า ตนเองพร้อมพิจารณาให้ความเป็นธรรมต่อทุกๆฝ่าย ด้วยความรอบคอบ และจะได้ข้อสรุปในเรื่องที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง โดนร้องเรียน รวมถึงนายวรวีร์ ขอความเป็นธรรมในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้

            ต่อในเรื่องนี้ปรากฎว่าได้มีหนังสือออกข่าวจากเพจ FA Thailand ของสมาคมกีฬาฟุตบอล ในแนวว่าทางฟีฟ่าจะขู่แบนไทยหากมีบุคคลที่สามมาแทรกแซงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะทาง กกท. ซึ่งทำเอาคนในวงการฟุตบอลถึงกับต้องข้องสงสัยว่าทางสมาคมกีฬาฟุตบอลได้แจ้ง หรือฟ้องอะไรไปยังฟีฟ่า และมีเนื้อหาเท็จจริงอย่างไร ทำไมถึงไม่เอามาเปิดเผยต่อสาธารณชน ทำไมถึงว่าเตือน กกท. ทั้งที่ทาง กกท. ยังไม่ได้ออกมาเทคแอ๊คชั่นอะไรก่อนหน้านี้เลย

            ที่สำคัญ กกท.คือหน่วยงานที่กำกับความคุมสมาคมกีฬาของประเทศไทย และดูแลการบริหารงาน การเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เป็นบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ใช่การจะมาก่าวก่ายตามที่ฟีฟ่าออกมาดักเหมือนเข้าใจผิด เพราะได้รับข้อมูลผิดๆ

            สำหรับเคสนี้ตามที่ผู้ว่า กกท.จะแจ้งข้อสรุปตามข้อร้องเรียนในวันที่ 11 ก.พ. 2563 ก่อนการเลือกตั้งสมาคมกีฬาฟุตบอล 1 วัน มีการวิเคราะห์ทางออกของผู้ว่า ก้องศักด มี 3 ทางคือ

            1. ตัดสิทธิ์ พล.ต.อ.สมยศ เพราะเป็นเคสที่ผิดข้อบังคับเหมือนกับวรวีร์ ซึ่งเป็นข้องบังคับที่ทางตนเองเขียนเอาไว้แท้ๆแต่มายิงเข้าตัวเองด้วย ไม่ใช่แค่กำจัดวรวีร์คนเดียว

          2. ทำนิ่งเฉยไม่ตัดสิทธิ์พล.ต.อ.สมยศ ปล่อยให้มีเลือกตั้งโดยมีแคนดิเดด 2 คนคือ พล.ต.อ.สมยศ กับ ดร.ภิญโญ นิโรจน์

          3. คืนสิทธิ์แคนดิเดดเลือกตั้งให้กับวรวีร์ มะกูดี เพราะเห็นว่าคดีความผิดยังไม่สิ้นสุด เท่ากับว่าผู้สมัครเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลจะกลับมี 3 คนเช่นเดิม

            อนึ่งยังมีอีกทางคือผู้ว่า กกท.อาจจะเลื่อนการเลือกต้องออกไป ด้วยการโยนให้ศาลมีการตีความคุณมบัติของนายวรวีร์ และพล.ต.อ.สมยศให้เรียบร้อยเสียก่อน แต่กรณีนี้มีทางเป็นไปได้น้อย เนื่องจากตามบทบัญญัติกฎหมายเป็นหน้าที่โดยตรงของ กกท. ในการดูแล ตัดสินข้อปัญหาต่างๆในการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาที่ขึ้นอยู่กับ กกท. หากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปโดยไม่สมเหตุสมผล ต้องโดนแคนดิเดดเลือกตั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่าง ดร.ภิญโญ นิโรจน์ฟ้องเป็นคดหนักแน่

             รายงานข่าวแจ้งว่าประเด็นบทสรุปของผู้ว่า กกท.ในวันที่ 11 ก.พ. ดูตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่นายวรวีร์ และทนายอ๊อด นายภีมเดช ส่งไป ค่อนข้างจัดเจนว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วงจะต้องโดนตัดสิทธิ์ เหมือนเช่นนายวรวีร์โดนตัดสิทธิ์โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลที่อ้างข้อบังคับการเลือกตั้งมาจัดการ

            หากผู้ว่า กกท.ชี้ขาดไปทางอื่นนอกเหนือจากตัดสิทธิ์บิ๊กอ๊อด สมยศแล้ว ก็สุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะโดนฟ้องข้อหาหนักในการละเว้นปฏิบัตหน้าที่ เท่ากับว่าคำตัดสิน หรือบทสรุปของผู้ว่า กกท.วันที่ 11 ก.พ. จะเป็นชี้ชะตาอนาคตผู้ว่าก้องศักด และสมาคมลูกหนังพร้อมกันเลยทีเดียว

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"