เดินเกมซักฟอกนอกสภา ฝ่ายค้านตั้งเวที4ภูมิภาค


เพิ่มเพื่อน    


    อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยังไม่จบ! 6 พรรคฝ่ายค้านเปิดเกมซักฟอกนอกสภา เดินสายจัดเวที 4 ภาคทั่วประเทศ "ธนาธร" เจ้าภาพเลี้ยงขอบคุณ 4 มี.ค. ปัดฉลองพรรคใหม่ "อนค." ยัน 55 ส.ส.ย้ายไปด้วยกัน "หมอวรงค์" เตือน "ช่อ" จุ้นตั้งชื่อพรรคเข้าข่ายชี้นำผิดกฎหมาย
    ที่ห้องประชุม 10 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม เวลา 12.00 น. มีการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน (ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน) โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานการประชุม ร่วมกับตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน
    นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะโทษกันไปมา แต่เป็นเวลาที่จะต้องลุกขึ้นสู้เพื่อประชาชน ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพและเข้มแข็งดังเดิม เห็นตรงกันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ควรหยุดเพียงแค่ในสภา จึงจะขอเปิดกิจกรรมอภิปรายนอกสภา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การรวบรวมคำถามทั้งหมดที่ ส.ส.ได้อภิปรายถาม รัฐมนตรีที่ไม่ได้ตอบหรือตอบไม่ครบ จะโพสต์ลงในเพจพรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน 2.การจัดอภิปรายนอกสภาที่จะจัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น 4 ภาคอย่างที่เคยทำ ซึ่งไม่จำกัดเฉพาะผู้ที่ได้อภิปรายและไม่ได้อภิปรายมาร่วมเวทีเท่านั้น ยังเปิดกว้างสำหรับนักวิชาการและประชาชน
    พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า การอภิปรายไม่เสร็จสมบูรณ์เป็นประเด็นที่ 6 พรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย  กฎหมายมีความยุติธรรมแล้ว แต่คนบังคับใช้กฎหมายหรือผู้นำยังขาดความสัตย์ซื่อยุติธรรม จากนี้ 6  พรรคฝ่ายค้านจะร่วมมือกันทำงานให้เข้มแข็งขึ้น ข้อกังขาเรื่องการไปตกลงกับรัฐบาลเพื่อไม่อภิปรายรัฐมนตรีบางคนนั้น ในฐานะที่เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าเราไม่ได้มีการสมยอมกัน เมื่อมีเวลาอภิปรายถึงเที่ยงคืน ถ้าไม่ปิดปากกันจะสามารถพูดจนจบได้     
    ส่วนเนื้อหาในการอภิปราย คณะทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่ามีหลายประเด็นที่รัฐมนตรีตอบไม่ตรงคำถาม เช่นกรณีการใช้ข้อความหรือภาพให้ประชาชนเกิดความเกลียดชัง หรือที่เรียกว่าไอโอ เรื่องนี้อยากเรียนถึงนายกฯ ให้เลิกทำ รวมไปถึงบางเรื่องที่รัฐมนตรีตอบไม่ได้ เช่นคดีความจากศาลออสเตรเลียและเรื่องภาษีบุหรี่ เป็นต้น
    นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป พรรคร่วมฝ่ายค้านรวมตัวเพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือรักษาประชาธิปไตย และอยากให้ประชาชนได้รับการดูแล สู้กับผู้มีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต ฝ่ายค้านมีจุดยืนร่วมกันและจะจับมือกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าต่อไป  การอภิปรายครั้งนี้ยังไม่เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญ ภาระหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้านไม่ได้อยู่เพียงในสภา จะต้องเดินหน้าตรวจสอบทั้งในและนอกสภา โดยการร่วมมือกับประชาชน หากอาศัยเพียงมือในสภาไม่สามารถเอาชนะอำนาจของฝ่ายรัฐบาลได้ ไม่มีอะไรที่จะมาทำลายความรัก ความสามัคคีในการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านได้
    ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สมาชิกพรรคอนาคตใหม่ส่วนหนึ่งจะเดินต่อในนามของคณะอนาคตใหม่ อีกส่วนจะทำงานในสภา ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ได้ไปสัมมนาสรุปบทเรียนร่วมกัน ทั้งการทำงานในพรรคและการทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป อย่างไรก็ดีแต่ละพรรคอาจมีบุคลิกที่ต่างกันออกไป แต่ต่างก็ต้องการให้สังคมเดินหน้า เป็นภารกิจร่วมกัน ขณะนี้การเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นสถานการณ์ที่แหลมคม  เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหา เรื่องนี้ 6 พรรคฝ่ายค้านและภาคประชาสังคมจะต้องทำงานร่วมกันต่อไป
    เมื่อถามว่าการจัดตั้งพรรคใหม่จะทันตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่าทันแน่นอน ภายในเดือนนี้จะประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ขณะนี้มีหลายเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้า  ขอเวลาเราอีกนิดหนึ่ง ส่วนกระแสข่าวการเปิดตัวพรรคใหม่ 8 มี.ค.เป็นเพียงการคุยเบื้องต้นในการสัมมนา ส.ส. ขอยืนยัน ส.ส.จำนวน 55 คนที่จะย้ายมาพรรคใหม่ สำหรับงานเลี้ยงที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 4  มี.ค.เพื่อเลี้ยงขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านนั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะเลี้ยงขอบคุณแกนนำพรรคฝ่ายค้านเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่การเลี้ยงสำหรับพรรคใหม่
    วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)  โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เกี่ยวกับการตั้งชื่อพรรคใหม่ว่า "เตือนคุณช่อนะ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป ทุกคนต้องเคารพคำตัดสินของศาล การที่คุณช่อไปวุ่นวายกับการตั้งพรรคใหม่ หมิ่นเหม่ต่อการผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทั้งมาตรา 28 คือพรรคการเมืองปล่อยให้มีการชี้นำ และมาตรา 29 คือคนเข้าไปชี้นำพรรคการเมือง เพราะคุณถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามยุ่งเกี่ยวการเมือง แม้ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนจัดตั้งพรรคก็ตาม
    ผมเกรงว่าเมื่อตั้งพรรคเรียบร้อย จะมีใครเก็บหลักฐานไปฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  แล้วเรื่องถูกดำเนินคดี คุณก็จะหาว่ากลั่นแกล้งอีก คุณควรรู้จักเคารพกฎหมายบ้าง ก็แค่นี้เองครับ  เพราะไม่อยากให้มีช่องว่างที่คนนำไปฟ้อง หรือว่าไม่ได้อ่านกฎหมาย".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"