เจอร์เกน คล็อปป์ บอสทีม"หงส์แดง"ลิเวอร์พูล แสดงความโล่งอก หลังจากที่ไม่กล้าส่ง ซาดิโอ มาเน่ ลงเป็นตัวจริงในเกมกับ นอริช เมื่อคืนวันเสาร์ ก่อนเปลี่ยนตัวส่งดาวยิงเซเนกัล ลงไปช่วยทำประตูชัย พาทีมเก็บเพิ่มอีก 3 คะแนนได้สำเร็จ ถือว่าสอบผ่านพร้อมส่งลุยเต็มสูบกับ แอตเลติโก มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดกลางสัปดาห์ ขณะที่เด็กหงส์เตรียมนับถอยหลังฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก
    มาเน่ ที่ต้องออกจากสนามระหว่างเกม ในนัดที่ เจอ วูล์ฟส เมื่อเดือน มกราคม เนื่องจากเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขา กลับมาฟิตสมบูรณ์ได้อีกครั้งไม่กี่วันก่อนหน้านี้ แต่ก็มีชื่อเป็นสำรองที แคร์โรว์ โร้ด
    อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ดูจะออกอาวุธไม่ค่อยถนัด ตลอดทั้งเกม หลัง นอริช แพ็คเกมรับมาอย่างดีเยี่ยม จนต้องส่ง มาเน่ ลงไปในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย และพังประตูชัยให้ทีมได้ในอีก 18 นาทีต่อมา
    ในการให้สัมภาษณ์หลังเกม คล็อปป์ เผยว่า เขาในตอนแรกรู้สึกกังวลเรื่องที่จะให้ มาเน่ ลงสนามเป็นตัวจริง เพราะมีเกมสำคัญในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รออยู่ที่จะต้องเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ในคืนวันอังคาร
    คล็อปป์ เผย "มันช่วยได้เมื่อคุณมีผู้เล่นที่มีคุณภาพระดับนี้อยู่ที่ม้านั่งสำรองและพร้อมลงสนาม ใช่ ซาดิโอ เกือบจะได้ลงเป็นตัวจริงวันนี้แล้ว แต่ผมต้องการสให้เขาฟิตเต็มที่สำหรับเกมในวันอังคาร"
    "คุณไม่คิดเหรอว่าพกเขาควรเล่น 2 นัดติดกันภายในระยะเวลาที่สั้นแบบนี้ คุณภาพของอีกทีมที่รออยู่ถือว่าเหนือกว่าอย่างแตกต่างกันมาก จนคุณต้องยอมเข็นใครลงสนามเพื่อช่วยทีม"
    "เกมนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบสำหรับ ซาดิโอ ที่ได้ลงไปยืดเส้นยืดสายบ้าง แต่ดูเหมือนเขาพร้อมมากแล้วตอนนี้"
    คล็อปป์ ยังโล่งอกที่ทีมของตน เล่นดีขึ้นในครึ่งเวลาหลัง หลังจากที่ครึ่งแรก มีโอกาสน้อยมาก
    "มันง่ายที่จะไปโทษเรื่องลมหรืออะไรพวกเขานั้น แต่ในสนามเด็กต้องพร้อมรับมือกับทุกอย่าง" บอสชาวเยอรมัน กล่าว
    "เราเล่นเอาแน่นอน แต่ก็วางบอลยาวมากเกินไป ระบบการเล่นไม่ได้เอื้อต่อการเล่นแบบนั้น"
    "ดังนั้นเราจึงไม่พร้อมเมื่อต้องเล่นบอลจังหวะสอง การยืนตำแหน่งของเราไม่ได้เป็นแบบที่ควรเคยเล่นมา"
    "พอเรามีการเปลี่ยนแปลงแผนการเล่น และ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ มาตามประกบเขาแบบแมนมาร์คกิ้ง"
    "แล้วมิดฟิลด์ของเราที่ก่อนหน้านั้น ต้องประหลาดใจกับการวางบอลยาวมาจาก เซนเตอร์ฮาล์ฟ ก็ไม่ต้องรีบดันขึ้นหน้า เห็นได้ชัดเลยว่าทุกอย่างดีขึ้นในครึ่งหลัง"
    ลิเวอร์พูล จบเกมนี้ คะแนนทิ้งหว่างอันดับ 2 ถึง 25 แต้ม ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กว่าจะลงสนามคือ วันพุธ เจอ เวสต์แฮม เป็นเกมตกค้าง ลิเวอร์พูล ขอชนะอีกอย่างน้อย 5 นัด ก็จะได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรแกได้ทันที ขณะที่นัดหน้าหากชนะได้ ก็จะทำสถิติชนะรวด 18 นัดในพรีเมียร์ลีกเท่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้
    ขณะเดียวกัน ก็ยังมีการเปรียบอันดับคะแนนระหว่างสองทีมคู่ปรับตลอดกาล ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยไม่ว่าจะยังไง ลิเวอร์พูล หลังบุกไปชนะ นอริช มาได้ จะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่สูงกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอนแล้ว ต่อให้ทีมของ คล็อปป์ แพ้รวดในอีก 13 เกมที่เหลือก็ตาม
    สำหรับเกมเลกแรก ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอาท์ กับ แอตเลติโก อังคารนี้ ลิเวอร์พูล ต้องยกทัพไปที่ ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่พลพรรคนักเตะหงส์แดงจะได้กลับไปเหยียบสนามที่พวกเชาได้ชูถ้วยแชมป์ยุโรป สมัยที่ 6 ได้เมื่อเดือน มิถุนายน กลางปีที่แล้ว