'ทุนใหญ่' ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น


เพิ่มเพื่อน    

      มีข่าวออกมา หลังประชุม ครม.เมื่อวาน (๒๗ มี.ค.๖๑)

      ที่ประชุม "ยังไม่เห็นชอบ"...........

      ที่จะใช้มาตรา ๔๔ ช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ตามที่ กสทช.เสนอให้พักชำระค่าใบอนุญาต  ๓ ปี

      และ "ลดราคา" ค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัลภาคพื้นดิน (ค่ามัค) ให้แก่ผู้ประกอบการ ๕๐% เป็นระยะเวลาไม่เกิน ๒ ปี

      รวมทั้ง "ยังไม่เห็นชอบ"

      มาตรการ "ช่วยเหลือ" ค่ายมือถือ ที่ประมูลคลื่น ๙๐๐ เมกะเฮิรตซ์ได้ไป ๒ ราย คือ AIS กับ TRUE

      ที่จะให้ยืดเวลาชำระงวดที่ ๔

      โดยแบ่งการชำระออกไปเป็น ๕ ครั้ง!

      เป็นไงครับ มีความรู้สึกนึกคิดเรื่องนี้อย่างไรกันบ้าง ในส่วนผม เห็นลีลารัฐบาลแล้ว ขอบอก

      "อย่าเชียวนะ"!

      ที่เขานินทากันว่า แต่ละเมกะโปรเจกต์รัฐบาลทหารมักเอื้อนายทุนนั้น จริงๆ แล้ว ไม่ได้เอื้อหรอก

      "เอื้อการลงทุน" ในระบบแข่งขันตะหาก ใครก็ได้ มีทุน-มีศักยภาพ เข้าแข่งขันได้ทั้งนั้น

      ในเมื่อ ประเทศเราอยู่ในระบบ "เศรษฐกิจทุนเสรี" ก็ต้องเข้าใจกันตรงนี้

      ไม่เกี่ยวกับเรื่องเอื้อ-ไม่เอื้อใคร จะเกี่ยวก็ตรง "กูอิจฉา" นี่แหละ

      คนไทยได้โครงการ ก็ค่อนขอด ว่ารัฐบาลเอื้อกลุ่มทุน

      ครั้นต่างชาติได้โครงการ ก็ด่า ว่า "ยกแผ่นดิน" ให้ต่างชาติ!

      ครั้น ใครมาเป็นรัฐบาล บริหารแบบพรหมลูกฟัก เอาแต่กินกับนอนอึ้ดทึ่ด

      ก็ถูกด่าอีก........

      "ดีแต่พูด ไม่เห็นทำอะไร"

      หรือไม่ก็......

      "ดีแต่เผาบ้าน-เผาเมือง กับโกงบ้าน-กินเมือง"!

      สรุปแล้ว ผมไม่รู้เหมือนกัน แบบไหน ถึงจะเป็นรัฐบาลในสเปกคนไทย?

      คิดตามประสาผม ด้วย "ลักษณะสังคม" เช่นนี้ ใครเข้ามาเป็นรัฐบาล ต้อง "เข้ามวย" สังคมไทยให้เป็น

      คือประชาธิปไตยเต็มใบ ก็ไม่ชอบ เผด็จการเต็มตีน ก็ไม่เอา สังเกตมั้ย.........

      เดี๋ยวนี้ การกินก๋วยเตี๋ยวของคนไทยพัฒนารูปแบบต่างไปจากอดีต

      ก่อนๆ สไตล์การกิน จะแห้ง ก็ไปชาม จะน้ำ ก็ไปอีกชาม

      แต่ตอนนี้ สั่งแห้ง แต่ขอ "น้ำซุป" ถ้วยนึงตะหาก

      เลยบอกไม่ถูก คนไทยรสนิยมแห้งหรือน้ำกันแน่?

      รสนิยม "ตามอารมณ์กู" แบบนี้ ก็ไม่ยาก สำหรับคนที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ขอเพียงมี ๒ อย่าง ในภาวะผู้นำ

      คือ กล้าคิดนำ-กล้าทำตามคิด

      กับ กล้าที่จะไม่โกง-ไม่ตุกติกในสิ่งที่ทำ!

      ทีนี้ ก็ย้อนกลับไปดู เรื่องอนุบาลทีวีดิจิทัล กับเรื่องอุ้มค่ายมือถือกันบ้าง

      ที่ชงให้นายกฯ ใช้ ม.๔๔ เยียวยาทีวีดิจิทัล กับยืดค่างวดคลื่น ๙๐๐ ให้ เอไอเอส-ทรู 

      สังเกตให้ดี.........

      ที่ ครม.ตีกลับ ไม่ใช่รัฐบาลไม่โอเค หากแต่เขาใช้คำว่า

      "ครม.ยังไม่เห็นชอบ"!

      นี่คือเล่ห์ภาษาของรัฐบาล คสช. "เคาะดูหน้าไพ่" ฝ่ายประชาสังคมก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ ว่า

      จะใส่ หรือ จะหลบ?

      ความเห็น "กรอบกว้าง" ของผม ไม่เห็นด้วยที่จะอุ้ม-จะเยียวยา

      การประมูลทั้งทีวีดิจิทัลและคลื่นมือถือ รัฐบาลไม่ได้เอาปืนไปจี้หัวใครมาประมูล

      ก็เห็นแย่งกัน ใส่เงินเกทับ-บลัฟแหลกกัน ราคาร้อยแย่งใส่กันจนเป็นพัน-เป็นหมื่น

      สุดท้าย เข้าตำรา "ได้...กูเอา"

      แต่เมื่อเอาไปแล้ว ปรากฏว่า ขายอากาศไม่ได้อย่างที่ฝันหวาน ก็ออกในรูป

      "เสีย..กูไม่ยอม"!

      อำนาจรัฐ สร้างความเคยตัวระบบประมูล จนจะกลายเป็น "วัฒนธรรมประจำชาติ" ไปแล้ว

      คือ "เอามาให้ได้ก่อน"...........

      แล้วค่อยไปมุดใต้โต๊ะ ต่อรอง "ขอลด-ขอยืด-ขอเพิ่ม" ทีหลัง โครงการรัฐสภา ที่เกียกกาย นั่นตัวอย่างเห็นชัด!

      ทีวีดิจิทัลน่ะ ล้วนมืออาชีพ หมายมั่นเข้ามาขายอากาศ "รวยเป็นวินาที" กันทั้งนั้น

      งบโฆษณาทีวี ในวงการเขาเปรียบว่า "เค้กก้อนใหญ่"

      ทุกค่าย "เห็นเค้ก" ตาโต.......

      กรูกันเข้าไป หวัง "ส่วนแบ่งเค้ก"!

      เจ้าของค่าย จะสมอยาก เป็นเจ้าของช่องดิจิทัลได้ ก็ต้อง "สมประโยชน์" กับพวกแบงก์ด้วย

      เพราะตามเงื่อนไขสัญญา ต้องมี "สถาบันการเงิน" การันตีค่าใบอนุญาตในการประมูล

      แต่เมื่อมีปัญญาแค่ได้ใบอนุญาต แต่ไม่มีปัญญาสร้างสรรค์รายการ ทางออก ก็คือ

      "ได้เอา-เสียไม่จ่าย"...........

      ขอผ่อนผัน ขอแก้สัญญา ขอเยียวยา อ้างสารพัดที่จะไม่จ่าย

      แต่ละค่าย เมื่อเข้าประมูล มีทุนพร้อมได้-พร้อมเสียส่วนหนึ่งอยู่แล้ว

      แต่ที่พร้อมได้ แต่ไม่ยอมเสีย น่าจะเป็นพวกแบงก์ ผู้เป็นนายประกันให้แต่ละค่ายที่ชนะประมูลมากกว่า

      ในเมื่อ ผู้กู้ไม่จ่าย..........
      รัฐบาลก็มีหน้าที่ ไล่เบี้ยเอากับผู้ค้ำ คือแบงก์!

      รัฐบาลไม่มีอำนาจล้มล้างสัญญา ที่ผู้ให้/ผู้รับ ต่างพอใจ-ตกลงตามเงื่อนไขอันถูกต้องตามกฎหมาย

      ถ้าเอะอะ ใช้ ม.๔๔ ล้างได้ทุกกฎหมาย-สัญญาในประเทศ นายกฯ ประยุทธ์นั่นก็....ระวังเหอะ!

      เคยเห็นแบงก์มันปรานี "หยุดต้น-หยุดดอก" ให้ลูกหนี้คนไหนบ้าง?

      เห็นแต่ คนกู้ไม่จ่าย แบงก์รีดเอากับคนค้ำทุกราย

      คนค้ำไม่จ่าย มันใช้ระบบศาล ส่งหมายจิกกระบาล-ลากตัวไปขึ้นศาลแทบทั้งนั้น!

      ฉะนั้น ที่จะพักชำระหนี้-ลดค่าเช่าทีวีดิจิทัลนั้น ฉากหน้า เหมือนเยียวยาผู้ประกอบการ

      แต่เนื้อแท้ "อุ้มแบงก์" มากกว่า!?

      คิดกันหยาบๆ ไม่ต้องพูดเงินต้น..........

      เอาแค่พักชำระหนี้ ๓ ปี ลดค่าเช่าโครงข่าย ๕๐% ไม่เกิน ๒ ปี

      เฉพาะดอกเบี้ย จากเงินต้นนับหมื่นล้าน มันเท่าไหร่แล้วล่ะ?

      หายวับไปกับตา........

      บอกว่าไม่มีใครได้-ใครเสีย อมโบสถ์มาพูดก็ไม่มีใครเชื่อ และจริงๆ แล้ว ผู้เสียเห็นๆ คือ ประชาชนบนฐานภาษี

      เรื่องนี้ เดินไปตามครรลองกฎหมาย อย่างที่ "นางติ๋ม" ทีวีพูล เขาทำ นั่นจะแฟร์ตามกระบวนการ

      ใครเห็นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามสัญญา จะไม่จ่าย หรือขอลด ขอเยียวยาอย่างไร

      ไปฟ้องร้อง ให้ศาลชี้ขาด!

      ก็เห็นหลายช่องมีกำไร ประมูลมาเหมือนกัน เขาทำได้-ไปรอด อย่างนี้ ให้รัฐไปเก็บเงินเพิ่มได้มั้ย?

      ก็ไม่ได้.........

      ในเมื่อกำไรแล้ว ไปเก็บเพิ่มไม่ได้ ตรรกะเดียวกัน ทำขาดทุนแล้ว จะให้อุ้ม-ให้ลด มันจะได้อย่างไร?

      แบงก์น่ะ ก่อนจะค้ำประกัน เขาศึกษา สำรวจ วิเคราะห์-วิจัยโครงการ จนมั่นใจแล้วว่า "กำไรแหง...กูรวยด้วยแน่" จึงยอมค้ำ

      แต่ถึงทีจะ "เจ๊งกำไร" บ้าง........

      แบงก์ จะถีบหลังผู้ประกอบการให้ออกหน้า ร้องรัฐบาล "อุ้มหน่อย...เยียวยาหน่อย"

      ทุเรศ!

      ส่วนประเด็น AIS กับ TRUE ร้องให้ใช้ ม.๔๔ อุ้ม ยืดจ่ายค่างวดคลื่น ๙๐๐ นั่นน่ะ

      มันยิ่ง "โคตรทุเรศ" หนักกว่า

      นี่แหละ ที่เรียก "มักได้-เคยตัว-เคยชิน" ประมูลมาให้ได้ก่อน แล้วไปต่อรอง-ร้องขอภายหลัง!

      ตัวอย่างสดๆ เมื่อวาน ศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริต สั่งจำคุก ๖ ปี นายสุธรรม มลิลา อดีต ผอ.องค์การโทรศัพท์ สมัยทักษิณ

      ทำสัญญากับ AIS ไว้อย่าง

      เมื่อ AIS ได้สัญญาแล้ว ต่อมาก็ทำหนังสือถึงนายสุธรรม

      "ขอให้พิจารณาปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า"

      จะว่าไป กรณี ทีวีดิจิทัล ยังมีเหตุผลที่จะร้องขอ แต่กรณี ๒ ค่ายมือถือ ต้องเรียกว่า "หน้าด้าน"

      ไม่มีเหตุอันควรร้องเลย ได้คลื่นไปแล้ว AIS ก็กำไรตลอด ปีที่ผ่านมากำไรเพิ่ม ปันผลเยอะแยะ

      TRUE เหมือนกัน.......

      จากที่ขาดทุนมาตลอด ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงหายขาดทุน ยังมีกำไร จ่ายปันผลได้เป็นครั้งแรก

      แล้วอะไรคือเหตุผล ที่ขอให้นายกฯ ใช้ ม.๔๔ อุ้ม ยืดชำระค่างวดสุดท้ายที่จะถึงในปี ๒๕๖๓ ออกไปอีก ๕ งวด?

      อีกตั้ง ๒ ปีด้วยซ้ำ กว่าจะถึงงวดจ่าย

      กลับ "อ้างจน" ขอล่วงหน้า ก็คงเห็น ทีวีดิจิทัลเขาขอ กลัวเสียเปรียบ กูขอมั่ง?

      งวดสุดท้าย รายละประมาณกว่า ๖ หมื่นล้าน จะยืดไป ๕ ปี ก็ได้

      แต่คิดดอกเบี้ย "ผิดนัดชำระ" ร้อยละ ๒๐ ตกลงมั้ย?

      ถ้าตกลง ก็โอเค!

      สรุป ในชั้นนี้ รัฐบาล "ยังไม่เห็นชอบ" ตามที่ขอ โดยเป็นการไม่เห็นชอบด้วย "วิษณุลีลา"

      "ให้ กสทช.ทำเอกสารชี้แจงเหตุผล-ความจำเป็นที่ต้องออกมาตรการช่วยเหลือมาให้ คสช.ดูอีกที!"

      กรณี ทีวีดิจิทัล การเยียวยา พอรับได้

      แต่กรณี คลื่น ๙๐๐ เอไอเอส กับ ทรู รับไม่ได้

      ถ้าใช้ ม.๔๔ อุ้ม เป็นได้ ๒ ทาง

      ไม่โง่ ก็ งาบ!

      ถ้าเอะอะอุ้ม-เยียวยา ผมในฐานะสื่อกระดาษ จ่ายภาษีให้รัฐ รายเดือน-รายปี ไม่เคยบิดพลิ้ว ก็จะขอให้ใช้ ม.๔๔ กับผมบ้าง

      "สั่งปิดไทยโพสต์" ก่อนเจ๊งทีเถอะ

      ไม่งั้นก็ ........

      เยียวยามาซักร้อย-ครึ่งร้อยล้าน ก่อนหมดลม!


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"