ชะลอเที่ยวประเทศกลุ่มเสี่ยง


เพิ่มเพื่อน    

      ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ข่าวการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากหลายประเทศ นอกประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิด กำลังเผชิญกับการระบาดที่รุนแรงขึ้น และผู้ป่วยเริ่มไม่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศต้นทาง ซึ่งก็หมายความว่าเริ่มมีการระบาดจากคนในประเทศด้วยกันเอง หรือตามภาษาของทางการแพทย์ก็คือ การระบาดระยะที่ 3

        ซึ่งการระบาดในระยะนี้ถือเป็นระดับที่ควบคุมยากที่สุด  เพราะไม่สามารถจะหาจุดเชื่อมโยงแหล่งที่มาได้ เชื่อมีการกระจายได้มากขึ้น เร็วขึ้น จึงไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นการระบาดที่รุนแรงขึ้น ทั้งในญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, อิตาลี และอิหร่าน ซึ่งอยู่ดีๆ ตัวเลขผู้ป่วยที่ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นมาอย่างน่าใจหาย  ชนิดที่เรียกว่าหลักสิบ หลักร้อย เลยทีเดียว

        สำหรับประเทศไทยเอง จากการแถลงของกระทรวงสาธารณสุข ก็ยังสามารถคัดกรองผู้ป่วยได้ดี มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 35 ราย และหายป่วยแล้ว 21 ราย แต่ที่ดีที่สุดคือไทยเรายังเป็นการระบาดที่อยู่ในระดับที่ 2 คือ ผู้ป่วยยังมาจากประเทศต้นกำเนิด หรือติดมาจากคนที่มีเชื้อมาจากต้นกำเนิด ยังไม่ได้มีการแพร่กันเองในประเทศ

        แน่นอน ทางรัฐบาลไทยเองก็รู้ว่าไทยเราก็มีความเป็นไปได้ที่จะเข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น  เพราะจะทำให้การจัดการ คัดกรอง และควบคุมทำได้ยากมาก รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลจะไม่เพียงพอต่อการรักษา

        ตอนนี้ทางสาธารณสุขเองจึงขอความร่วมมือประชาชน ให้ชะลอ หรือเบรกแผนการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงของการระบาดหนักๆ ทั้งจากจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้,  ฮ่องกง, มาเก๊า และสิงคโปร์ เพราะการไปประเทศที่มีการระบาดหนัก อาจจะทำให้เราได้รับเชื้อมาโดยไม่รู้ตัว และเชื้อโควิด-19 เป็นเชื้อที่ติดง่ายและซ่อนเก่ง จนถึงตอนนี้ยืนยันว่าสามารถระบาดผ่านละอองอากาศได้ รวมถึงยังติดระหว่างฟักตัว และบางเคสมีการฟักตัวนานกว่า 14 วัน ทำให้มีการแพร่เชื้อไปได้ อย่างรวดเร็ว แบบไม่รู้ตัว

        ดังนั้น หากสามารถงดเดินทางได้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงให้กับประเทศได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

        เชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนอยากเห็นการระบาดเป็นวงกว้าง เหมือนอย่าง 3 ประเทศที่กล่าว เพราะตอนนี้ทั้งสามประเทศได้เจอปัญหากระทบเศรษฐกิจอย่างรุนแรงแล้ว เนื่องจากต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลายอย่าง อย่างในจีน มีการปิดโรงงาน พักการทำงาน ชะลอการผลิต ส่งผลต่อการส่งออกสินค้า และธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ร้านค้าก็หยุดชะงัก

        มีบทวิเคราะห์ระบุว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของเอเชีย ก็เจอผลกระทบจังๆ จากการระบาดในครั้งนี้ มีการปิดโรงงานเนื่องจากพบผู้ป่วย  ร้านค้าปลีกก็ไม่มีคนเดินทาง คนเก็บตัวอยู่กับบ้าน

        หากไทยเจอการระบาดแบบนี้ ก็จะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน ซึ่งจะซ้ำเติมเศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้ว ก็จะแย่เพิ่มเข้ามาอีก อย่างตอนนี้ที่ไทยได้รับผลกระทบการท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน ก็ยังพอประคองให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ ซึ่งตอนนี้ก็ยอมรับว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยก็ได้รับผลกระทบมาก เพราะตลาดท่องเที่ยวอินบาวด์ (ขาเข้า) โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดหลักที่ส่งออกนักท่องเที่ยวเข้าไทย จำนวน 10-11 ล้านคนต่อปี หยุดเดินทางทั้งหมดแล้ว ขณะที่ตลาดหลักอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น, เกาหลี, สิงคโปร์, ฮ่องกง, เวียดนาม, ลาว, มาเลเซีย รวมถึงไต้หวันและสิงคโปร์ ก็เริ่มหายหมดแล้ว แต่ในเร็วๆ นี้ภาครัฐคงมีแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนมากนัก

        แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่าสถานการณ์การระบาดเมื่อพ้นฤดูหนาวไปแล้ว การระบาดจะลดลง แต่ถ้ายังไปฝืนเที่ยวตอนนี้  และติดเชื้อกลับเข้ามา หากไทยเกิดระบาดใหญ่จะกระทบกันไปยิ่งกว่านี้แน่นอน และที่สำคัญรัฐบาลก็จะต้องทุ่มงบกับทางด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้น กระทบต่อการบริหารประเทศเข้าไปอีก

        ดังนั้น ก็อยากรณรงค์คนที่วางแผนเที่ยวในประเทศกลุ่มเสี่ยงช่วงนี้ ได้เลื่อนแผนออกไปก่อน แต่ถ้าเลื่อนไม่ได้ กลับมาแล้วต้องให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และจะต้องสามารถที่จะกักตัวเองตามระยะเวลาที่กำหนดได้ด้วย.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"