รวบแล้วหนุ่มหึงโหดสังหารอดีตภรรยาดับกลางคลินิกห้างเซ็นจูรี่ ตำรวจล้อมคอกความปลอดภัย งัดมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน ขณะที่บริษัท รปภ.ให้กำหนดช่องทางติดต่อสื่อสารแจ้ง พร้อมปูพรมลุยล้างจับอาวุธปืนผิดกฎหมาย ด้าน "สมศักดิ์" สั่งเยียวยาเหยื่อและผู้บาดเจ็บ

    เมื่อวันพุธ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น., พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น., พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง รอง ผบก.น.1, พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท, พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท แถลงจับกุมนายดนุสรณ์ หรือเจ นุ่มเจริญ อายุ 28 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางอาวุธปืนยี่ห้อโคลต์ .45 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 32 นัด ซองบรรจุกระสุน จำนวน 2 ซอง โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 154 ม.4 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น.
    ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.154/2563 ลงวันที่ 18 ก.พ. โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน”
    สืบเนื่องจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงภายในห้างสรรพสินค้า ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นเหตุให้ น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย อายุ 28 ปี พนักงานสถานเสริมความงามเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 ก.พ.63 เวลาประมาณ 15.00 น. จากการสอบสวนปากคำพยานที่เกิดเหตุประกอบกับภาพจากกล้องวงจรปิด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับนายดนุสรณ์ 
    จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับที่ได้ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ปิยานุชถึงแก่ความตาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามวันเวลาเกิดเหตุจริง สาเหตุเกิดจากความหึงหวงที่ผู้เสียชีวิตคบหากับชายอื่นจนขาดความยั้งคิดก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
     พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหาต้องการหลบหนีกลับไปหาพ่อ ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้นมาจากสาเหตุส่วนตัว มีความขัดแย้งกับภรรยาเก่าจริงๆ หย่าขาดกันมาแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่ามีเจตนาที่จะก่อเหตุคิดยิงคนที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นชู้หรือไม่
    พล.ต.ท.ภัคพงศ์ระบุด้วยว่า สำหรับอาวุธปืน ผู้ก่อเหตุมีใบอนุญาตให้ได้รับอาวุธปืนครอบครอง มีความเชี่ยวชาญในอาวุธปืนระดับหนึ่ง เนื่องจากยิงโดนหลายนัดในระยะใกล้ โดยไม่มีการใช้สารเสพติดแต่อย่างใด และไม่ยังพบผู้ให้การช่วยเหลือผู้ก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม มาตรการการเฝ้าระวังเรื่องเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ามีการเฝ้าระวังและหามาตรการในการร่วมมือกันเฝ้าระวังในพื้นที่ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน บริษัท รปภ. กำหนดช่องทางติดต่อสื่อสารแจ้งและเร่งรัดเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกวาดล้างติดตามจับกุมอาวุธปืนผิดกฎหมาย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายดนุสรณ์เข้าห้องขังใน สน.พญาไท โดยนายดนุสรณ์ตาแดงก่ำเหมือนคนร้องไห้และตอบกลับว่า "ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้" จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าห้องขังใน สน.พญาไททันที ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่าจะไม่มีการทำแผนในคดีนี้ และจะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลอาญาช่วงเช้าวันที่ 20 ก.พ.นี้.
    ที่สถาบันนิติเวช รพ.รามาธิบดี นางนารีรัตน์ ทรงพระสุวรรณ ลูกพี่ลูกน้องพร้อมด้วยญาติของ น.ส.ปิยานุช เข้าติดต่อรับศพท่ามกลางความโศกเศร้าเพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ตาก โดยเธอระบุว่าน้องสาวหย่ากับนายดนุสรณ์ อดีตสามี ทั้งที่คบกันมานานกว่า 10 ปี จนมีลูก 1 คน เพราะว่าฝ่ายชายเป็นคนอารมณ์ร้อน หึงหวง ชอบลงไม้ลงมือ พร้อมข่มขู่พ่อกับแม่ของผู้ตายมาประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา จนผู้ตายทนไม่ไหวต้องตัดขาดจากครอบครัวเพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาตามมาข่มขู่ได้อีก จนต้องหลบหนีไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ฝ่ายชายยังตามตื๊อและออกอุบายขอหย่าเพื่อหลอกล่อให้ผู้เสียชีวิตออกมาปรากฏตัว จนทำเรื่องหย่าร้าง และกระทั่งมาก่อเหตุยิงจนน้องสาวเสียชีวิต
        วันเดียวกัน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายคือ น.ส.วิลาสินี ทีปั่น ถูกยิงเข้าแขนซ้าย โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้กระทรวงยุติธรรมเร่งเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 โดยกรณีผู้เสียชีวิตได้รับค่าตอบแทน รวมทั้งสิ้น 110,000 บาท ส่วนกรณีผู้บาดเจ็บจะมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือโดยพิจารณาถึงระยะเวลาการรักษา ความรุนแรงของการได้รับบาดเจ็บและตามจำนวนวันที่พักรักษาตัว
    ที่รัฐสภา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีมาตรการรับมือและป้องกันเหตุความรุนแรงในที่สาธารณะว่า ประชาชนทุกคนก็ต้องช่วยกัน ซึ่งตำรวจก็จะลงไปทำความเข้าใจให้ความรู้ และทบทวนมาตราการต่างๆ ในพื้นที่สาธารณะ อาทิ ห้างสรรพสินค้า หรือธนาคาร เรื่องการรักษาความปลอดภัยและข้อกำหนดต่างๆ และต้องถอดบทเรียน มีการจัดเจ้าหน้าที่ไปให้ความรู้ คงจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการเป็นหลัก และการควบคุมความปลอดภัยในพื้นที่จำกัดเหล่านั้นเจ้าหน้าที่ที่รักษาความปลอดภัยต้องมีการฝึกซ้อมกัน ถ้าเกิดเหตุต้องระบุตำแหน่งได้ รวมถึงคนที่อยู่ในห้องควบคุมกล้องวงจรปิดต้องสามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่ด้วยความปลอดภัย.