บทเรียน 'จ่าคลั่ง'


เพิ่มเพื่อน    

            ยกสองแขนสูงๆ ชูรักแร้ดำๆ สนับสนุน "ผบ.แป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่สั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้อง "ถอดบทเรียน" เหตุการณ์ "จ่าคลั่ง" กราดยิงคนกลางเมืองโคราช เพราะแม้ภารกิจครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วง แต่ก็เกิดความสูญเสียไม่น้อย

                โดยเฉพาะการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจ "ชุดปฏิบัติการ" ที่เข้าไปดำเนินการตามภารกิจ

                ถึง 2 นาย!!!

                ได้แก่ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ผบ.หมวด (สบ 1) กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. (อรินทราช 26) และ ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2  กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ. (อรินทราช 26)            

                นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ "ชุดปฏิบัติการ" ได้รับบาดเจ็บอีกหลายนาย

                เป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้น ถึงแม้การปฏิบัติงานลักษณะนี้จะมีความเสี่ยง มีอันตราย แต่หากเรามีความพร้อม มีการป้องกันที่ดี ก็จะช่วยลดความสูญเสีย ลดความเสี่ยงลงได้

                ถือเป็นข้อดีข้อหนึ่งที่ "ผบ.แป๊ะ" เข้าไปเป็นหนึ่งในทีม "ประเทศไทย" ปฏิบัติการ "เทอร์มินอล 21  โคราช" ด้วยตัวเอง เพราะได้เห็นปัญหาและอุปสรรคหน้างานด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอลูกน้องรายงานขึ้นมา

                การแก้ปัญหาก็จะรวดเร็ว-ตรงจุด!!!

                เห็นได้จากภาพที่ "ผบ.แป๊ะ" กำชับ "รองฯ ต่อ" พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. ให้ไปจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่คิดว่าดีที่สุดช่วยเสริมความปลอดภัยแก่ทีมปฏิบัติการ

                รองฯ ต่อได้อธิบายเพิ่มเติมว่า เรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์นั้นต้องถือว่าเราพร้อมหมด เพราะเป็นนโยบายของ ผบ.ตร.ที่ให้จัดหาให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษทั่วประเทศ พวกอุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีที่ไฮเทคที่จะช่วยในการปฏิบัติ ท่านให้หาสิ่งเหล่านี้มาช่วย แต่อย่าให้บอกว่าจะเป็นอะไรบ้าง แต่เราเห็นจากหน้างานแล้ว เราจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเราขาดอะไรที่จำเป็นที่จะต้องใช้เสริม ช่วยในการพิสูจน์ทราบตัวคนร้าย

                "เป็นการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สิ่งที่ท่าน ผบ.ตร.มอบหมายคือ ให้ไปจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้ เช่น โดรนตรวจจับความร้อนในการค้นหาตัวคนร้าย อย่างที่เราจะเห็นแล้วในข่าวทางสื่อมวลชนที่มีการเผยแพร่ ซึ่งจะจับพิกัดได้เพราะจริงๆ แล้วในเวลาปกติโดรนที่เราใช้ เราจะเห็นข้อบกพร่อง เห็นขีดจำกัดของโดรนธรรมดา ที่ไม่สามารถจะใช้บินในอาคารได้ รับสัญญาณจีพีเอสไม่ได้ มันจะต้องเป็นโดรนลักษณะพิเศษที่เหมาะกับสถานที่"

                รองฯ ต่อยังบอกว่า ไม่มีอะไรที่จะเพอร์เฟกต์ทั้ง 100% เราก็จะต้องเจอเคสที่จะได้เรียนรู้ว่ามีความจำเป็นในส่วนไหน จะต้องใช้อะไร เมื่อเจอหน้างานจริงแบบนี้แล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะพบว่าเราขาดอุปกรณ์อะไร ก็พอดีมีเรื่องโดรนที่ท่าน ผบ.ตร.เห็น เราก็เลยรับที่จะไปจัดหา

                ครับ...เท่าที่ฟังนายตำรวจระดับสูงสะท้อนบทเรียนจากเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ออกมา ก็อุ่นใจแทน "ลูกน้อง" ที่ผู้บังคับบัญชาเข้าใจ และรักลูกน้องอย่างจริงใจ จริงจัง และเร่งปิดจุดอ่อนเพื่อลดความเสี่ยง ลดความอันตรายต่อชีวิตให้ลูกน้องผู้ปฏิบัติงาน

                รีบดำเนินการทันทีเลยครับ.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"