"ชวน” ย้ำศึกซักฟอกเริ่ม 24 ก.พ.ช่วงบ่าย ระบุ ส.ส.ไม่สังกัดพรรคอภิปรายได้ "หน่อย" โผล่ร่วมประชุมติวทีมอภิปรายจัด 18 ขุนพลถล่มรัฐบาลประยุทธ์ "สุทิน" ยันมีข้อมูลทั้งทุจริตมีใบเสร็จ และทุจริตเชิงโครงสร้างให้ทุนใหญ่ร้ายแรงกว่าแบบที่มีใบเสร็จ แกนนำ พปชร.ปฏิเสธข่าวร้าว ยืนยัน ส.ส.เป็นหนึ่งเดียวทุกคน ขึ้นกับประธานยุทธศาสตร์ฯ สะพัด! 40 ส.ส.เสนอ "บิ๊กป้อม" ตำแหน่งใน พปชร.ขอโหวตเลือกยังไม่ปลด "วิรัช"

    ที่รัฐสภา วันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านขอเวลาในการอภิปรายกว่า 50 ชั่วโมงว่า ตกลงในหลักการไว้ในวันที่ 24-27 ก.พ. ซึ่งเดิมจะจบวันที่ 26 ก.พ. แต่ในวันที่ 24 ก.พ. ฝ่ายรัฐบาลขอเลื่อนไปเริ่มในช่วงบ่าย ฝ่ายค้านจึงขอขยายเวลาออกไปวันที่ 27 ครึ่งวัน แต่ยังไม่แน่ อาจจะมากกว่านั้นหรือน้อยกว่านั้น ก็อยู่ที่จำนวนผู้อภิปราย และอยู่ที่การอภิปรายว่าใช้เวลาเท่าไหร่ ซึ่งยังไม่ได้ตกลงกันว่าเขาจะใช้วิธีคิดเวลาหรือจำนวนคน ส่วนการอภิปรายรัฐมนตรีก็ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะอภิปรายรวมทั้งหมดหรือจะอภิปรายทีละคน ทั้งนี้ ก่อนวันอภิปรายก็จะต้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน เมื่อได้ข้อยุติอย่างไรก็ต้องปฏิบัติไปตามนั้น
    เมื่อถามว่า ในกรณี ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) หากพรรคถูกยุบ ส.ส.มีสิทธิ์อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้หรือไม่ นายชวนกล่าวว่า เรื่องคำวินิจฉัยเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณี ส.ส.ไม่สังกัดพรรค โดยหลักการสามารถอภิปรายได้ในสภา ใครอภิปรายก็ได้ และไม่ได้มีอะไรห้าม เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาล
    ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาร่วมประชุมกับแกนนำพรรค พท. เพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยให้สัมภาษณ์ว่า มาเป็นกำลังใจและช่วยสนับสนุนข้อมูลบางเรื่อง ซึ่งมีการรวบรวมและทำงานร่วมกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ที่จะอภิปรายมีการเตรียมข้อมูลมาอย่างดี มั่นใจว่าจะทำให้ประชาชนได้เห็นข้อเท็จจริง 3เรื่องคือ 1.ความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน 2.การออกนโยบายที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น เอื้อกลุ่มนายทุนใหญ่ เกิดปัญหารวยกระจุกจนกระจาย 3.การทุจริต
    คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ขออย่ามองว่าฝ่ายค้านมีความขัดแย้งกัน ที่ผ่านมาฝ่ายค้านทำงานร่วมกันเป็นทีมมาโดยตลอด ขอขอบคุณ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ที่มาเป็นหัวหน้าทีมเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ และถือว่ามีความเหมาะสม   
    จากนั้นเวลา 13.30 น. คุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นไปประชุมที่ห้อง 301 ร่วมกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายโภคิน พลกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา คณะกรรมการยุทธศาสตร์, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค และตัวแทน ส.ส.ที่จะทำหน้าที่อภิปราย
    น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ผู้อภิปรายในสัดส่วนของพรรค พท.มีทั้งสิ้น 18 คน หลังจากนายสมพงษ์กล่าวนำอภิปรายเสร็จสิ้น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม จะอภิปรายเป็นคนแรก โดยใช้ข้อมูลของคณะกรรมการกิจการพิเศษที่ได้รวบรวมไว้ จะอภิปรายเนื้อหาไปตามข้อเท็จจริง ตามความผิดที่พรรคฝ่ายค้านได้ยื่นไว้ในญัตติ มีทั้งเรื่องการบริหารประเทศผิดพลาด ความฉ้อฉล การช่วยเหลือพวกพ้อง ซึ่งทุกความผิดเราไม่อาจปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม อยู่บริหารประเทศต่อไปได้ หลังการอภิปรายจะมีการตัดเนื้อหาอภิปรายเป็นส่วนๆ ไม่ยาวมากนัก ในรูปแบบคลิป เพื่อให้ประชาชนที่ไม่ได้ติดตามช่วงอภิปรายได้รับฟังข้อมูล
แฉทุจริตเชิงโครงสร้าง
    ด้านนายสุทินกล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้จะต่างจากอดีตที่จะใช้ซูเปอร์สตาร์ 5-6 คน อภิปรายคนละ 2-3 ชั่วโมง แต่ครั้งนี้จะทำงานเป็นทีมเวิร์ก มีการตัดเนื้อหาออกมาเป็นส่วนๆ ไม่ลากยาว เพื่อให้ไม่น่าเบื่อ ผู้อภิปรายทั้ง 18 คนจะใช้เวลา 20 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขณะนี้เราพบการทุจริต 2 รูปแบบ คือ 1.การทุจริตที่มีเงินทอน มีใบเสร็จไม่น้อยกว่า 6 กรณีที่สามารถยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดทางอาญาได้ แต่จะขอรอฟังการชี้แจงของรัฐมนตรีก่อน หากเคลียร์ในประเด็นใดได้ก็จะไม่ยื่นเอาผิด 2.การทุจริตที่ไม่มีใบเสร็จ แต่เป็นการทุจริตเชิงโครงสร้าง เป็นระบบให้เกิดการทุจริตในระยะยาวจัดโครงสร้างให้ทุนใหญ่ ถือว่าเรื่องนี้เป็นการทุจริตที่ร้ายแรงกว่าแบบที่มีใบเสร็จ
    “มั่นใจว่าหลังการอภิปรายจะมีพรรคร่วมรัฐบาลยื่นคำขาดเหมือนสมัยพรรคพลังธรรมยื่นต่อพรรคประชาธิปัตย์แล้วพบจุดจบในเวลาต่อมา การอภิปรายครั้งนี้จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”นายสุทินกล่าว
     ทางด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นำ ส.ส.เข้าพบขอให้ปลดนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ออกจากการเป็นประธานวิปรัฐบาลว่า ไม่มีอะไร เขามาให้กำลังใจตน เมื่อถามว่าแล้วมีข่าวออกมาได้อย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ก็ไม่รู้ใครพูด เขาพูดกับเรา มาให้กำลังใจเรา เอาผลไม้มาให้” เมื่อซักว่า ร.อ.ธรรมนัสเสนอให้ปลดนายวิรัชหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เสนอ ไม่มี ไม่จริง ถามอีกว่านายวิรัชยังทำหน้าที่ได้ดีอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ดี แต่การปล่อยข่าวลักษณะนี้ทำให้พรรคสับสน ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องให้ใครมาพูดแล้วไปคิดเองเออเอง เรื่องนี้ไม่ต้องเคลียร์อะไร พรรคพลังประชารัฐเป็นหนึ่งเดียวอยู่แล้ว ทุกคนอยู่กับตนอยู่แล้ว
    เมื่อถามว่า ในการสัมมนาพรรค พปชร.วันที่ 22-23 ก.พ. จะมีการแสดงพลังอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ต้องแสดงอะไร จะแสดงอะไร โดนเขาอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการสัมมนาดังกล่าวตนจะเดินทางไปร่วมด้วยเพื่อไปให้กำลังใจ ส่วนการยกมือโหวตรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เสียงจะเป็นทิศทางเดียวกัน โหวตให้เท่ากันหมด ส่วนคะแนนจะเท่ากันหรือไม่นั้น พรรค พปชร.ให้ทุกคนเท่ากัน แต่พรรคอื่นไม่รู้
     ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นการไปพบ พล.อ.ประวิตร เพื่อมอบกระเช้าให้กำลังใจ เพราะ ส.ส.หลายคนจะไม่ได้ไปที่พัทยาในวันที่ 22-23 ก.พ. เขาจึงอยากมีส่วนร่วม ไม่มีประเด็นอื่น ไม่มีการจะไปไล่ปลดประธานวิปรัฐบาล คนละเรื่อง ไม่ทราบว่าสื่อเอาข่าวจากไหนไปเขียน ใน พปชร.ส.ส.ของเราผนึกกันอยู่แล้ว เพียงแต่บางครั้ง ส.ส.ต่างจังหวัดที่ไม่มีโอกาสได้พบปะผู้ใหญ่ก็อยากพบผู้ใหญ่บ้าง
    “พูดไปเรื่อย ท่านรัฐมนตรีแบงค์น่ารักจะตาย เราทำงานอยู่ด้วยกัน ไม่เคยมีประเด็นอะไรเลย ผมขอบอกว่าสื่อบางสื่ออย่ายุให้รำ อย่าตำให้รั่ว พี่น้องในพรรคพลังประชารัฐเขารักกันหมดแหละ แต่การอยู่กับคนหมู่มาก เป็นธรรมดาที่มีบ้างที่จะน้อยใจกัน เป็นเรื่องปกติของนักการเมือง” ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงกรณีขู่จะเอานายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ซึ่งเป็นบุตรชายของนายวิรัชออกจากตำแหน่ง 
พปชร.ปัดข่าวร้าว
    เมื่อถามย้ำว่า ประเด็นที่น้อยใจกันมีอะไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติในสภา พี่น้องที่มาจากต่างจังหวัดต้องการแสดงความสามารถบ้าง แต่อาจไม่ค่อยได้รับโอกาส แต่นี่คือเรื่องปกติในสภา ทั้งนี้ เมื่ออ่านข่าวแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะคนอย่างตนไม่พอใจใครก็พูดต่อหน้า ไม่ชอบพูดลับหลัง ทั้งนี้ ไม่มีประเด็นที่ต้องเคลียร์กับนายวิรัช หลังจากที่พาน้องๆ ส.ส.ให้กำลังใจกับพล.อ.ประวิตรแล้ว ตนกับนายวิรัชก็นั่งคุยกันตามปกติ ยอมรับว่าส.ส.ในพรรคมีคุยเรื่องการทำหน้าที่ของประธานวิปรัฐบาลบ้างเป็นธรรมดา เพราะบางครั้งความรู้สึกของ ส.ส.ต้องฟังเขาบ้าง
    เมื่อถามถึงความพร้อมการชี้แจงในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า ชกลมซ้อมมาเป็นเดือนแล้ว รอชกตัวจริง ตนพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง และเชื่อว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะให้ตนมาชี้แจงต่อสภาในเรื่องต่างๆ เพราะการบริหารราชการแผ่นดินตนไม่มีเรื่องพวกนี้เลย ส่วนตัวไม่มีประเด็นใดที่กังวล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติ ก็ได้ชี้แจงไปแล้วหลายเวที ถ้าจะให้พูดอีกครั้งก็ยินดีที่จะพูด 
    นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคพปชร. กล่าวว่า ไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวมาจากไหน หรือใครมีความไม่พอใจอะไรเป็นการส่วนตัวกับใครหรือไม่ ตนก็ยังแปลกใจ ยืนยันได้ว่าพรรคมีความสามัคคี ไม่มีความแตกแยก ทั้งหมดต่างขึ้นตรงต่อประธานยุทธศาสตร์เพียงคนเดียว เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และไม่มีแนวคิดการเปลี่ยนตัววิปรัฐบาล เพราะการทำงานที่ผ่านมาถือว่าเข้มแข็ง ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลได้เป็นอย่างดี ท่ามกลางสถานการณ์เสียงปริ่มน้ำในสภา แต่ทุกคนก็ร่วมมือกันจนทุกอย่างลุล่วงมาได้ตลอด ภารกิจสำคัญที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าคือการรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก็จะได้ช่วยกันสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อไป
    "ผมเชื่อว่าไม่มีใครในพรรคสามารถทำหน้าที่แทนนายวิรัชได้ ส่วนที่ผมนัด ส.ส.กินข้าวนั้นก็เป็นปกติ ทุกคนในพรรคไม่มีคำว่ากลุ่ม หลายคนเป็นเพื่อนพ้องกันมานาน ผมมีเพื่อนมีฝูงก็ไปร่วมกับทุกกลุ่มอยู่แล้ว เราไม่มีก๊วน เรามีแต่เพื่อน ยืนยันพรรคเป็นหนึ่งเดียวกัน" นายสุชาติกล่าว
     ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรค พปชร.ว่า จากกระแสข่าวเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ได้มี 40 ส.ส. นำโดย ร.อ.ธรรมนัสเข้าพบ พล.อ.ประวิตร  เพื่อสะท้อนปัญหาความอึดอัดการทำงานในพรรคและงานในสภา อย่างการตั้งกรรมธิการที่มองว่าไม่ได้ความเป็นธรรม ถึงขั้นเสนอให้ปลดนายวิรัชออกจากประธานวิปรัฐบาลนั้น โดย พล.อ.ประวิตรบอกไม่ทราบปัญหานี้มาก่อน รับปากจะพูดคุยเคลียร์ปัญหาทำให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน และขณะนี้ไม่มีการปลดนายวิรัชออกจากประธานวิปรัฐบาล ขณะที่ 40 ส.ส.เสนอว่า จากนี้ตำแหน่งสำคัญต่างๆ ในพรรคอยากให้ ส.ส.พรรคได้โหวตเลือก ไม่ใช่บางตำแหน่งไปแต่งตั้งกันเอง.