พิษโควิด-19ฉุดธุรกิจการบินดิ่งเหว


เพิ่มเพื่อน    

เมื่อการแข่งขันด้านราคามีแนวโน้มลดความรุนแรงลง ปัญหาต่อมาของธุรกิจสายการบินก็ยังอยู่ที่ดีมานด์การเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคาด หลังวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศจะกลับมาขยายตัวได้ภายในปีหน้า

 

พิษโควิด-19ฉุดธุรกิจการบินดิ่งเหว

        ในปี 2563 นี้ นอกเหนือจากปัจจัยด้านการแข่งขันตัดราคา และดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินในประเทศที่ยังคงหดตัวแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวไรโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน ก็อาจส่งผลให้ดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ภายใต้กรอบสมมุติฐานว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนจะมีระยะเวลาเพียงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อจำนวนนักเดินทางจีนที่มาไทย และจำนวนนักเดินทางไทยที่ไปจีน รวมไปถึงการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ที่มาไทย

        โดยเฉลี่ยแล้วนักเดินทางจีนที่มาไทย 70% เป็นนักท่องเที่ยว และ 30% เป็นนักธุรกิจ ซึ่งผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสต่อการเดินทางเพื่อทำธุรกิจมองว่ามีไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาเที่ยวไทยเสียมากกว่า ในช่วงตรุษจีนปี 2562 (เดือนกุมภาพันธ์) มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทย 1.06 ล้านคน และในเดือนอื่นๆ  เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเดือนละประมาณ 9 แสนคน

        และจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้รัฐบาลจีนประกาศยกเลิกทัวร์จีนทั้งหมด ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยในช่วงเดือนตรุษจีน ปีนี้ลดลงประมาณ 50% หรือ 550,000 คน ในเดือนแรก และสถานการณ์จะค่อยๆ คลี่คลายลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในที่สุด ซึ่งจะทำให้อัตราบรรทุกผู้โดยสารของสายการบินในไทยสำหรับเที่ยวบินไทย-จีน ลดลงเหลือ 40%-50% ในช่วงไตรมาสแรก

        ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินมาไทยจะลดลงรวมตลอดทั้งปีประมาณ 10% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนทั้งหมดที่มาในปี 2562 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 1.1 ล้านคน หรือคิดเป็นผู้โดยสารที่มาใช้บริการสนามบินในไทยลดลง 2.2 ล้านคนเที่ยว ประกอบกับ สายการบินในไทยมีส่วนแบ่งตลาดเที่ยวบินระหว่างไทย-จีน คิดเป็นประมาณ 30%-40% ของมูลค่าตลาด ดังนั้น มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินที่สูญเสียไปจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นมูลค่า 4,300-5,800 ล้านบาท

        อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2563 มูลค่าธุรกิจสายการบินจะยังหดตัวลงอีก 4.3%-6.2% เหลือมูลค่าเพียง 2.94-3.00 แสนล้านบาท และค่าเฉลี่ยของอัตราบรรทุกผู้โดยสารจะลดลงเหลือ 72.0%-73.4% ซึ่งโดยปกติ สายการบินในไทยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 80% นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะทำให้ธุรกิจสายการบินสูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 8,000-11,000 ล้านบาท

        ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์มูลค่าธุรกิจสายการบินนี้ ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะมีระยะเวลาเพียงไตรมาสแรกของปีนี้ หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยาวนานมากกว่านี้ ก็อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อมูลค่าธุรกิจสายการบินในไทยมากกว่าที่ประมาณการไว้ ซึ่งทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะเฝ้าติดตามและอัพเดตสถานการณ์เป็นระยะๆ

        ดังนั้น จากนี้ไปธุรกิจสายการบินจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการแข่งขันด้านราคาในอุตสาหกรรมนี้ และหากการเข้ามาในตลาดของสายการบินราคาประหยัดเป็นจุดกำเนิดของการแข่งขันด้านราคา ตัวกำหนดทิศทางการแข่งขันภายในธุรกิจสายการบินจึงต้องขึ้นอยู่กับยุทธศาสตร์การแข่งขันของสายการบินราคาประหยัดเหล่านี้ ว่าจะยังมุ่งเน้นการแข่งขันด้านราคา หรือมุ่งเน้นความแตกต่างด้านการให้บริการ จะเห็นได้ว่าในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา สายการบินราคาประหยัดเริ่มเปลี่ยนกลยุทธ์การแข่งขันเป็นการสร้างแบรนด์ โดยเน้นการสร้างรายได้จากการบริการระดับพรีเมียม เพื่อเจาะตลาดกลุ่มผู้โดยสารที่ต้องการความสะดวกสบาย รวดเร็ว จึงทำให้แนวโน้มการแข่งขันด้านราคาจะค่อยๆ ลดความรุนแรงลง ดังจะเห็นได้จากอัตราค่าโดยสารเฉลี่ย (คำนวณจากรายได้เฉลี่ยต่อที่นั่งต่อกิโลเมตรที่บิน) ที่เริ่มปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยในระยะหลังๆ จึงเป็นสัญญาณเชิงบวกให้กับธุรกิจสายการบินว่าการแข่งขันด้านราคาจะเริ่มทุเลาลงตามลำดับ

        ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า เมื่อการแข่งขันด้านราคามีแนวโน้มลดความรุนแรงลง ปัญหาต่อมาของธุรกิจสายการบินก็ยังอยู่ที่ดีมานด์การเดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยคาดหลังวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศจะกลับมาขยายตัวได้ภายในปีหน้า

      อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวลง ประกอบกับประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนเกือบ 40 ล้านคนต่อปี การจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากกว่านี้อย่างก้าวกระโดดคงจะทำได้ยาก  เพราะศักยภาพของสนามบินและศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวของไทยยังมีอยู่จำกัด จึงคาดว่าอัตราการขยายตัวของดีมานด์เที่ยวบินระหว่างประเทศคงไม่สูงมากนัก ดังนั้น สภาวะดีมานด์ชะลอตัวจะยังเป็นโจทย์ท้าทายธุรกิจสายการบินในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ส่งผลให้มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินคาดว่าจะพลิกกลับมาขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"