พม่าส่งตัวให้ตำรวจไทยแล้ว 2 ฆาตกรฆ่ายัดกระเป๋าลูกนักธุรกิจชาวจีนเพื่อนร่วมชาติ ก่อนนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ รับฆ่าสาวจีนอีกศพยัดกระเป๋าทิ้งน้ำเช่นกัน ด้านครอบครัวผู้ตายจัดพิธีฌาปนกิจเรียบง่ายที่วัดในกำแพงเพชร เรียกร้องจับผู้ร่วมก่อเหตุให้ครบ พร้อมลงโทษประหารชีวิต
    เมื่อวันที่ 4 มีนาคมนี้ ตำรวจควบคุมตัวนายฟาน กังกัง และนายคิน เมียว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่านายจุน หวาง อายุ 30 ปี ทายาทนักธุรกิจชาวจีน ยัดกระเป๋าทิ้งแม่น้ำปิง จ.กำแพงเพชร กลับมาดำเนินคดีในไทยผ่านมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตาก ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา หลังถูกตำรวจเมียนมาจับกุมได้เมื่อ 2 วันก่อน และได้รับการประสานนำตัวมาจากเมืองเมียวดี ข้ามชายแดนใน อ.แม่สอด จ.ตาก กลับมาดำเนินคดีในไทย
    เบื้องต้นทราบว่าหลังทั้งคู่ได้ร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุหนีข้ามชายแดนไปเมียนมา จากนั้นพยายามจะเช่าเรือเพื่อหลบหนีไปตามเกาะ แต่ถูกสกัดจับได้ที่บริเวณทางทิศใต้ของเมืองย่างกุ้ง ภายหลังจากการสอบสวนและตรวจเอกสาร ตำรวจจึงคุมตัวทั้งสองคนไปชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมทำการสอบสวนอย่างละเอียดถึงสาเหตุและพฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่ลงมือฆ่าเพื่อนร่วมชาติอย่างเหี้ยมโหด 
    จากนั้นตำรวจได้คุม 2 ผู้ต้องหาชาวจีนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปทำแผนที่ จ.กำแพงเพชร บริเวณจุดที่มีการทิ้งศพ ส่วนกระเป๋าอีก 1 ใบที่ยังคงหาไม่พบ โดยเจ้าหน้าที่คาดว่าจะมีศพเป็นหญิงอีก 1 รายนั้น ทางผู้ต้องหาทั้งสองได้สารภาพแล้วว่าลงมือฆ่าเหยื่อที่เป็นหญิงสาวจริงด้วยการใช้อาวุธมีดแทง ก่อนยัดกระเป๋าโยนทิ้งน้ำเป็นศพที่ 2 ทั้งนี้ หลังจากการทำแผนตามจุดที่เกี่ยวข้องเสร็จสิ้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อหาเบาะแสแหล่งที่ซ่อนของผู้ร่วมขบวนการต่อไป
    อีกด้านหนึ่ง ที่วัดบ่อสามแสน ต.หนองปลิง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีพิธีฌาปนกิจนายหว่าง จุ้น เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 4 มี.ค. โดยพิธีเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีการเผากระดาษส่งวิญญาณตามประเพณีจีน ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติผู้เสียชีวิต ที่ร้องไห้ระงมเรียกชื่อผู้ตายอยู่เป็นระยะ
    นายวัฒน์ชานนท์ ธนโชตน์ชยาภา ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากนี้ญาติจะนำเถ้ากระดูกของผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ประเทศจีน โดยคาดว่าอาจจะเดินทางกลับในวันที่ 5 มี.ค.นี้ แต่ยังต้องรอดูว่าตำรวจจะเรียกสืบพยานนัดแรกหรือไม่ เนื่องจากพยานเป็นชาวต่างชาติ หากเดินทางกลับประเทศจีนแล้วอาจจะประสานงานตามตัวกลับมาสืบพยานในชั้นศาลได้ค่อนข้างยาก ส่วนสภาพจิตใจครอบครัวค่อนข้างย่ำเเย่ โดยเฉพาะพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิตที่ประเทศจีน เนื่องจากผู้ตายเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน และเพิ่งทราบข่าวร้ายดังกล่าว 
    นายวัฒน์ชานนท์กล่าวด้วยว่า ทางครอบครัวให้ข้อมูลว่านายหว่าง จุ้น เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำงาน แต่ไม่ทราบว่างานอะไร เพราะที่ผ่านมาก็เดินทางไปทำงานหลายประเทศ กระทั่งมาทราบข่าวโดยการประสานจากกู้ภัยจีน ว่านายหว่าง จุ้น เสียชีวิต ทุกคนต่างก็ช็อก ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุ ญาติๆ บอกว่าไม่เคยเห็นหน้าเเละไม่เคยรู้จักมาก่อน ดังนั้นจึงต้องการให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ทั้งหมด และขอให้ประหารชีวิต ส่วนศพผู้เสียชีวิต ผลการชันสูตรอย่างไม่เป็นทางการ พบว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และมีรอยถูกของแข็งทุบบริเวณช่วงท้ายทอย.