ขนาดสัญญาณไม่ชัด ก็กระเพื่อมแล้ว


เพิ่มเพื่อน    

      แม้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะบอกหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยังไม่ถึงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรี แต่กระแสข่าวก็ยังคงออกมาหลายระลอก ทั้งข่าวภายในพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลอื่น ในทำนองต้องการให้ บิ๊กตู่ แม้ไม่ปรับ ครม.เวลานี้ แต่ก็ควรส่งสัญญาณให้ชัดว่าจะดำเนินการเมื่อใด

      มีข่าวบางกระแสจากคนในพรรคร่วมรัฐบาล ประเมินกันว่า นายกรัฐมนตรีอาจปรับ ครม.ในช่วงก่อนเปิดประชุมสภารอบหน้าเดือน พ.ค. เว้นเสียแต่สถานการณ์ของรัฐบาลไม่สู้ดี จากปัญหารุมเร้าต่างๆ โดยเฉพาะ กระแสเบื่อประยุทธ์ หากลุกลามบานปลายขยายวงมากขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มนิสิตนักศึกษา ขยายไปสู่ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ขณะเดียวกัน ปัญหาหลายเรื่อง ประชาชนเริ่มหมดความอดทนกับรัฐบาล เช่นปัญหาเศรษฐกิจ ก็อาจได้เห็นการปรับ ครม.เกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลายคนคิด

      ข่าวล่าสุดอ้างกันว่า นายกรัฐมนตรีได้บอกกับบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะมีการปรับ ครม.แต่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร และระบุด้วยว่าจะไม่ปรับโควตาในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคใดดูแลกระทรวงใดอยู่จะยังได้ดูแลเหมือนเดิม เพียงแต่ให้แต่ละพรรคไปพิจารณาเป็นการภายในเองว่าจะปรับเปลี่ยนตัวบุคคลอย่างไรหรือไม่ ซึ่งการปรับ ครม.ครั้งนี้ถือเป็นการปรับ ครม.ที่รูปแบบแปลกใหม่ ไม่เหมือนการปรับ ครม.ทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

      ทั้งนี้กระแสข่าวปรับ ครม.ที่เกิดขึ้น แม้รัฐบาลจะบริหารงานได้แค่เจ็ดเดือนกว่า แวดวงการเมืองมองกันว่า เงื่อนไขหลายอย่างเปิดทางให้อาจต้องปรับ ครม. เช่นจำนวนเสียง ส.ส.ในสภาที่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนตั้งรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านเสียงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ทั้งการแพ้เลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม-ขอนแก่น ตลอดจน 4 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ ที่โดนพรรคขับออกจากกรณีเป็น ส.ส.งูเห่า ก็ย้ายมาอยู่ขั้วรัฐบาล อีกทั้งหลังพรรคอนาคตใหม่โดนยุบพรรค ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านในสภาหายไป 11 เสียง แถมไม่พอ ยังมี 9 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่สวิงขั้วมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งก็ยังมี ส.ส.งูเห่าในพรรคฝ่ายค้าน ที่จะออกมาตอนโหวตนัดสำคัญๆ ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชาติ เป็นต้น

      เงื่อนไขทั้งหมดเข้าทางพลังประชารัฐทุกอย่าง เลยทำให้เวลานี้รัฐบาลหมดปัญหาเรื่อง เสียงปริ่มน้ำ ส่งผลให้ดุลอำนาจในพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะมาต่อรองกับพรรคพลังประชารัฐเลยลดน้อยลงไป เพราะจำนวนเสียง ส.ส.เข้าทางพลังประชารัฐและพลเอกประยุทธ์ ให้เป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

      และจากปัจจัยพรรคร่วมรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.จากเดิมตอนจัดตั้งรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทยในช่วงที่ผ่านมา จากเดิมมี ส.ส.ตอนตั้งรัฐบาล 51 คน ได้เก้าอี้รัฐมนตรี 7 คนเท่ากับพรรคประชาธิปัตย์ที่มี ส.ส. 52 คนก็ได้โควตารัฐมนตรี 7 คนเท่ากัน แต่ปัจจุบันมีอดีต ส.ส.อนาคตใหม่มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นรวม 10 คน คือนางศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ และอดีต ส.ส.อนาคตใหม่ที่ย้ายมาตอนอนาคตใหม่ยุบพรรคอีก 9 คน รวมเป็น 10 คน จนทำให้เวลานี้พรรคภูมิใจไทยมี ส.ส. 61  คน เป็นพรรครัฐบาลอันดับสอง รองจากพลังประชารัฐ จนมีข่าวภูมิใจไทยอาจได้เก้าอี้ รมต.เพิ่มอีก 1  คน

      กระนั้นข่าวหลายกระแสบอกว่า แกนนำพรรคภูมิใจไทยยังไม่คาดหวังว่าจะได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มแต่อย่างใด แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า หากมีการเจรจาปรับ ครม.อาจจะมีการต่อรองกันใหม่ เป็นไปได้ที่ประชาธิปัตย์อาจต้องคืนโควตา รมต. 1 เก้าอี้ ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวว่าพรรคขนาดเล็ก เช่นพรรคพลังท้องถิ่นไท ของชัชวาลล์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน ที่ตอนนี้ได้ ส.ส.เพิ่มเข้ามาอีกสองคนที่มาจากอนาคตใหม่ ทำให้มี ส.ส.รวม 5 คน เท่ากับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มี ส.ส. 5 คนได้โควตา รมว.แรงงาน และมีมากกว่าพรรคชาติพัฒนาที่มีเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ที่มี ส.ส. 3 คน อีกทั้งนายชัชวาลล์ยังจับมือกับพรรคขนาดเล็ก เช่นพรรครักษ์ผืนป่าแห่งประเทศไทยของดำรงค์ พิเดช รวมเสียงกันได้ประมาณ 7-8 เสียง จนมีข่าวว่าอาจจะได้โควตา รมต. 1 เก้าอี้ โดยมีกระแสข่าวว่ามีการวางตัวชื่นชอบ คงอุดม ลูกชายไว้เป็นรัฐมนตรี

      เช่นเดียวกับที่ในพรรคพลังประชารัฐก็มีข่าวว่า แกนนำบางกลุ่มกำลังเตรียมเคลื่อนไหวหากมีสัญญาณการปรับ ครม. เช่น อนุชา นาคาศัย รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ, สุชาติ ชมกลิ่น ประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จนทำให้แกนนำและรัฐมนตรีบางคนในโควตาพลังประชารัฐ ที่มีข่าวจะถูกปรับออกเช่น สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษาฯ ออกมาเคลื่อนไหว แสดงความเห็นเรื่องนี้ผ่านพื้นที่โซเชียลมีเดียของตัวเอง แสดงความไม่พอใจกับกระแสข่าวที่ตัวเองจะโดนปรับ ครม.ด้วยเงื่อนไขการเมืองแบบเก่าๆ ที่ไม่มี ส.ส.ในสังกัด

        ความเคลื่อนไหวเรื่องปรับ ครม.แม้ภายนอกจะแลดูเงียบ นิ่งสงบ หลังบิ๊กตู่ยังไม่ส่งสัญญาณอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อได้ว่าเมื่อมีการปรับ ครม.จริงๆ แรงกระเพื่อมหนักๆ เกิดขึ้นแน่ ในพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาล.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"