อึ้ง!ตลาดหุ้นปิดบวก4จุด ชี้เสถียรภาพรัฐบาลดีขึ้น


เพิ่มเพื่อน    

 นักลงทุนขานรับยุบพรรคอนาคตใหม่ หุ้นดีดขึ้น 3.85 จุด ปิดตลาดที่ 1,495.09 จุด สวนทางตลาดหุ้นเอเชียที่แดงพรึ่บ  เหตุเชื่อจะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลมั่นคง สานต่อนโยบายได้ต่อเนื่อง

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์ในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าบรรยากาศการซื้อขายตลอดทั้งวันมีความผันผวนอย่างมาก โดยช่วงเช้านักลงทุนเทขายออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความกังวลถึงผลการพิจารณาการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ในคดีการกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค จำนวน 191.2 ล้านบาท จึงเทขายออกมาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ตลาดปิดติดลบ 9.46 จุด มูลค่าซื้อขาย 22,269.66 ล้านบาท 
         ต่อมาในช่วงบ่าย เมื่อผลการตัดสินออกมาศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรค อนค. พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นระยะเวลา 10 ปี ทำให้นักลงทุนกลับมาเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังจากเชื่อมั่นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และยังคงเดินหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปได้ ส่งผลให้ตลาดปิดที่ 1,495.09 จุด ปิดบวก 3.85 จุด หรือเพิ่ม 0.26% มูลค่าการซื้อขาย 56,082.23 ล้านบาท โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 1,546.49 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 97.58 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,776.87 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,132.81 ล้านบาท ซึ่งสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังมีการเทขาย เพราะยังกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วโลก  
         นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ก่อนพลิกกลับมาบวกช่วงท้ายตลาด หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีเงินกู้ของพรรคอนาคตใหม่ และลงมติให้ยุบพรรค ทำให้ตลาดคาดว่าหลังจากนี้เสถียรภาพของรัฐบาลน่าจะดีขึ้น ประกอบกับดัชนีปรับตัวลงหลายวันก่อนหน้านี้ ในทางเทคนิคก็มีสัญญาณรีบาวด์ขึ้นมา
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลในระบบสภามีความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างความคล่องตัวในการทำงานและออกกฎหมายต่างๆ ในช่วงถัดไปได้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ เช่น รับเหมา ฐานราก วัสดุก่อสร้าง  
         “คำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่มีโอกาสเกิดแรงกระเพื่อมนอกสภาได้ จากกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสิน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มีนัยมองว่าจะไม่มีผลใดๆ แต่หากขยายวงเป็นการชุมนุมกลุ่มใหญ่และลากยาว มองว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว”
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกสวนทางภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดลบ ยกเว้นจีนที่ปิดบวก 0.31% หลังจากศาลมีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น และส่งผลดีต่อรัฐบาลระยะสั้น จากก่อนหน้านี้ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ตลาดผันผวนค่อนข้างแรงในช่วงตัดสินคดียุบพรรคอนาคตใหม่ โดยภาพในระยะสั้นยังมองเป็นเชิงลบอยู่ แม้ว่าตลาดจะมีการฟื้นตัวขึ้นมา ซึ่งประเมินว่าน่าจะเป็นมุมมองต่อการเมืองในสภาที่น่าจะเข้มแข็งมากขึ้นจากคะแนนเสียงที่จะไหลมาทางฝั่งพรรครัฐบาลเพิ่ม ฉะนั้นต้องรอดูการจัดกระบวนทัพใหม่ของสมาชิก ส.ส.ที่จะต้องย้ายพรรค รวมถึงบัญชีรายชื่อที่หายไปอาจมีการร่นคะแนน ซึ่งต้องพิจารณากันอีกที ทั้งนี้ ยังประเมินการเมืองนอกสภาไม่ได้ ยังคงต้องรอดูท่าทีของพรรคอนาคตใหม่ก่อน.
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"